น้ำปลาไทยปลอดภัย อย. ยันสุ่มตรวจ48ตัวอย่าง ไม่มีเชื้อ อย่างที่FDA สหรัฐสงสัย กลุ่มอุตฯอาหารชี้ เป็นมาตรการกีดกันการค้าเล็กๆ


เพิ่มเพื่อน    

 

วันนี้(24 ต.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา มีการแถลงข่าวเกี่ยวกับกระบวนการการผลิตน้ำปลาในประเทศไทย จากกรณีกระแสข่าวสหรัฐอเมริกา มีการแบนน้ำปลานำเข้าจากไทยเนื่องจากมีสารก่อมะเร็ง โดยมี นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา พร้อมด้วย นพ.พุลลาภ ฉันทวิจิตรวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา น.ส. สุภัทรา บุญเสริม ผู้อำนวยการสำนักอาหาร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา นายวิทยากร มณีเนตร รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกระทรวงพาณิชย์ และนายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร ส.อ.ท. และนายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป ร่วมกันแถลงข่าว

 นพ.ธเรศ กล่าวว่า ยืนยันว่า โรงงานการผลิตน้ำปลาในประเทศไทยมีมาตรฐานการผลิตที่ดี ซึ่งในเรื่องที่เป็นประเด็นคือการมีแบคทีเรียต่างๆนั้น มีการร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจแบคทีเรียคลอสตริเดียม สารพิษโบทูลินัม ในน้ำปลาทั้งหมดรวม 48 ตัวอย่างรวมทั้งน้ำปลาที่เป็นประเด็นรวมอยู่ด้วย ตั้งแต่ปี 2560 และพบว่าทุกตัวอย่างไม่พบสารปนเปื้อน  ดังนั้นจึงขอให้ผู้บริโภคทั้งชาวไทยและต่างประเทศเชื่อมั่นในคุณภาพและความปลอดภัย ในน้ำปลาที่ผลิตในประเทศไทย

นพ.พูลลาภ กล่าวว่า ทางอย. มีการดูแลการผลิตน้ำปลาในประเทศเป็นอย่างดีตามมาตรฐานการผลิตต่างๆ ขอย้ำให้ประชาชนมีความมั่นใจว่าน้ำปลาไทยยังมีคุณภาพ ยังคงส่งออกไปยังต่างประเทศได้เช่นเดิม รวมทั้งการบริโภคในประเทศให้ผู้บริโภคมีความปลอดภัย ซึ่งในกรณีที่เกิดขึ้นนั้นเกี่ยวกับการเตรียมหลักฐานเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของสหรัฐอเมริกา ไม่ใช่ประเด็นการตรวจสอบความไม่ปลอดภัย ซึ่ง อย.ก็จะมีการเชิญผู้ประกอบการมาพูดคุยย้ำถึงประเด็นความปลอดภัยหลังจากนี้ และอาจจะมีการเพิ่มเติมการตรวจสอบมาตรฐานน้ำปลา ซึ่งก็ได้มีการประสานข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรวบรวมข้อมูลเพื่อช่วยกันชี้แจงกับทาง U.S. FDA .ในเรื่องกระบวนการผลิตน้ำปลาที่ปลอดภัยของประเทศไทย ซึ่งจริงๆมีการประสานไปแล้วเมื่อ 3ปีก่อน แต่ยังไม่ได้รับคำตอบกลับมา นอกจากนี้ อย.ก็จะมีการทบทวนในเรื่องสารจุลินทรีย์ชนิดอื่นๆต่อไป ซึ่งจะมีคณะทำงานนักวิชาการเพื่อดำเนินการปรับปรุงตามข้อกำหนดให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันให้ดียิ่งขึ้น

 นายวิทยากร กล่าวว่า FDA   เป็นหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคของสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะมีการสุ่มตรวจสินค้าต่างๆ โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาก็ได้มีการตรวจในเรื่องของน้ำปลาไทย พบเคสที่เป็นข้อกังวลในกระบวนการผลิต 4 ครั้ง ครั้งล่าสุดคือเมื่อ เดือน พ.ค. ที่ผ่านมาของผู้ประกอบการายหนึ่ง ซึ่งได้มีการขอทราบรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับเรื่องกระบวนการคัดเลือกวัตถุดิบ ซึ่งไม่ใช่การแบน กักกัน หรือห้ามการนำเข้า ยังคงนำเข้าได้เช่นเดิม ซึ่งเมื่อทางบริษัทได้รับแจ้งข้อมูล ก็ได้ทำรายละเอียดชี้แจงส่งไป ตั้งแต่เดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากชี้แจงโดยปกติ FDA จะใช้เวลาพิจารณาประมาณ 2-3 เดือนในการตรวจสอบข้อมูลที่ส่งไป คาดว่าภายในเดือนหน้าทุกอย่างก็คงมีการชี้แจงกลับมา ซึ่งหากทุกอย่างเป็นที่น่าพอใจการส่งออกก็จะเป็นไปอย่างราบรื่นต่อไป ซึ่งสิ่งเหล้านี้เป็นการตรวจสอบโดยปกติของทุกๆประเทศ อย่างไรก็ตามประเทศเราเป็นประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่เพราะฉะนั้นมีความมั่นใจในสินค้าส่งออกอยู่แล้ว แต่ทุกบ้านทุกเมืองเขาก็มีกฎระเบียบของตัวเอง หากมีข้อกังวลก็สามารถขอรายละเอียดให้เราชี้แจงเพิ่มเติมได้ ซึ่งขอสร้างความมั่นใจในเรื่องของมูลค่าการส่งออกในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา เราเป็นผู้ส่งออกอันดับ1 มีคู่แข่ง คือฮ่องกง ส่งออกประมาณ 30 %  เช่นกัน โดยที่ส่งออกทั้งหมด 44 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีอเมริกาเป็นตลาดหลัก มีมูลค่าประมาณ 8 ล้านเหรียญ หรือ 20 % ของมูลค่าการส่งออกของเรา ซึ่งน้ำปลาของเรารับความนิยม ตลาดญี่ปุ่นเองก็เติบโตขึ้นมาก และอีกตลาดนึ่งที่เป็นตลาดหลัก คือตลาดอาเซียน ทั้ง พม่า กัมพูชา ลาว มาเลเซีย นั้นอยากให้เผยแพร่ออกไปว่าทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ติดตามดูแลเรื่องนี้ตลอดเวลาไม่ต้องเป็นกังวล

นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า  แต่ละประเทศในเรื่องการนำเข้าอาหารอาจจะมีกฎระเบียบที่แตกต่างกันออกไป แล้วแต่การตั้งกฏเกณฑ์ และมาตรฐานก็มีเรื่องของการตรวจเชื้อต่างๆ ซึ่งปกติใช้อ้างอิงตามมาตรฐานอาหารโลก เรื่องนี้สามารถมั่นใจว่าอาหารและน้ำปลาจากประเทศไทยถูกต้องมาตรฐานโลกแน่นอน ซึ่งเรื่องที่อยากเรียนคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเดือน พ.ค. ที่มีสินค้าของผู้ผลิตรายหนึ่ง ซึ่งการกัดกันของสหรัฐอเมริกามีการทำตลอดเวลาที่มีการนำเข้า แต่ละเดือนมีกักเป็นพันรายการ ซึ่งขอเรียนว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยเพราะไทยมีแค่รายการเดียว ไม่ได้กระทบกับสินค้าอื่นๆหรือผู้ประกอบการายใด ซึ่งเป็นเรื่องกระบวนการที่อาจยังไม่ถูกระเบียบที่เขาวางไว้ 
อย่างไรก็ตามสินค้าทุกอย่างที่ส่งไปต้องมีการขึ้นทะเบียน FDA และต้องขึ้นทะเบียนกระบวนการผลิตเพื่อให้มีการตรวจสอบก่อนจะส่งไปได้  ซึ่งแต่ละปีจะมีการมาตรวจสอบโรงงานผู้ผลิต โดยมีการแจ้งมาก่อน  ทั้งนี้เมื่อ 3-4 ปี ก่อน สหรัฐอเมริกามีการเพิ่มกฎระเบียบมาใหม่มาเพื่อตรวจสอบน้ำปลา คือการจัดส่งไปนั้นเราคุ้นเคยการหมัก แต่เขาบอกไม่ได้ต้องมีการต้มไปก่อน ซึ่งหากเราต้องการส่งออกตลาดนี้อยู่ก็ต้องมีการปรับกระบวนการผลิตต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องนวัตกรรมว่าจะทำอย่างไรให้ต้มแล้ว มีกลิ่นสิ เปลี่ยนจากเดิมน้อยที่สุด คงความเป็นเอกลักษณ์ของน้ำปลาไทยมากที่สุด ซึ่งผู้ประกอบการมี2 ตัวเลือกคือ ต้มแบบที่ต้องการ หรือ หากกลัวเสียภาพลักษณ์ก็มีทางเลือกคือการทำแบนสำรองเพื่อส่งสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะ เพราะฉะนั้นขอยืนยันว่าสินค้าจากไทยยังอยู่ในมาตรฐานปลอดภัย.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"