16 ต.ค.61-  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่บ้านเลขที่ 13  ม.10  ต.นิคม  อ.สตึก  จ.บุรีรัมย์  ทางครอบครัวและญาติได้มีการจัดงานศพของนายสมยศ  เชิงสะอาด  อายุ 49 ปี  หลังถูก “เจ้าแรมโบ้”  วัวพันธุ์ บราห์มัน เพศผู้ อายุประมาณ 4 ปี ที่ตัวเองเลี้ยงไว้เพื่อรับจ้างผสมน้ำเชื้อไล่ชนและเหยียบย้ำซ้ำ  จนเสียชีวิต  อยู่บริเวณข้างคอกวัว  เมื่อวันที่15 ต.ค.  ซึ่งบรรยากาศในงานศพต่างเป็นไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ   และต่างสะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าวัวที่เลี้ยงไว้จะทำร้ายเจ้าของได้   

นางเทียมทัศน์   เชิงสะอาด  อายุ 47 ปี ภรรยาผู้ตาย  เล่าว่า  สามี  มีอาชีพนำพ่อพันธุ์วัวไปตระเวนรับจ้างผสมพันธุ์มาประมาณ 4 – 5 ปีแล้ว  ปัจจุบันมีวัวพ่อพันธุ์ อยู่3 ตัว  อีก 7 ตัวเป็นเพศเมียและลูกๆ    ส่วนเจ้า "แรมโบ้" เป็นวัวพ่อพันธุ์ สายพันธุ์อเมริกันบราห์มันแดง  อายุประมาณ 4  ปี สูงประมาณ 170 ซม. น้ำหนักราว 800-1,000 กิโลกรัม  สามีซื้อมาได้ประมาณ 2 ปีแล้ว ส่วนมากจะชอบนำเจ้าแรมโบ้  ไปรับจ้างผสมพันธุ์เป็นประจำ  เวลาเห็นสามีขับรถปิกอัพมาที่คอก เจ้าแรมโบ้ มักแสดงอาการดีใจ  ร่าเริง รอเตรียมขึ้นรถทันที เพราะอยู่ในวัยคะนองมีอารมณ์อยากผสมพันธุ์  แต่ระยะหลังเจ้าแรมโบ้มีอาการเจ็บที่ขา  และอวัยวะเพศบวม  สามีจึงให้พักเพื่อรอให้อาการดีขึ้นเป็นเวลาเกือบ 1 เดือน  โดยช่วงนี้ก็จะนำนำพ่อพันธุ์ตัวอื่นไปผสมพันธุ์แทน   ทำให้เจ้าแรมโบ้เริ่มแสดงอาการหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด 

 ซึ่งคืนก่อนเกิดเหตุสามี ก็ออกไปนอนเฝ้าวัวที่คอกเป็นปกติเหมือนทุกวัน แต่กระทั่ง 09.00 น. ยังไม่เห็นสามีกลับเข้าบ้าน  ซึ่งผิดปกติเพราะสามีจะกลับบ้านช่วงประมาณ 7 – 8 โมงเช้า  โทรศัพท์ไปหาก็ฝากข้อความตลอด  ด้วยความเป็นห่วงจึงตัดสินใจเดินออกไปดูสามีที่คอกวัว ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเกือบ 1 กิโลเมตร ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นสามีนอนสลบร่างกายเต็มไปด้วยเลือด  มีบาดแผลตามร่างกายหลายแห่ง ใกล้กันพบเจ้าแรมโบ้วัวพ่อพันธุ์ยืนอยู่ จึงเรียกพี่ชายให้นำเจ้าแรมโบ้เข้าไปผูกไว้ในคอก  และรีบนำสามีส่งโรงพยาบาลสตึก แต่สามีทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิตในที่สุด  

ส่วนสาเหตุเชื่อว่าน่าจะถูกเจ้าแรมโบ้ ไล่ชนจนเสียหลักล้มลงแล้วกระทืบซ้ำจนเสียชีวิต   เพราะหงุดหงิดที่ระยะหลังสามีไม่พาไปผสมพันธุ์ แต่นำวัวตัวอื่นไปแทน    ซึ่งหลังเกิดเหตุสลดดังกล่าวขึ้น  ตนก็คงยุติอาชีพนี้โดยขณะนี้ก็ได้ประกาศขายเจ้าแรมโบ้  และวัวที่เหลืออีก 9 ตัว  เพราะคงไม่มีใครทำต่อแล้ว

ด้านนายศิลป์มา   ไชยยะพล อายุ 76 ปี พ่อตาของผู้ตาย   เล่าว่า  จากประสบการณ์ที่เคยเลี้ยงวัวสายพันธุ์บราห์มันแต่จะเป็นเพศเมีย   ก็ไม่เคยเห็นแสดงอาการดุร้าย  แต่กรณีของลูกเขยก็อาจจะเป็นไปได้ที่วัวเกิดอาการหงุดหงิดเพราะระยะหลังไม่ได้นำออกไปผสมพันธุ์  แต่กลับนำตัวอื่นไปแทน  ประกอบกับเป็นช่วงที่วัวเป็นสัตว์ด้วยก็ทำให้มีอารมณ์หงุดหงิด   อีกทั้งลูกเขยอาจจะประมาทเพราะช่วงที่นำวัวไปผูกอาจจะหันหลังให้วัวจึงเกิดพลาดท่าถูกวัวชนจนล้มลงแล้วกระทืบซ้ำจนซีกโครงหักเสียชีวิตดังกล่าว  จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็อยากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่เลี้ยงวัว ควาย ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ไหนก็ตาม  ควรจะใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะถึงแม้จะเลี้ยงจนเชื่องขนาดไหนสัตว์ก็ยังเป็นสัตว์  โดยเฉพาะเวลาจูงควรให้วัวเดินนำหน้า  และเวลาผูกก็ไม่ควรหันหลังให้เพราะอาจจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นได้.