น้ำมัน-อาหารแพงฉุดเงินเฟ้อม.ค.พุ่ง 0.68%


เพิ่มเพื่อน    

น้ำมัน-อาหารแพง ฉุดเงินเฟ้อเดือนม.ค.พุ่ง 0.68%  “พาณิชย์” ปรับคาดการณ์เงินเฟ้อปี 61 เพิ่มเป็น 0.7-1.7%  พร้อมเตรียมรื้อฐานเงินเฟ้อใหม่ เพิ่มสินค้าและขายออนไลน์ คาดเริ่มใช้ม.ค.ปี 62

1 ก.พ. 2561 - น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ (เงินเฟ้อ) เดือนม.ค.2561 เท่ากับ 101.44 เพิ่มขึ้น 0.68% เทียบกับม.ค. 2560 และสูงขึ้น 0.07% เทียบกับธ.ค. 2560  ซึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้เงินเฟ้อขยายตัวสูง เป็นผลจากดัชนีหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม เพิ่มขึ้น 1.04% 

รวมถึงสินค้าสำคัญราคาแพงขึ้น เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง เพิ่ม 2.17% หมวดยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ เพิ่ม 5.93% ผลจากการปรับโครงสร้างภาษีสรรพาสามิต ค่าเช่าบ้าน ค่าเช่าหอพัก เพิ่ม 1.30% ส่วนหมวดอาหารและเครื่องดื่ม เพิ่มขึ้น 0.09% สินค้าสำคัญราคาแพงขึ้น เช่น อาหารบริโภคในบ้าน เพิ่ม 1.22% อาหารบริโภคนอกบ้าน เพิ่ม 0.84% เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เพิ่ม 0.98% ส่วนเนื้อสัตว์ เป็ดไก่และสัตว์น้ำ ราคาลดลง 1.59% ไข่และผลิตภัณฑ์นม ราคาลด 2.72%

น.ส.พิมพ์ชนก กล่าวว่า สนค. ได้ปรับคาดการณ์เงินเฟ้อปี 2561 ใหม่ โดยปรับเพิ่มจาก 0.6-1.6% เป็น 0.7-1.7% มีค่ากลางอยู่ที่ 1.2% ภายใต้สมมุติฐานจากการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย 3.6-4.6% น้ำมันเชื้อเพลิง 55-65 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล อัตราแลกเปลี่ยนที่ 32.34 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และได้เพิ่มผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเข้าไปแล้ว เพื่อให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริง

อย่างไรก็ตาม สนค.กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาทบทวนการจัดทำเงินเฟ้อใหม่ โดยจะเน้นการปรับข้อมูลเงินเฟ้อใน 4 ประเด็น ได้แก่ 1. การทบทวนแหล่งข้อมูลจัดเก็บราคาสินค้าให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน  ,2.ทบทวนจังหวัดตัวแทนจัดเก็บเพิ่มจำนวนจังหวัดที่มีความสำคัญเพิ่มมากขึ้น, 3.ปรับปรุงรายการสินค้าและบริการที่จะใช้คำนวณอัตราเงินเฟ้อ ให้สอดคล้องกับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันให้มากขึ้น และ4.เพิ่มน้ำหนักของการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์  เพราะปัจจุบันคนเริ่มให้ความสำคัญกับการซื้อสินค้าทางออนไลน์

“สนค. จะหารือกับห้างค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ เว็บออนไลน์รายสำคัญๆ เช่น ลาซาด้า เพื่อดูสัดส่วนการใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ดูแนวโน้มราคาสินค้าที่ซื้อขายกับสินค้าที่ขายทั่วไปเป็นอย่างไร เพื่อนำมาใช้ในการคำนวณเงินเฟ้อต่อไป คาดว่าจะได้ข้อสรุปการทบทวนข้อมูลภายใน 3-4 เดือน แล้วถึงดำเนินการรวบรวมสินค้าและบริการเพื่อปรับปีฐานเงินเฟ้อเป็นปี 2561 ดังนั้นน่าจะเริ่มใช้จริงได้เดือนม.ค.ปี 2562 ซึ่งตามปกติจะมีการทบทวนทุก 4 ปี แต่หลังจากนี้จะมีการทบทวนเร็วขึ้น เพราะต้องการให้ข้อมูลเงินเฟ้อสอดคล้องกับสถานการณ์และมีมาตรฐานสากล” น.ส.พิมพ์ชนก กล่าว 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"