2 ว่าที่ กกต.จากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาส่อเกิดปัญหา! เมื่อ "สมชัย" แฉการคัดเลือกขัดกฎหมายให้ลงคะแนนโดยเปิดเผย แต่ที่ประชุมกลับขอมติให้ลงคะแนนลับ เชื่อมีผู้หยิบเรื่องนี้ร้องเรียนแน่ "เนติบริกร" ดอดพบประธาน สนช. มองข้ามช็อตหารือโรดแมปวันเลือกตั้งแล้ว
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ถึงกรณีการลงมติเลือกผู้สมควรได้รับแต่งตั้งเป็น กกต. ของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาว่า ผู้สมัคร กกต.ที่ได้รับเลือกจากสายศาลอาจจะงานเข้า เพราะตามมาตรา 12 วรรคสาม ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. กำหนดให้ในการสรรหาหรือคัดเลือก ให้ใช้วิธีการลงคะแนนโดยเปิดเผย และให้กรรมการสรรหาฯ แต่ละคนบันทึกเหตุผลในการเลือกไว้ด้วย ซึ่งหากตีความตามมาตรานี้ การสรรหาหมายถึงการสรรหาโดยกรรมการสรรหา ต้องได้รับคะแนนเสียงสองในสาม
ส่วนการคัดเลือกหมายถึงการเลือกจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ซึ่งต้องได้คะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของที่ประชุม ทั้งนี้ สองกรณีกำหนดให้ใช้วิธีการลงคะแนนโดยเปิดเผย แต่ในการคัดเลือกตัวแทนจากศาลในครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา กลับเป็นการลงคะแนนลับ โดยเป็นผลการปรึกษาหารือของรองประธานศาลฎีกา 6 ท่าน ว่าขอให้มีการลงคะแนนโดยลับ และการเลือกตัวแทนจากศาล อีกทั้งวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา ก็เป็นการลงคะแนนโดยลับอีกครั้งหนึ่ง
นายสมชัยกล่าวต่อว่า แม้ว่าจะมีการทักท้วงแล้วว่าต้องดำเนินการตามกฎหมายที่ต้องลงคะแนนโดยเปิดเผย ทำให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาต้องมีการลงมติกันก่อนว่าจะลงคะแนนโดยลับหรือเปิดเผย ซึ่งผลการลงมติฝ่ายต้องการให้ลงคะแนนลับชนะไป 86 ต่อ 77 จึงทำให้การลงคะแนนในวันนั้นเป็นการลงคะแนนลับอีกเช่นกัน
“คำถามคือ ที่ประชุมรองประธานศาลฎีกาและที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาสามารถมีมติให้การคัดเลือกเป็นการคัดที่ขัดกับวิธีที่กำหนดในกฎหมายได้หรือไม่ ซึ่งคำตอบของผู้ที่ไม่ต้องมีความรู้ทางกฎหมายมากนักก็ตอบได้ว่าไม่ได้ เพราะองค์กรต่างๆ ต้องทำตามกฎหมาย จะไปใช้มติเหนือกฎหมายไม่ได้
ผมคาดว่าประเด็นนี้คงมีการหยิบยกกันขึ้นมาร้องเรียนกันในเร็วๆ นี้ สำหรับผมเองไม่ได้รู้จักใดๆ กับผู้สมัครทั้งที่ได้และไม่ได้ แต่เห็นว่าหากจะดำเนินการเรื่องใดๆ ก็ควรดำเนินการให้ถูกกฎหมาย เพื่อให้เกิดความสง่างาม โดยเฉพาะในฟากฝั่งของศาล ซึ่งผู้รักษากฎหมายก็ควรเป็นแบบอย่างที่ถูกต้องของการรักษากฎหมายโดยเคร่งครัด” นายสมชัยกล่าว
กกต.ผู้นี้กล่าวถึงกรณีสำนักงาน กกต.ใช้งบประมาณ 17 ล้านบาท สร้างห้องทำงานรองรับ กกต.ใหม่ ว่า กกต.เพียงแค่ให้นโยบายว่าสำนักงานต้องเตรียมห้องทำงานให้พร้อมกับจังหวะที่ กกต.ชุดใหม่จะเข้ามาทำงาน ไม่ใช่ให้เขาเข้ามาก่อนแล้วค่อยมาทำ ซึ่งเดิมทีโมเดลแรกวางไว้ว่า กกต.ทั้ง 7 คน ห้องทำงานควรอยู่ชั้นเดียวกันหมดคือชั้น 8 ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 5 ห้อง แต่เนื่องจากบริเวณชั้นดังกล่าวมีปัญหาในเรื่องพื้นที่ ไม่สามารถที่จะขยายหรือปรับปรุงให้เป็นห้องทำงานสำหรับ กกต.ใหม่อีก 2 คนได้
"ด้วยเหตุนี้จึงมีการออกแบบใหม่ คือใช้พื้นที่บริเวณชั้น 9 ที่เดิมเป็นห้องรับรองและห้องจัดเลี้ยง มาปรับปรุงให้เป็นห้องทำงานของ กกต.อีก 2 คน โดยการออกแบบใหม่นอกจากเป็นห้องทำงานของ กกต.แล้ว จำเป็นต้องครอบคลุมทั้งห้องทำงานของที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ เลขานุการ เจ้าหน้าที่ต่างๆ ด้วย รวมประมาณ 10 คนต่อกกต. 1 คนด้วย ดังนั้นการปรับปรุงครั้งนี้ไม่ได้ทำเพื่อ กกต.แต่อย่างใด"
เขากล่าวว่า การออกแบบครั้งนี้ทางสำนักงานได้ให้กรมโยธาธิการและผังเมืองเป็นผู้ดำเนินการและเป็นฝ่ายตีราคากลาง ตั้งอยู่ที่ประมาณ 17 ล้านบาท แต่ราคาบริษัทที่ประมูลได้เสนอจัดสร้างในราคาประมาณ 15 ล้านบาทเศษ ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคากลางที่ตั้งไว้ ดังนั้นในแง่ของงบประมาณ อย่าไปคิดว่าทำเพื่อคนแค่ 2 คน แต่เป็นการรองรับคนที่จะต้องทำงานร่วมกับ กกต.ประมาณ 20 คนด้วย
"ส่วนประเด็นการจัดซื้อรถประจำตำแหน่งของ กกต.ใหม่นั้น ทาง กกต.ได้มีมติไม่อนุมัติให้ดำเนินการจัดซื้อตามที่สำนักงานได้เสนอ เนื่องจากเราเห็นว่ารถประจำตำแหน่งของ กกต.ที่มีอยู่เดิมจำนวน 10 คัน ยังอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้" นายสมชัยกล่าว
เช้าวันเดียวกัน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ห้องทำงานตึกไทยคู่ฟ้า โดยใช้เวลาหารือประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนเดินทางไปยังรัฐสภาเพื่อพบกับนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
นายวิษณุให้สัมภาษณ์ภายหลังพบประธาน สนช.ถึงรายชื่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดใหม่ ที่ผ่านการสรรหาว่า ได้เห็นรายชื่อว่าที่ กกต.ชุดใหม่ที่ผ่านการสรรหาทั้ง 7 คนแล้ว เชื่อว่าสามารถทำงานได้ เพราะมีประสบการณ์ และผ่านการสรรหาจากคณะกรรมการฯ มาอย่างเข้มข้น จากนี้จะนำรายชื่อเข้าสู่ที่ประชุม สนช.
"หากที่ประชุมมีมติเห็นชอบ จะมีการหารือกับ กกต.ชุดใหม่ถึงโรดแมปการเลือกตั้ง ยืนยันรัฐบาลไม่สามารถสั่งการให้ กกต.กำหนดการจัดการเลือกตั้งได้ เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต.ที่ต้องไปออกกฎระเบียบเพื่อให้รัฐบาลดำเนินการตามโรดแมป" นายวิษณุกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงการปลดล็อกเพื่อเป็นของขวัญให้พรรคการเมืองหรือไม่ รองนายกฯ บอกว่า ไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่จะพิจารณา ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้หารือในเรื่องดังกล่าว แต่เชื่อว่า คสช.จะมีวิธีแก้ไขเพื่อหาทางออก
รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีสมาชิก สนช.แสดงความเห็นกังวลเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ด้วยการเลือกแบบไขว้ อาจทำให้เกิดปัญหาตามมา จนนำไปสู่การคว่ำร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ในวาระ 2 และ 3 ว่าจะไม่เกิดปัญหา เพราะกฎหมายยังสามารถพิจารณาปรับปรุงแก้ไขได้ในชั้นกรรมาธิการ อีกทั้งประธาน สนช.เคยระบุว่าจะไม่มีการคว่ำร่างอย่างแน่นอน
ขณะที่นายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน กรรมาธิการการเมือง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่า เมื่อกรรมการสรรหาส่งรายชื่อ กกต.มาแล้ว ทาง สนช.ก็ต้องประชุมเพื่อตั้งคณะกรรมการตรวจสอบประวัติความประพฤติและจริยธรรม ซึ่งจะเปิดให้หน่วยงานต่างๆ แจ้งข้อมูลด้านจริยธรรมและความประพฤติมาให้คณะกรรมการฯ เพื่อพิจารณาตรวจสอบ ดังนั้นยังบอกไม่ได้ว่า สนช.จะให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ 5 ว่าที่ กกต.
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |