วรงค์รอเปิดตัวชิง/จ้อนส่อแห้ว


เพิ่มเพื่อน    

  "หมอวรงค์" พอใจ "อภิสิทธิ์" ยอมถอยไฟเขียวให้ส่งตัวแทนร่วมทำแอปพลิเคชันหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค หลังควง "ถาวร" บุกจับเข่าคุย รับยังติดใจวิธีนับคะแนน อยากใช้วันแมนวันโหวตแทนสัดส่วน "มาร์ค" ย้ำทุกกระบวนการทำอย่างเป็นธรรม ลั่นทั้งหมดเสร็จภายในเดือน พ.ย.แน่นอน "อลงกรณ์" ถามกว่า 20 ปีพิสูจน์เลือดแท้-เลือดเทียมได้หรือไม่ "บุญยอด" ตามอัด "จ้อน" ขาดคุณสมบัติ 

    เมื่อวันที่ 21 ก.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายถาวร เสนเนียม อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้สนับสนุน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ที่ประกาศตัวชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความกังวลเรื่องการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคว่า ตนก็ยังสงสัย เพราะบางเรื่องก็ไม่ใช่สิ่งที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคได้พูดคุยกัน 
    "ขณะนี้ยังไม่มีข้อยุติที่ชัดเจน มีแต่เพียงความเห็นในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคเท่านั้น ซึ่งเห็นว่ายังไม่มีจุดไหนที่เกิดความไม่เป็นธรรม ที่ผ่านมาผมเป็นผู้ตรวจสอบระเบียบเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด ข้อมูลบางส่วนจึงเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ซึ่งผมสามารถชี้แจงได้ทุกเรื่อง" นายอภิสิทธิ์กล่าว 
    ต่อมา นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ผู้ที่ประกาศตัวชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายถาวร เสนเนียม อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางเข้าพบนายอภิสิทธิ์ และนายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรค ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อหารือถึงข้อกังวลการหยั่งเสียงผ่านแอปพลิเคชัน และการจะใช้ระบบนับคะแนนแบบสัดส่วน (อิเล็กทรอรัลโหวต)
    นพ.วรงค์กล่าวหลังการหารือว่า พอใจผลการหารือเกี่ยวกับความกังวลในการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคในเบื้องต้น เนื่องจากทีมนายอภิสิทธิ์รับฟัง และยอมให้ส่งตัวแทน 3 คน ร่วมหารือการทำแอปพลิเคชันหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค แทนที่เดิมให้นายศิริโชค โสภา เป็นผู้ประสานบริษัทเพียงฝ่ายเดียว โดยจะหารือกันวันที่ 24 ก.ย.นี้ 
    อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ส่วนประเด็นเรื่องสมาชิกเก่า 2 ล้านคน ที่ยังไม่ยืนยันความเป็นสมาชิก แต่จะให้สิทธิในการโหวต เกรงว่าจะขัดกับกฎหมาย แต่เมื่อหัวหน้าพรรคมั่นใจว่าสามารถทำได้ ก็สบายใจ แต่ยังติดใจวิธีการนับคะแนนเสียง ที่จะใช้ระบบสัดส่วน เพราะเห็นว่าทุกคนมีความเป็นสมาชิกเท่ากัน ควรใช้ 1 คน 1 เสียง หรือวันแมนวันโหวต 
    “ยืนยันการลงแข่งชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคไม่ใช่ความขัดแย้งภายในพรรค เพราะไม่ว่าจะได้รับเลือกหรือไม่ จะยังทำงานกับพรรคประชาธิปัตย์เช่นเดิม และยอมรับผลการตัดสินใจของสมาชิก รวมทั้งไม่รู้สึกกังวลที่ถูกมองว่าไม่ได้เป็นเลือดประชาธิปัตย์ที่แท้จริง" อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าว 
    นพ.วรงค์กล่าวด้วยว่า ในสัปดาห์หน้าจะแถลงเปิดตัวพร้อมทีมงานอย่างเป็นทางการ โดยจะแจ้งสื่อล่วงหน้า 3 วัน จะใช้สถานที่นอกพรรคในการแถลง ซึ่งจะได้พบกับมิติใหม่ ขอให้รอติดตาม
    จากนั้นเวลา 16.00 น. นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงวิธีออกเสียงเลือกหัวหน้าพรรคว่า ขณะนี้มีคณะทำงานกำลังศึกษาว่าควรจะเป็นการออกเสียงแบบ 1 คน 1 สิทธิ์ หรือเป็นแบบอิเล็กทรอรัลโหวต ถ้าคณะทำงานส่งมาที่ตน แล้วจะได้พิจารณาข้อดี-ข้อเสียของแต่ละรูปแบบ โดยจะยึดหลักเกณฑ์ให้การหยั่งเสียงครั้งนี้เป็นธรรมที่สุด 
    นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า กรณีจะให้สมาชิกพรรคเดิมที่มีอยู่ 2.5 แสนคนมีสิทธิ์ออกเสียงนั้น เห็นว่าพวกเขาเคยเป็นสมาชิกและไม่เคยลาออก แต่ที่พ้นสภาพเพราะคำสั่ง คสช. ซึ่งเราคิดว่าเขามีใจให้พรรคก็น่าจะให้เขามีส่วนร่วม ซึ่งความจริงเรื่องนี้ควรจะเปิดกว้าง เพราะยิ่งกว้างเราก็จะยิ่งได้การมีส่วนร่วมและได้การแข่งขันอย่างเป็นธรรมชาติ 
    หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ทุกอย่างจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์หน้า เพราะตั้งเป้าหลังประชุมใหญ่ ถ้าไม่ติดข้อขัดข้องเทคนิคอะไรจะเปิดรับสมัครสมาชิกใหม่ให้เร็วที่สุด เพราะแจ้ง กกต.ไปแล้ว ระหว่างนี้รอข้อบังคับจากที่ประชุมใหญ่ เมื่อได้ก็จะออกระเบียบเกี่ยวกับการหยั่งเสียง โดยคาดว่ากระบวนการหยั่งเสียงทั้งหมดจะสิ้นสุดภายในเดือน พ.ย.นี้ เพราะคนที่จะได้เป็นหัวหน้าคนต่อไปต้องเตรียมอีกหลายเรื่อง
    “สิ่งที่ผมทำในกระบวนการนี้ ต้องการให้คุณกับประชาธิปัตย์ ประชาธิปไตย และประเทศมากที่สุด เราคิดว่าทำอย่างไรให้ประชาธิปไตยเกิดขึ้นในพรรค และประชาธิปัตย์เปิดกว้างมากที่สุด ดังนั้นความเห็นที่คิดต่างมีได้ แต่ยืนยันไม่มีคิดเล็กคิดน้อยแน่นอน” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
    ถามถึงกระแสข่าวนายสุรบถ หลีกภัย ลูกชายนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค จะลงสมัครส.ส. นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เคยชักชวนได้ครั้งหนึ่ง แต่ตอนนั้นนายสุรบถปฏิเสธ เพราะมีงานอย่างอื่นทำอยู่ แต่เวลานี้ไม่ทราบเช่นกันว่าจะแสดงเจตจำนงอย่างไร แต่ถือว่าเป็นบุคคลหนึ่งที่มีศักยภาพที่จะสามารถทำสิ่งใหม่ๆ ให้กับพรรคได้
    วันเดียวกัน นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องเลือดแท้-เลือดเทียมในปชป. ว่าเห็นด้วยกับแนวคิดของนายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และขอเพิ่มเติมเป็น 2ประเด็น คือ 1.วัดด้วยนิตินัยหรือพฤตินัย ซึ่ง ปชป.ไม่ได้วัดเลือดแท้ เพราะการลงทะเบียนเป็นสมาชิก 1 แสนคนล่าสุด ก่อนหน้านี้ ปชป.มีสมาชิกลงทะเบียนเกือบ 3 ล้านคน คนเหล่านี้คือ ปชป.หรือไม่ ถ้ายึดหลักนิตินัย ก็ต้องตอบว่าไม่ใช่ แต่ถ้ายึดหลักพฤตินัย คำตอบคือใช่   และสมาชิกกว่า 2 ล้านสามารถสมัครเป็นสมาชิกได้ตลอดเวลา รวมทั้งอีกหลายล้านคนที่ลงคะแนนสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ 2.วัดด้วยอุดมการณ์ของ ปชป.ไม่ว่าอยู่ที่ไหน และอยู่ในสถานะใด แม้เป็นสมาชิกลงทะเบียน แต่ไม่มีอุดมการณ์ ก็คงจะเป็นเลือดแท้ไม่ได้ใช่หรือไม่ หรืออยู่ข้างนอก แต่ยึดมั่นอุดมการณ์ของพรรค จะเรียกว่าเลือดเทียมได้อย่างไร
    นอกจากนี้ นายอลงกรณ์ได้เล่ารายละเอียดของตัวเองในพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าไม่เคยย้ายพรรค และต่อสู้แนวทางเดียวกับพรรคมาตลอด 20 ปี "กว่า 20 ปีไม่ใช่เวลาสั้นๆ ในการพิสูจน์ตัวเองว่าผมเป็นเลือดแท้หรือเลือดเทียมครับ แม้วันหน้าจะลงทะเบียนกลับเป็นสมาชิกและลงสมัครหัวหน้าพรรคหรือไม่ก็ตาม"
    ส่วนนายบุญยอด สุขถิ่นไทย อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์  โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเรื่อง "พี่อลงกรณ์ ขาดคุณสมบัติ ลง ส.ส.ไม่ได้ ยังจะท้าแข่งหัวหน้าพรรคเพื่อ???" ระบุว่า หากนายอลงกรณ์ลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แล้วได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค จะต้องนำพรรคลงแข่งในสนามเลือกตั้ง ส.ส. แต่นายอลงกรณ์ ในฐานะสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หมดสิทธิ์ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.แล้ว.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"