แค่คำว่า "ผมสนใจงานการเมือง" ก็สร้างแรงกระเพื่อมเกินคาด 
    พรรคการเมืองขยับกันพรึ่บพรั่บ! เพราะมีคู่แข่งเพิ่ม แม้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่มันคือความจริงที่หนีไม่พ้นแล้ว 
    ขณะที่ "บิ๊กตู่" อารมณ์ดีเป็นพิเศษ เพราะปลดล็อกระบายความในใจไปเรียบร้อย แม้การเมืองที่พุ่งเป้าไปที่ตำแหน่งหัวหน้า คสช. และนายกรัฐมนตรี 
    มีเสียงด่าไล่หลัง และเรียกร้องให้ "บิ๊กตู่" ลาออก ก่อนจะทำงานการเมือง  
    แต่....คำตอบคือ
    "ผมยืนยันว่าผมไม่กลัว เพราะผมอยู่กับพวกท่านมา ๔ ปีแล้ว ผมก็อดทนและพยายามทำความเข้าใจ แต่บางครั้งก็มีนิดหน่อยหงุดหงิดบ้างอะไรบ้าง ก็ถือเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ แต่ผมก็ปรับตัวมาโดยตลอด ๔ ปี ก็มีการพัฒนามากพอสมควร จะเห็นได้ว่าเสียงของผมวันนี้นุ่มนวลขึ้นใช่หรือไม่ ไม่ดุเดือด ไม่อะไรทั้งนั้น พอแล้ว เพราะไม่ว่าจะเป็นหรือไม่เป็นอะไรต่างๆ ผมก็จำเป็นต้องควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้ได้ โดยเฉพาะเรื่องทางการเมือง เพราะไม่เช่นนั้นเดี๋ยวผมตายก่อน ผมเครียดมากๆ ผมก็ตายเอง ก็ไม่มีใครตายสักคน เพราะทุกคนมารุมผมอยู่คนเดียว แต่ผมก็รับได้"
    "บิ๊กตู่" รู้สถานการณ์ของตัวเองดีพอควร 
    รู้ว่าอารมณ์วูบวาบ ไม่เป็นผลดีต่อการเล่นการเมือง 
    ตรงข้ามกับเสียงคำรามของนักการเมืองจากรอบทิศ
    ประเด็นที่มีนักการเมืองในพรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้ "บิ๊กตู่" ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ
    และยังตั้งคำถามว่า สนใจงานการเมืองตอนไหน ใช่ตอนที่ดูแลงานด้านความมั่นคงในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ใช่หรือไม่ 
    แล้วตั้งคำถามซ้อนอีกทีว่า ถ้าสนใจมาก่อนการยึดอำนาจ คำถามที่ว่าทำไมการก่อจลาจลชัตดาวน์ประเทศ ขัดขวางการเลือกตั้ง ฝ่ายความมั่นคงจึงเกียร์ว่างหรือไม่
    เป็นคำถามที่เกิดจากความเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ 
    ถ้าจะให้คำตอบคงกลับกันกับคำถามของพรรคเพื่อไทยทั้งหมด 
    ยิ่งลักษณ์ถูกจำโยนเข้าสู่การเมือง ไม่มีโอกาสแม้กระทั่งประกาศว่า "หนูสนใจงานการเมือง"
    สาเหตุที่ กปปส.ชัตดาวน์เพราะยิ่งลักษณ์ไม่ยอมลาออก พยายามจะจัดการเลือกตั้งในสถานการณ์   เดดล็อกทางกฎหมาย 
    ยิ่งลักษณ์ถูกกล่าวหาว่าปล่อยให้มีการทุจริต ไม่ยอมลงจากตำแหน่งนายกฯ
    ขณะที่ คสช.บอกว่าไม่มีทางเลือกจึงรัฐประหาร 
    วันนี้พรรคเพื่อไทยมาเรียกร้องให้ "บิ๊กตู่" ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ ขณะประเทศกำลังเดินสู่เลือกตั้ง เพื่อไปสู่ประชาธิปไตย
    แล้วจะเรียกร้องไปเพื่อ????