“ประยุทธ์” ลงพื้นที่ใต้อีกรอบ เตรียมเดินสายให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบอุทกภัย ปภ.ชี้มี 9 จังหวัดยังจมบาดาล พร้อมเตือน 10 จว.ระวัง 7-11 ธ.ค. ฝนหนัก-น้ำป่าหลาก-ดินถล่ม นครศรีธรรมราชวิกฤติหนัก ปิดสนามบิน 2 วัน น้ำภูเขาขยะไหลเข้าชุมชน
ในวันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม เวลา 07.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะ จะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดตรัง เพื่อตรวจเยี่ยมความคืบหน้าการก่อสร้างแก้มลิงคลองช้าง ในโครงการระบบระบายน้ำแม่น้ำตรัง ก่อนเดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบอุทกภัยในหลายอำเภอใน จ.ตรัง
ในขณะที่วันที่ 7 ธ.ค. พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมพื้นที่หมู่ 1 ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี พร้อมทั้งฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ซึ่งล่าสุดสถานการณ์เริ่มคลี่คลายในทางที่ดีขึ้น
ด้านนายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย.-7 ธ.ค. ทำให้เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ 11 จังหวัด แต่ปัจจุบันคลี่คลายแล้ว 2 จังหวัด คือ กระบี่และสตูล โดยยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 9 จังหวัด 92 อำเภอ 604 ตำบล 4,531 หมู่บ้าน 408,368 ครัวเรือน จำนวน 1,328,292 คน และอพยพ 887 ครัวเรือน จำนวน 2,307 คน
นายชยพลยังกล่าวอีกว่า จากการติดตามสถานการณ์และสภาพอากาศร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยาและกรมทรัพยากรธรณี พบว่าภาคใต้ยังมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย โดยเฉพาะ จ.สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, พัทลุง และสงขลา ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 8 ธ.ค. และหลังจากนั้นในช่วงวันที่ 9-11 ธ.ค. จะมีฝนตกหนักบางพื้นที่ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราชลงไป โดยปริมาณฝนตกสะสมอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลภาคใต้ฝั่งตะวันออก ลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลภาคใต้ฝั่งตะวันตก ลุ่มน้ำตาปี ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ลุ่มน้ำปัตตานี
“ปภ.ได้ประสาน 10 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ชุมพร, สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, สงขลา, พัทลุง, ตรัง, สตูล, ยะลา, ปัตตานี และนราธิวาส เตรียมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม ในช่วงวันที่ 7-11 ธ.ค.นี้” นายชยพลกล่าว
สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ โดยเฉพาะ จ.นครศรีธรรมราช พบว่าน้ำป่าปริมาณมหาศาลที่หลากลงมาจากเทือกเขาหลวงตั้งแต่ช่วงดึกวันที่ 6 ธ.ค. และยังคงมีน้ำป่าไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และมากเป็นประวัติการณ์จนท่วมรันเวย์ท่าอากาศยานนครนครศรีธรรมราช แม้เจ้าหน้าที่พยายามป้องกันพื้นที่อย่างเต็มกำลัง ทำให้นายสุขสวัสดิ์ สุขขะวรรณโณ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ได้ออกประกาศปิดบริการชั่วคราว 2 วัน ในวันที่ 7-8 ธ.ค.และจะประเมินสถานการณ์ในวันที่ 8 ธ.ค.อีกครั้ง
นอกจากนี้ ในพื้นที่เทศบาลนครนครศรีธรรมราชยังคงเผชิญกับฝนตกหนักต่อเนื่อง รวมทั้งน้ำทะเลหนุน ทำให้เกิดน้ำเน่าเสียจากภูเขาขยะเทศบาลนครนครศรีธรรมราชเริ่มเข้าสู่พื้นที่ชุมชน ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็พยายามป้องกันอย่างเต็มที่ รวมทั้งยังมีปัญหาดินถล่ม โดยเฉพาะจากภูเขาแก้ว ในท้องที่ ต.เขาแก้ว อ.ลานสกา ที่เคยพังถล่มเมื่อช่วง 2 ปีก่อน โดยชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงเริ่มได้ยินเสียงลั่นของภูเขา และมีดินหินปะปนมากับกระแสน้ำ จึงอยากให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบอย่างจริงจัง และหาทางแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงในช่วงฝนตกหนัก
ส่วนที่ จ.พัทลุงนั้น ได้เผชิญภาวะน้ำท่วมสูงมากว่า 13 วันแล้ว หลายพื้นที่ยังมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะ 5 อำเภอริมทะเลสาบสงขลา คือ อ.เมืองฯ, ควนขนุน, เขาชัยสน, บางแก้ว และปากพะยูน รวมทั้งยังได้เกิดน้ำป่าไหลหลากมาซ้ำเติม ทำให้ระดับน้ำในพื้นที่ริมทะเลสาบท่วมสูง 1.50 เมตร ในขณะที่พื้นที่ริมเทือกเขาบรรทัดน้ำได้เริ่มลดระดับลงแล้ว แต่ชาวบ้านยังไม่ไว้วางใจสถานการณ์ โดยยังไม่ขนสิ่งของลงจากที่สูง เนื่องจากยังมีประกาศให้เฝ้าระวังฝนตกหนักอีกครั้งในวันที่ 8-9 ธ.ค.
จ.สงขลา ยังคงมีน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ อ.นาทวีถึง 4 รอบในช่วงที่ผ่านมา โดยได้ทิ้งร่องรอยความเสียหายหลายจุด โดยเฉพาะถนนซึ่งถูกน้ำป่าตัดขาด 3 เส้นทาง และยังต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นอีกครั้งจากฝนตกหนักอีกระลอกในช่วง 8-9 ธ.ค.นี้ นอกจากนั้นสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ริมทะเลสาบสงขลายังเริ่มขยายวงจาก อ.ระโนด กระแสสินธุ์ และสิงหนคร กินพื้นที่ครอบคลุมไปถึง อ.ควนเนียง ซึ่งอยู่คนละฝั่ง ทำให้บ้านเรือนในหลายตำบลจมน้ำ และโรงเรียนอย่างน้อย 3 แห่งต้องปิดการเรียนชั่วคราว
ด้าน จ.ชุมพร ยังมีฝนประปรายบางพื้นที่ และมีน้ำท่วมขังในที่ลุ่ม โดยเฉพาะบริเวณลุ่มน้ำคลองชุมพร คลองสวี คลองตะโก คลองหลังสวน คลองละแม คลองปะทิว คลองบางสน คลองรับร่อ คลองท่าแซะ ซึ่งทางอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ความคืบหน้าสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานีนั้น ปริมาณน้ำจากเขต อ.ดอนสัก ได้ไหลหลากลงคลองท่าทอง ต.ท่าอุแท อ.กาญจนดิษฐ์ ส่งผลให้น้ำล้นฝายไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชนและพืชผลทางการเกษตรและถนนภายในหมู่บ้าน ใน ต.ท่าอุแท ต.พลายวาส ระดับสูงตั้งแต่ 30-150 ซม. ชาวบ้านต้องเก็บของไว้บนที่สูง และมีบางส่วนได้อพยพไปอาศัยอยู่ในจุดที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจัดเตรียมไว้ให้.
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |