8 พ.ย.61- นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมผู้บริหารระดับสูงเมื่อเร็วๆ นี้ ได้รับรายงานความคืบหน้าการงานค้นหาอัตลักษณ์ และความโดดเด่นของจังหวัดต่างๆ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ภายใต้โครงการสร้างสรรค์ศิลปะร่วมสมัยเพื่อต่อยอดทุนทางวัฒนธรรม หรือ 4 DNA สู่การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เชิญผู้ทรงคุณวุฒิมาให้ความรู้และร่วมออกแบบผลิตภัณฑ์ และสร้างสรรค์ผลงานอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของอำเภอ และจังหวัด เช่น สี ลวดลาย ตัวอักษรภาษาไทยและอังกฤษ พบว่า ปี 2561 มีผลงานออกแบบชุมชนรวม 43 อำเภอ ใน 4 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสงคราม พิษณุโลก ระยอง และนครศรีธรรมราช และนำไปใช้ต่อยอดพัฒนาสินค้า ผลิตภัณฑ์และบริการทางวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่น เช่น  ถุงบรรจุสินค้า ฉลากสินค้า ลายกระเบื้องปูพื้น ลายผ้า และปี 2562 จะขยายผลโครงการไปยังจังหวัดที่เป็นเมืองศิลปะ คือ จ.กระบี่ นครราชสีมา และเชียงรายต่อไป   
 นายวีระ กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้ให้ สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) และกรมศิลปากร ขยายผลโครงการ เช่น การนำลายกระเบื้องปูพื้นที่แสดงถึงอัตลักษณ์ของจังหวัดไปใช้ปรับปรุงพื้นที่แหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และส่งเสริมการให้ประชาชนในพื้นที่นำผลการออแบบไปใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย หรือ ซีพ็อต เพื่อเป็นสถานที่ต้นแบบขยายผลโครงการและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

นายวีระ กล่าวว่า  ส่วนความคืบหน้าการรวบรวมหลักสูตรฝึกอบรมทักษะอาชีพด้านศิลปวัฒนธรรมเพื่อฝึกอาชีพให้แก่นักเรียน นักศึกษาและประชาชนสร้างรายได้แก่คนในท้องถิ่นนั้น  ล่าสุด จัดทำได้แล้ว 39 หลักสูตร แบ่งเป็น ของกรมศิลปากร 13 หลักสูตร กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) 3 หลักสูตร สศร. 1 หลักสูตร และสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ (สบศ.) 22 หลักสูตร อาทิ การเขียนหน้าหัวโขนจำลอง การสร้างสรรค์ งานสีอะครีลิคบนผลิตภัณฑ์ผ้า โดยจัดทำเป็นหนังสือปฏิทินจัดอบรมทักษะอาชีพด้านศิลปวัฒนธรรมตลอดปี 2562 คาดว่าจะแล้วเสร็จ และเผยแพร่สู่ประชาชนเริ่มฝึกอบรมได้ต้น ม.ค. 2562  

“ นอกจากนี้ กรมศิลปากร ยังได้รายงานเกี่ยวกับสถิติผู้เข้าใช้ และผู้เข้าชมแหล่งเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรมจากการดำเนินการปรับปรุงระบบการนำชม และนิทรรศการในพื้นที่ต่างๆ ประจำปีงบประมาณ 2562 เดือน ต.ค.2561 เช่น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุทยานประวัติศาสตร์ หอสมุดแห่งชาติ พบว่า มีผู้เข้าชมจำนวน 909,712 คน/รูป เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามีผู้เข้าชม 715,605 คน /รูป พบว่า มีผู้เข้าชมเพิ่มขึ้น 194,107 คน/รูป คิดเป็นร้อยละ 27.12 ซึ่งกรมศิลปากรจะดำเนินการรณรงค์และประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ประชาชนเข้าชมแหล่งเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่อง” นายวีระ กล่าว