ชาติไทยพัฒนา ยังเผชิญภาวะมีเข้า ก็มีออก


เพิ่มเพื่อน    

       หลังจัดทัพใหม่กันเสร็จเรียบร้อย “พรรคชาติไทยพัฒนา” (ชทพ.) เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา กับการประชุมใหญ่ ที่เลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดย กัญจนา ศิลปอาชา เป็นหัวหน้าพรรค ประภัตร โพธสุธน เป็นเลขาธิการพรรค

        ส่วนกรรมการบริหารพรรคในตำแหน่งอื่น ประกอบด้วย รองหัวหน้าพรรค 5 คน ได้แก่ อนุรักษ์ จุรีมาศ, อนุชา สะสมทรัพย์, วิจิตร พรพฤฒิพันธุ์, สัมพันธ์ แป้นพัฒน์ ยุทธพล อังกินันทน์ รองเลขาธิการพรรค 3 คน ได้แก่ นายนิติวัฒน์ จันทร์สว่าง นายพันธุ์เทพ สุลีสถิร และ น.ส.ทัศน์ลักษณ์ ปัตตพงศ์ภัช ส่วน นางพวงรัตน์ ชัยบุตร เป็นเหรัญญิกพรรค และ นายพิสิษฐ์ พิทยฐากุลเจริญ เป็นนายทะเบียนสมาชิกพรรค

        ขณะที่กรรมการบริหารอื่นของพรรค จำนวน 6 คน ได้แก่ นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์, นายนพดล มาตรศรี, นายสุรชัย ทิณเกิด, นายอภิวัชร บัวพันธ์, นายณรงค์ นุ่นทอง และ นายเสน่ห์ ขาวโต พอจัดทัพกันเสร็จ ทางพรรคชาติไทยพัฒนาก็ไม่รอช้า พยายามเร่งเครื่องเต็มที่กับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น โดยมีข่าวว่า กรรมการบริหารพรรค ชทพ.ได้เรียกประชุมใหญ่นัดแรกในต้นสัปดาห์หน้า 7 พ.ย.นี้ เพื่อหารือเรื่องการเตรียมการเลือกตั้ง

        ทั้งนี้ แม้พรรค ชทพ.จะได้กลุ่มการเมือง-คนดัง เข้ามาร่วมงานกับพรรค อย่างที่เปิดตัวไปแล้ว เช่น บิ๊กบัง-พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช. อดีตหัวหน้าพรรคมาตุภูมิ และ กลุ่มสะสมทรัพย์ นครปฐม ที่ย้ายออกมาจากเพื่อไทย แต่ขณะเดียวกัน การไหลออกจากพรรค ชทพ.ก็ยังมีให้เห็นต่อเนื่อง เช่นล่าสุดก็มีข่าวว่า สิริพงศ์ อังสกุลเกียรติ หรือ เสี่ยโต้ง อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ พรรค ชทพ. แกนนำกลุ่มนิวบลัดของ ชทพ. ที่เดิมถูกวางตัวให้เป็นเลขาธิการพรรค คู่กับ นายวราวุธ ศิลปอาชา ที่จะขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค แต่มาเกิดการเปลี่ยนแปลง

         เพราะมีนักการเมืองรุ่นใหญ่มาเข้า ชทพ. อย่าง กลุ่มสะสมทรัพย์-ตระกูลไกรวัตนุสสรณ์-พลเอกสนธิ มาเข้าพรรค ชทพ. ทำให้แกนนำพรรคเห็นตรงกันว่า การจะให้ กลุ่มนิวบลัด ของ เสี่ยท็อป-เสี่ยโต้ง ที่อายุยังอ่อนกว่ามาก มาเป็นผู้นำพรรค อาจทำให้มีปัญหาในเรื่องบารมีการยอมรับ เลยมีการปรับทัพใหม่ โดยให้ กัญจนา-เสี่ยประภัตร มาคุมทัพแทน

        เรื่องดังกล่าว มีข่าวว่า เนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย พอเริ่มรู้ว่า เสี่ยโต้ง สิริพงศ์ อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคชาติไทยตอนปี 2550 แต่หลังจากนั้นก็โดนตัดสิทธิ์การเมือง 5 ปี จากคดียุบพรรคชาติไทย เพราะเป็นกรรมการบริหารพรรค ทั้งที่เพิ่งเป็น ส.ส.สมัยแรก จนไปทำธุรกิจใหญ่โตในอีสาน เช่นเป็น กรรมการผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สิริมงคลพร็อพเพอร์ตี้ จนเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในภาคอีสาน โดยเฉพาะที่ศรีสะเกษ

        น่าจะเกิดความผิดหวังที่กลุ่มนิวบลัดไม่เกิดขึ้นจริงในพรรคชาติไทยพัฒนา อย่างที่ วราวุธ เคยให้คำมั่นไว้ เลยทำให้ เนวิน ต่อสายคุยกับเสี่ยโต้ง พร้อมกับยื่นออฟชั่นพิเศษ ให้มาอยู่กับพรรคภูมิใจไทย โดยมีข่าวว่ามีการเสนอเงื่อนไข คือขอให้ดูแลพื้นที่เลือกตั้งแค่ 2 จังหวัดในอีสานคือ อุบลราชธานี-ศรีสะเกษ พร้อมกับจะให้เป็น รองหัวหน้าพรรค แบบพาสชั้น

        ข่าวบอกว่า เสี่ยโต้ง ใช้เวลาตัดสินใจไม่นาน เมื่อเห็นว่าอยู่กับพรรคชาติไทยพัฒนาต่อไปไม่น่าจะรุ่ง เพราะสิ่งที่เคยคิดกันไว้กับ เพื่อนท็อป วราวุธ เช่น การขับเคลื่อนสร้างแนวทางใหม่ๆ ให้กับพรรคชาติไทยพัฒนา จนมีการสร้างแคมเปญ นิวบลัด แต่เมื่อเห็นแววแล้วว่า นอกจากวืดจากเก้าอี้เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนาไม่พอ การทำงานอาจไม่เข้าขากับ ประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค ด้วยเหตุนี้ เสี่ยโต้ง-สิริพงศ์ ที่เกือบได้เป็นเลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา เลยโบกมือลาไปอยู่กับ เนวิน-อนุทิน ชาญวีรกูล ที่พรรคภูมิใจไทยเรียบร้อยแล้ว หลังจากกลุ่มสะสมทรัพย์ตัดสินใจไม่เข้าภูมิใจไทย แล้วไปชาติไทยพัฒนาแทน

        ทางภูมิใจไทยก็แก้เกม เลยหันมาดึง กลุ่มศรีสะเกษของเสี่ยโต้ง ไปแทน อันเป็นการดูดของภูมิใจไทย ที่ดูดคนของชาติไทยพัฒนาไปอีก หลังก่อนหน้านี้ก็มีดึงไปแล้วหลายคน เช่น เกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร อดีต รมช.คมนาคม-ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ อดีต รมช.พาณิชย์-ชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต ส.ส.อุทัยธานี

        โดย สิริพงศ์ ให้สัมภาษณ์ยอมรับเรื่องการย้ายออกจากชาติไทยพัฒนาว่า เป็นเรื่องจริง และการตัดสินใจดังกล่าวได้พูดคุยและยืนยันไปกับทางผู้ใหญ่ของพรรคชาติไทยพัฒนาแล้ว โดยวันที่ 30 ต.ค. จะเข้าไปยื่นใบลาออกจากพรรคชาติไทยพัฒนาอย่างเป็นทางการ ขณะที่การร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยนั้นได้พูดคุยกับแกนนำพรรคภูมิใจไทยมาช่วงหนึ่ง ถึงแนวคิดและแนวทางการทำงาน ก็เห็นว่าผู้ใหญ่ในพรรคภูมิใจไทยได้เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ร่วมทำงาน

         “ผู้ใหญ่ในพรรคชาติไทยพัฒนาเข้าใจ แม้ก่อนหน้านี้จะขอให้ผมทบทวนการตัดสินใจ ซึ่งผมใช้เวลาตลอดวันหยุดของสัปดาห์ที่คิดไตร่ตรอง ได้ปรึกษากับผู้ใหญ่ เพื่อน อดีต ส.ส.และบุคคลในครอบครัว จึงเป็นที่มาของการตัดสินใจย้ายพรรคครั้งนี้ ส่วนบทบาทภายในพรรคภูมิใจไทย เบื้องต้นอาจเข้าไปร่วมผลักดันนโยบายหรืองานด้านกีฬา” สิริพงศ์กล่าว

        ด้านทิศทางของพรรคชาติไทยพัฒนา เบื้องต้น กัญจนา-หัวหน้าพรรค ระบุไว้บนเวทีหลังได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคว่า เข้าใจว่าสมาชิกพรรคที่เลือกให้เป็นหัวหน้าพรรค เพราะคงเห็นว่าสถานการณ์เช่นนี้พรรคต้องการให้คนรุ่นใหม่กับรุ่นอาวุโสทำงานด้วยกัน ส่วนใหญ่อาจเห็นว่าตนเองเป็นคนที่อยู่ระหว่าง 2 รุ่นนี้ อย่างไรก็ตาม การเข้ามารับตำแหน่งครั้งนี้ยืนยันว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จะไม่ให้เสียชื่อหัวหน้าพรรคแน่นอน

        "การเลือกตั้งปี 2538 ท่านบรรหารทาบทามให้ดิฉันลงสมัคร ส.ส.สุพรรณบุรี จากเดิมวางตัวให้คุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชา ลงสมัคร เนื่องจากเวลานั้นสุพรรณบุรีมี ส.ส.ได้เพิ่มอีก 1 คน ย้อนกลับไปตอนนั้นมีเวลาตัดสินใจไม่นาน แค่วันเดียว การรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคครั้งนี้ก็มีเวลาตัดสินใจไม่นาน แต่วันนี้กับอดีตมีความแตกต่างกัน คือ วันนี้ไม่มีท่านบรรหารอีกแล้ว แต่สิ่งที่เหมือนเดิมคือ ยังคงตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนเหมือนเดิมต่อไป วันนี้นายบรรหารได้จากไปแล้ว แต่ยังทิ้งเลือดความเป็นนายบรรหารไว้ในตัวของตนเองและน้องชาย ทั้งเรื่องการถือสัจจะและการสร้างมิตรมากกว่าศัตรู” น.ส.กัญจนากล่าว

        พรรคชาติไทยพัฒนา ยุค “กัญจนา-ประภัตร” หลังจากนี้ จะเดินหน้าต่อไปอย่างไร สิ่งที่จะประเมินผลการทำงานได้ดีที่สุดคงไม่พ้นช่วงหลังเลือกตั้ง ที่ต้องดูกันว่าสุดท้ายแล้ว จะได้ ส.ส.มากขึ้นหรือลดลง ท่ามกลางการมองกันทางการเมืองว่า ชาติไทยพัฒนามีโอกาสสูงจะได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ว่าขั้วไหนจะชนะการเลือกตั้ง ทั้งขั้วเพื่อไทยหรือขั้วประชาธิปัตย์-พลังประชารัฐ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"