สีจิ้นผิงกับปูติน: การทูตแพนเค้ก, ไข่ปลาคาเวียร์และวอดก้า


เพิ่มเพื่อน    

    เห็นภาพสีจิ้นผิงกับวลาดิเมียร์ ปูติน ถ้อยทีถ้อยอาศัยช่วยกันทำแพนเค้กอย่างสนิทสนม...แล้วนั่งลงจิบวอดก้ากับไข่ปลาคาเวียร์ที่เมืองวลาดิวอสต็อกของรัสเซียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้วก็เห็น "ระเบียบโลกใหม่" ที่กำลังจะปรากฏโฉมให้เราได้เห็นอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ
    เพราะอีกด้านหนึ่งของโลกคือ โดนัลด์ ทรัมป์แห่งวอชิงตัน ซึ่งกำลังฟาดฟันกับการเปิดโปงความสับสนอลหม่านในทำเนียบขาวโดยนักข่าวอาวุโส Bob Woodward และ "บทความนิรนาม" ใน The New York Times ที่สร้างความสั่นสะเทือนให้บัลลังก์อำนาจของผู้นำสหรัฐฯ ยิ่งนัก
    สองผู้ยิ่งใหญ่จากปักกิ่งและมอสโกมาพบกันอีกครั้งเพื่อยืนยันความสัมพันธ์แนบแน่นระหว่างสองประเทศ
    เป็นการพบกันระหว่างงานประชุม Eastern Economic Forum อันเป็นจังหวะเดียวกับที่ทรัมป์ประกาศสงครามการค้ากับจีน และวอชิงตันยังเดินหน้าด้วยมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียว่าด้วยกรณีมอสโกรุกเข้ายูเครน
    และกรณีที่รัสเซียถูกโลกตะวันตกกล่าวหาว่าไปวางยาพิษสังหาร "สายลับสองหน้า" ชาวรัสเซียที่ชื่อ Sergei Skripal และลูกสาวที่อังกฤษ
    มีการประกาศว่ากลุ่มธุรกิจจีนและรัสเซียกำลังพิจารณาโครงการร่วมลงทุนทั้งหมด 73 โครงการ  รวมมูลค่ากว่า 1 แสนล้านเหรียญ โดยที่ 7 โครงการได้เริ่มเดินหน้าแล้ว
    ไม่แต่เท่านั้น กองทุนการลงทุนรัสเซีย-จีน หรือ (Russia-China Investment Fund, RCIF) ได้ประกาศแผนร่วมลงทุนพัฒนาเทคโนโลยี สร้างศูนย์ไฮเทคชั้นสูง ลงทุนกว่า 100 ล้านเหรียญด้วย
    แม้ทรัมป์พยายามสร้างภาพตีสนิทกับปูติน แต่การสอบสวนโดยคณะกรรมการอิสระที่นำโดยอดีตผู้อำนวยการเอฟบีไอ Robert Mueller ที่ตั้งประเด็นว่ารัสเซียเข้ามาแทรกแซงกระบวนการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ซึ่งอาจโยงไปถึงตัวทรัมป์เอง ทำให้ความตึงเครียดระหว่างวอชิงตันกับมอสโกยังอยู่ในระดับสุ่มเสี่ยงจะย่ำแย่ลงต่อเนื่อง
    ชัดเจนว่าปูตินกับสีจิ้นผิงจับมือกันเพื่อแสดงพลังต่อรองกับทรัมป์ เพราะในที่ประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจครั้งนี้ สองผู้นำประกาศว่าจะใช้เงินสกุลของตนเองในการค้าขายระหว่างกัน
    แปลง่ายๆ ก็คือจีนกับรัสเซียกำลังบอกว่าจะลดการพึ่งพาเงินสกุลดอลลาร์ให้น้อยลง "เพื่อเพิ่มเสถียรภาพของธนาคารในการบริการการนำเข้าและส่งออก ขณะที่ความเสี่ยงในตลาดโลกมีเพิ่มสูงขึ้น..."
    ก่อนหน้านี้ปูตินเคยบอกว่า "ข้อพิพาททางการเมือง" มีผลทำให้เงินสกุลดอลลาร์อ่อนแอลงในฐานะเป็นเงินสำรองระหว่างประเทศ
    ไม่แน่ใจว่าผู้นำรัสเซียหมายถึงอะไร แต่ค่อนข้างชัดเจนว่าปูตินเล่นเกมกับอเมริกา...ด้านหนึ่งก็พยายามเอาใจทรัมป์ แต่อีกด้านหนึ่งก็รู้ว่าต้องรักษาท่าทีแข็งกร้าวเอาไว้ เพราะไม่แน่ใจว่าทรัมป์จะโดนการสอบสวนในประเทศเล่นงานหนักหน่วงถึงขั้นหมดสภาพหรือไม่
    ปูตินเอาใจสีจิ้นผิงด้วยการบอกว่า เงินสกุลหยวนของจีนยิ่งวันก็ยิ่งมีความโดดเด่นและเข้มแข็งในฐานะเป็นเงินสำรองระหว่างประเทศ
    พูดง่ายๆ คือปูตินกำลังบอกว่าจีนกำลังจะมาทดแทนสหรัฐฯ ในเวทีสากล และรัสเซียกำลังกระโดดมาอยู่ข้างจีนอย่างไม่ลังเล
    เรากำลังเห็นภาพแห่งดุลอำนาจใหม่ของโลกเปลี่ยนไปต่อหน้าต่อตา 
    "สมการใหม่ของโลก" จะออกมาในรูปใดยังไม่ชัด แต่ที่แน่ๆ คือทรัมป์กำลังทำให้จีนยิ่งใหญ่ สอดคล้องกับที่มีคนกล่าวว่า Trump Makes China Great Again
    และที่แน่ชัดจริงๆ ก็คือยิ่งทรัมป์เล่นเกมการเมืองระหว่างประเทศตามสไตล์ของตัวเองอย่างนี้ ก็ยิ่งทำให้สีจิ้นผิงกับปูตินมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้น
    มากให้ใกล้ขึ้นอีกก็จะเห็นภาพของคิม จองอึนแห่งเกาหลีเหนือ ยืนยิ้มอยู่ข้างหลังสองพี่ใหญ่สีและปูติน ที่กำลังให้คำแนะนำผู้นำเปียงยางว่าควรจะต่อรองกับทรัมป์อย่างไรบ้าง
    เกมนี้เพิ่งเริ่ม ใครได้ใครเสียอย่างไรกำลังจะชัดขึ้นทุกวัน
    เดิมพันสูงยิ่งนักสำหรับคนทั้งโลก...และไทยเราก็ไม่ได้เป็นข้อยกเว้นแต่อย่างใด.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"