นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางมอบนโยบายให้กับธนาคารออมสิน โดยย้ำว่า ต้องปรับบทบาท และรู้จักคิดใหม่ ควรเน้นช่วยสร้างโอกาสและพัฒนาผู้มีรายได้น้อยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่จำเป็นต้องเน้นเรื่องการการหารายได้เพื่อส่งเข้าคลัง หรือการทำกำไรมากมาย แต่อยากให้เน้นเรื่องการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยตามนโยบายรัฐบาลเพิ่มมากขึ้น  เนื่องจากผู้มีรายได้น้อยยังต้องการความช่วยเหลืออยู่ 
            โดยให้มีการจัดกลุ่มเป้าหมายสำคัญเป็น 4 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มฐานราก ผู้มีรายได้น้อย คนตัวเล็ก ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี พ่อค้า แม่ค้า เป็นต้น 2. กลุ่มชนชั้นกลาง คนที่มีงานทำ อยู่ในเมือง มีรายได้สูงกว่ากลุ่มฐานราก 3. กลุ่มสตาร์ทอัพ และ 4. กลุ่มผู้สูงวัย ที่ยังมีศักยภาพในการทำงานได้ 
            นอกจากนี้บริษัทต้องมีการจัดทำ Big Data ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะนำไปสู่การพัฒนาในส่วนอื่น ๆ ตามมา เช่นการปล่อยสินเชื่อเพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจประเทศในอนาคต ต้องเริ่มก้าวไปให้เข้ากับยุคดิจิทัล เราต้องนำดิจิทัลมาใช้เพื่อเสริมในส่วนต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับประเทศ และยังต้องการให้ออมสินเป็น Local Bank เพื่อยังใกล้ชิดกับประชาชนต่อไป และให้สามารถเชื่อมโยงกับสถาบันการเงินชุมชน 
            นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังต้องการให้ธนาคารออมสิน เตรียมความพร้อมเรื่องการสร้างหรือสรรหา ผู้ดูแลผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (Account Officer: AO) หรือ หมอประชารัฐสุขใจ เพื่อทำหน้าที่สำรวจสภาพข้อเท็จจริง สอบถามความประสงค์ และให้คำแนะนำแผนการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่เหมาะสม  โดยจะต้องต้องเริ่มลงพื้นที่สำรวจผู้มีรายได้น้อยรายตัวในเดือน ก.พ. - มี.ค นี้ เพื่อใส่ข้อมูลที่สำรวจได้เข้าระบบภายใน 3 เดือน ซึ่งเรื่อง AO อยากให้บอร์ดนำบรรจุไว้เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดการทำงานปีนี้ด้วย  เพราะของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ก็ใช้เป็นตัวชี้วัดการทำงาน เพราะเรื่องนี้ถือว่าสำคัญมาก