โอกาสที่สอง!'มาร์ค'ลั่นไม่มีอะไรลังเลเกรงใจใครอีกพร้อมเป็นทางหลักของประเทศ


เพิ่มเพื่อน    

9 ต.ค.61- นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการทำรณรงค์หาเสียงแคมเปญด้วยแฮชแท็ก #MakeMyMark ในโซเชียลมีเดีย ว่า กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ร่วมงานกับพรรคสนับสนุนแนวคิดนี้ขึ้นมา โดยจัดทำคลิปวีดิโอที่แสดงออกถึงการสนับสนุนตน คำว่า “MakeMyMark” มีหลายความหมาย ไม่เกี่ยวกับชื่อตน แต่เป็นการได้แสดงออก มีส่วนร่วมทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งหมายถึงการให้สนับสนุนตนให้มาทำหน้าที่การเปลี่ยนแปลงทั้งหลายที่คนในประเทศรอคอย ถ้าเล่นคำว่า Mark มาเป็นชื่อตนก็จะสื่อสารว่า กระบวนการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคครั้งนี้เป็นการสร้างหัวหน้าพรรคด้วยตัวเขาเอง เพราะตนต้องเปิดกว้างในการรับมุมมองต่างๆ เพื่อสร้างพรรคประชาธิปัตย์และสร้างใหม่ประเทศไทย

ส่วนตนก็ชัดเจนว่า การเปิดกระบวนนี้นอกจากจะเป็นการยกระดับให้กับพรรคการเมืองไทยแล้ว ยังเป็นการทำให้เกิดความชัดเจนในเรื่องของจุดยืนพรรค ตนอาสานำพรรคไปในสถานการณ์ที่ประชาชนต้องการที่จะเห็นความเปลี่ยนแปลงการเมืองไทยที่ใหญ่ที่สุด ให้หลุดพ้นจากปัญหาที่ไม่เป็นประชาธิปไตย แม้ 4 ปีที่ผ่านมา ไม่สามารถทำกิจกรรมทางการเมืองได้ แต่ตนได้ใช้เวลาทั้งหมดเรียนรู้ศึกษาปัญหา ทบทวนอดีต จึงมั่นใจว่ายังมีสถานการณ์ใหม่ โอกาสใหม่ คนใหม่ๆเข้ามา เราจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดได้

ถามต่อว่า การที่ระบุว่า “อายุ 54 ปี แล้ว ไม่เกรงใจใคร” ระหว่างลงพื้นที่ที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หมายความว่าอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หมายความอย่างที่พูด   เมื่อตนเข้ามาสู่การเมือง และทำงานการเมืองมาตั้งแต่อายุ 27 ปี การที่จะเดินหน้าทำอะไรเราต้องระมัดระวัง คิดว่าไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะที่มาทำการเมืองเนื่องจากมีความเชื่อ และอุดมการณ์ มาพร้อมกับความฝันว่า อยากให้ประเทศไทยเป็นอย่างไร

“การที่เคยได้รับโอกาสมาครั้งหนึ่ง ผมก็ยังมีความเชื่อ อุดมการณ์และความฝัน ความฝันหลายเรื่องก็ยังทำไม่ได้ ตอนที่เป็นนายกฯครั้งแรกก็เป็นในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจของโลกพร้อมสถานการณ์บ้านเมืองปั่นป่วน ผมก็กอบกู้วิกฤติได้ เริ่มต้นบางอย่างได้ แค่ไม่เคยมีโอกาสได้สร้าง วันนี้ผมอาสาตัวเอง เพราะรู้ว่าอายุเท่านี้แล้ว เข้ามาเล่นการเมืองต้องการสร้างฝันให้เป็นจริง ผมไม่มีเวลาอีกมาแล้ว เพราะฉะนั้นวันนี้ผมว่าไม่มีเรื่องอะไรที่เล็กเกินไปแล้ว อยากให้อะไรเกิดขึ้นผมต้องทำ ไม่มีอะไรลังเลใจอีกต่อไป และไม่ต้องเกรงใจใคร เพราะนี่คือโอกาสใหม่ เป็นโอกาสเดียวที่จะทำให้ผมผลักดันสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นให้ได้” 

ถามย้ำว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะชี้ชะตาว่าพรรคประชาธิปัตย์จะร่วมกับคสช.หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ตอบว่า คงต้องไปถามผู้สมัครท่านอื่น เพราะสำหรับตนคำถามแบบนี้ไม่ควรมาถามพรรคประชาธิปัตย์ แต่ควรจะไปถามคนอื่นว่าจะมาร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์สร้างบ้านเมืองหรือไม่

“ถ้าเกิดใครก็ตามยังคิดว่าหน้าที่พรรคประชาธิปัตย์ คือ จะไปช่วยใคร หรือไปร่วมกับใคร จะไปเป็นรัฐบาล แต่ไม่สามารถตอบคำถามได้ว่าที่จะไปร่วม ที่จะไปเป็นรัฐบาลจะไปทำอะไร และความคิดความเชื่อ อุดมการณ์คืออะไร ก็ไม่เป็นประโยชน์กับพรรคและประเทศ ผมยืนยันว่าการเป็นทางหลักคือเราเป็นตัวของตัวเอง มีความชัดเจนในจุดยืน ยืนยันว่าเราไม่ใช่พรรคอะไหล่ให้ใครทั้งนั้น แต่พรรคประชาธิปัตย์จะต้องเป็นพรรคการเมืองหลัก มีความตรงไปตรงมา มีความก้าวหน้าในระบบพรรคการเมืองมากกว่าพรรคอื่น” นายอภิสิทธิ์ กล่าว


เมื่อถามว่า หมายความว่าจะเป็นแกนนำจัดตั้งในการจัดตั้งรัฐบาลเท่านั้น โดยไม่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะเป็นอะไรหรือไม่ อยู่ที่ประชาชนจะเลือกหรือไม่ แต่จุดยืนชัดเจนว่าเราอาสาและพร้อมจะเป็นทางหลักของประเทศ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"