ลำดับภาษาอังกฤษคนไทย


เพิ่มเพื่อน    

 
    
    การมีทักษะใช้ภาษาต่างๆ ได้หลากหลาย นับว่ามีส่วนสำคัญในการสร้างโอกาสที่ดีในหน้าที่การงาน จะเห็นได้ว่าในปัจจุบันความต้องการเรียนภาษาเพิ่มเติม ไม่ได้เลือกเพียงแค่ภาษาอังกฤษ แต่ยังมีภาษาอื่นที่ขึ้นอยู่กับความสนใจของแต่ละบุคคล อาทิ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น บางคนเรียนเพราะความชื่นชอบ บางคนต้องการพัฒนาศักยภาพของตนเอง เพื่อให้มีความก้าวหน้าในการทำงาน แต่ในวันนี้จะไม่ได้กล่าวถึงภาษาเหล่านั้น กำลังจะอัพเดตว่าการใช้ภาษาอังกฤษของคนไทยมีสถานการณ์เป็นเช่นไรในปัจจุบันนี้ 
    เมื่อไม่นานมานี้ อีเอฟ เอดูเคชันเฟิสต์ ได้เปิดเผยผลการจัดอันดับความสามารถทางการใช้ภาษาอังกฤษประจำปี ซึ่งสำรวจจากคนจำนวน 1.3 ล้านคน จาก 88 ประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก จากผลการสำรวจพบว่า ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของคนไทยอยู่ในระดับต่ำ โดยประเทศไทยถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 64 ของโลก ซึ่งร่วงลงจากอันดับที่ 53 ในปีก่อน และหากเปรียบเทียบในระดับเอเชีย ประเทศไทยถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 16 จาก 21 ประเทศอีกด้วย 
    มิน ทราน ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายงานวิจัย กล่าวว่า ผลสำรวจพบว่าในระยะเวลา 1 ปี อันดับความสามารถด้านการใช้ภาษาอังกฤษของคนไทยตกลงไป 11 อันดับ และการสำรวจ EF EPI แสดงให้เห็นว่าประเทศและบุคคลที่ลงทุนในการศึกษาภาษาอังกฤษ และตระหนักถึงความสำคัญของภาษา ซึ่งเป็นตัวผลักดันด้านการแข่งขัน จะเป็นประเทศและบุคคลที่มีทักษะการใช้ภาษาอังกฤษที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผลการจัดอันดับของ EF นี้ถูกนำมาเป็นข้อมูลอ้างอิงที่สำคัญของรัฐบาล บริษัท และผู้ให้ความรู้ เมื่อพูดถึงทักษะด้านภาษาอังกฤษ
    สำหรับผลการสำรวจประเด็นหลักๆ ของ EF EPI ปีนี้ ได้แก่ ยุโรปยังคงเป็นผู้นำระดับโลกด้านความสามารถทางภาษาอังกฤษ โดย 8 ใน 10 อันดับประเทศที่มีความสามารถด้านการใช้ภาษาอังกฤษสูงสุดเป็นประเทศจากแถบยุโรป ขณะเดียวกันยังนับเป็นครั้งแรกของประเทศในแถบเอเชียที่ติดโผ 3 อันดับแรก คือ สิงคโปร์ อยู่ในอันดับที่ 3 ของโลก อย่างไรก็ตาม เอเชียยังคงมีช่องว่างที่ใหญ่ที่สุดในระดับภูมิภาค และประเทศที่มีความสามารถด้านภาษาอังกฤษต่ำสุด โดยประเทศอุซเบกิสถานอยู่อันดับที่ 86 ของโลก  
    ส่วนประเทศหรือภูมิภาคที่มีระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษสูงมาก โดยเรียงตามลำดับประกอบด้วย 1.สวีเดน 2.เนเธอร์แลนด์ 3.สิงคโปร์ 4.นอร์เวย์ 5.เดนมาร์ก 6.แอฟริกาใต้ 7.ลักเซมเบิร์ก 8.ฟินแลนด์ 9.สโลวีเนีย 10.เยอรมนี 11.เบลเยียม และ 12.ออสเตรีย นับเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 8 ปี ที่ประเทศสวีเดนติดโผอันดับสูงสุดจากผลการทดสอบความสามารถด้านภาษาอังกฤษ EF FPI ทำให้ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งติดอันดับหนึ่งในปีที่แล้ว ลดลงมาเป็นอันดับที่ 2
    ขณะที่แอฟริกาแสดงถึงความสามารถด้านภาษาอังกฤษได้ดีขึ้นกว่าภูมิภาคอื่นๆ โดยประเทศแอลจีเรีย อียิปต์ และแอฟริกาใต้ ได้พัฒนาเพิ่มขึ้น 2 คะแนนหรือมากกว่า ส่วนลาตินอเมริกาเป็นประเทศเดียวที่แสดงถึงความสามารถด้านภาษาอังกฤษโดยรวมลดลงเล็กน้อย ผลคะแนนในภูมิภาคยังคงสม่ำเสมอกว่าที่อื่นๆ โดยมีความแตกต่างเพียงเล็กน้อยระหว่างประเทศที่มีระดับความสามารถภาษาอังกฤษต่ำสุดและสูงสุด
    หากแบ่งเป็นทวีปเอเชียจะพบว่าสิงคโปร์มาวินเป็นที่ 1 ของทวีปจากลำดับ 3 ของโลก ตามมาด้วยฟิลิปปินส์ที่เป็นอันดับ 14 ของโลก มาเลเซียอันดับที่ 22 ของโลก อินเดีย 28, ฮ่องกง 30, เกาหลีใต้ 31, เวียดนาม 41, มาเก๊า 44, จีน 47, ไต้หวัน 48, ญี่ปุ่น 49, ปากีสถาน 50, อินโดนีเซีย 51, ศรีลังกา 58, บังกลาเทศ 63, ไทย 64, คาซัคสถาน 80, เมียนมา 82, อัฟกานิสถาน 84, กัมพูชา 85 และอุซเบกิสถาน 86
    ในผลสำรวจยังบอกอีกว่า ผู้หญิงยังคงมีทักษะด้านภาษาอังกฤษดีกว่าผู้ชาย โดยความสามารถด้านการใช้ภาษาอังกฤษระหว่างสองเพศจากทั่วโลกเริ่มแตกต่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา ผลสำรวจในแบบสหสัมพันธ์พบว่าความสามารถทางภาษาอังกฤษในประเทศส่งผลต่อความเท่าเทียม โดยประเทศที่มีความสามารถทางการใช้ภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้น จะมีความเท่าเทียมกันมากขึ้น โดยพบว่าจำนวนเด็กผู้หญิงในประเทศเหล่านี้ได้รับโอกาสในการเรียนหนังสือเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมีบัญชีเงินฝากในชื่อตัวเองอีกด้วย
    จริงๆ คนไทยเริ่มเรียนภาษาอังกฤษกันมาตั้งแต่เด็กๆ ลองมานับเฉลี่ยๆ ดูแล้วน่าจะมากกว่า 5-10 ปี หลายคนเรียนเพื่อสอบ แต่ไม่ได้ใช้สื่อสาร ซึ่งบางคนอาจไม่ชอบจากหลายสาเหตุ ยิ่งมีผลต่อการเรียนภาษาอังกฤษ ส่งผลให้บางรายขาดความมั่นใจไปเลยก็มี แต่ในปัจจุบันวิธีการฝึกภาษาอังกฤษด้วยตนเองมีให้เลือกอยู่หลายทาง โดยแทบไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายก็มี เพียงแค่ต้องมีวินัยกับตัวเอง หาแรงจูงใจในการฝึกอย่างสม่ำเสมอ แต่กระนั้นลำดับจากผลสำรวดังกล่าวก็ต้องกลับมามองภาพรวมของประเทศว่าเป็นเพราะอะไร และผู้ที่เกี่ยวข้องต้องหาแนวทางมาผลักดันภาษาอังกฤษของคนไทย คงต้องมาดูกันต่อว่าผลสำรวจครั้งหน้า เมืองไทยจะดีขึ้นหรือน่ากังวลมากกว่าเดิม!. 
 

รุ่งนภา สารพิน    


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"