พาณิชย์ตีกรอบราคาน้ำมันโลกไม่ทะลุ 90 เหรียญ/บาร์เรล


เพิ่มเพื่อน    

 

“พาณิชย์”วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ไม่น่าจะขึ้นสูงถึง 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล น่าจะสูงสุดที่ 80-90 เหรียญสหรัฐ เหตุสหรัฐฯ เริ่มออกแรงกดดันประเทศผู้ผลิตหามาตรการดูแล ขณะที่ซาอุดิอาระเบียเริ่มเพิ่มกำลังการผลิตแล้ว เผยหากราคาน้ำมันขึ้น จะทำให้สินค้าส่งออกที่เกี่ยวเนื่องน้ำมันราคาดีขึ้น รวมถึงยางพารา และหนุนเป้าส่งออก 9% ทำได้ง่ายขึ้น ส่วนผลต่อเงินเฟ้อ มีแน่ แต่ยังไม่ชัด

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงผลการวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นว่า เกิดจากการเก็งกำไร และผลต่อเนื่องจากการคว่ำบาตรอิหร่านเป็นหลัก โดยในชั้นนี้ คาดว่าราคาน้ำมันจะสูงกว่าตัวเลขที่ สนค. ใช้ในการประมาณการณ์การส่งออกและเงินเฟ้อที่ระดับ 65-75 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยอาจจะขึ้นมาที่ 80-90 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แต่คาดว่าจะไม่สูงถึง 100 เหรียญสหรัฐ เพราะสหรัฐฯ มีท่าทีที่จะหาความร่วมมือกับประเทศผู้ผลิตน้ำมัน เพื่อหลีกเลี่ยงราคาน้ำมันที่สูงเกินไป อีกทั้งกลุ่มประเทศโอเปกอาจจะมีมาตรการเพิ่มเติม เช่น การผลิตทดแทนน้ำมันของอิหร่าน อีกทั้งเศรษฐกิจโลกมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ร้อนแรง ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันไม่เร่งตัวมากนัก

 “สหรัฐฯ น่าจะเพิ่มแรงกดดันประเทศผู้ผลิตต่างๆ เพื่อหามาตรการดึงราคาน้ำมันให้ลง โดยประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวเสมอว่า สหรัฐฯ ไม่ต้องการให้ราคาน้ำมันแพงเกินไป เพราะจะกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และล่าสุดซาอุดิอาระเบียเริ่มให้ข่าวแล้วว่าพร้อมจะสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดน้ำมันโลก โดยอาจจะเพิ่มกำลังการผลิตในเดือน พ.ย.นี้”น.ส.พิมพ์ชนกกล่าว

ทั้งนี้ จากการคำนวณของ สนค. หากราคาน้ำมันขึ้นมาอยู่ที่ 80-90 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ในช่วง 4 เดือนที่เหลือของปี 2561 โดยในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ราคาน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 69 เหรียญสหรัฐ จะทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น 38-56% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้การส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันขยายตัวเพิ่มขึ้น 26-36% และส่งผลต่อการส่งออกรวมประมาณ 2.6-3.6% ซึ่งจะสนับสนุนการส่งออกให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ 9% ได้ง่ายขึ้น โดยการส่งออก9% จะต้องส่งออกเดือนที่เหลือให้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยเดือนละ 7.1%

สำหรับผลต่อเงินเฟ้อ สนค. ได้ตั้งประมาณการณ์เงินเฟ้อไว้ที่ 0.8–1.6% ซึ่งแม้ว่าราคาน้ำมันจะขึ้นมาที่ระหว่าง 80-90 เหรียญสหรัฐ ก็จะยังไม่ทำให้หลุดกรอบนี้ แต่อาจจะส่งผลให้ค่ากลางที่ 1.25% สูงขึ้นบ้าง โดยยังไม่ชัดเจนว่าจะขึ้นเท่าไร เพราะช่วงปลายปีจะมีสินค้าเกษตรออกสู่ตลาดมากขึ้น และอาจจะส่งผลให้ราคาลดลง ยกเว้นยางพาราที่ปกติจะราคาสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังไม่เห็นชอบให้ขึ้นภาษีสรรพสามิตยาสูบ จึงยังไม่มีแรงกดดันให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นในส่วนของบุหรี่


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"