'ภูมิใจหนู'ประกาศเป็นพรรคกาวใจยุติความขัดแย้ง!


เพิ่มเพื่อน    

23 พ.ย.61 - ที่เดอะไพน์ รีสอร์ท อ.สามโคก จ.ปทุมธานี มีการประชุมสาขาและเลือกตั้งกรรมการสาขา พรรคภูมิใจไทย จังหวัดปทุมธานี โดยมีแกนนำพรรคภูมิใจไทยเข้าร่วม อาทิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) นายทรงศักดิ์ ทองศรี รองหัวหน้าพรรคคนที่ 1 นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รองหัวหน้าพรรคคนที่​ 3 นอกจากนี้ ยังมีนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดังของจ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย​ คือ นายชาญ พวงเพ็ชร์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)ปทุมธานี มาแนะนำทีมงานว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขต จำนวน 6 คนด้วย

นายอนุทิน กล่าวต่อสมาชิกพรรคตอนหนึ่งว่า จังหวัดปทุมธานีเป็นจังหวัดคู่บุญของพรรคภูมิใจไทย เพราะมีนายชาญ นายกอบจ.ปทุมธานี ซึ่งไม่เคยทอดทิ้งพรรค ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันมาตลอด ในวันนี้ พรรคภูมิใจไทยมีบุคลากรที่มีความพร้อมทุกด้าน พร้อมดูแลปากท้องของประชาชน สโลแกนของพรรคคือ ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน หมายความถึงต้องการให้ประชาชนได้ใช้อำนาจของการเป็นคนไทย โดยไม่ถูกลิดรอนจากกรอบหรือระเบียบโบราณ ตนยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยไม่เล่นการเมือง ไม่ขัดแย้งกับใคร แต่พยายามเป็นกาวใจให้ความขัดแย้งลดลง ซึ่งพรรคถือเป็นหน้าที่หลัก เพื่อนำความมั่นคงมาสู่ประเทศ

"วันนี้เราพร้อมกว่าทุกการเลือกตั้งที่ผ่านมา พวกเราไม่ใช่ฝนตกขี้หมูไหล แต่เป็นคนที่มีความตั้งใจมาทำงานเพื่อบ้านเมืองด้วยกัน ครั้งหนึ่ง ผมเคยเป็นรัฐมนตรี แต่ไม่ได้เป็น ส.ส. เวลาเข้าสภาฯ รู้สึกเหลือตัวเท่ามด เพราะต้องไปตอบคำถามของ ส.ส. ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชน ดังนั้น ต้องทำการบ้าน ต้องพูดความจริง ไม่เช่นนั้นจะถูกกระชากตำแหน่งรัฐมนตรีได้ทันที อย่างไรก็ตาม เวลานี้ผมเป็นบัญชีรายชื่ออันดับ​ 1 ของพรรค และตั้งใจจะเป็นผู้แทนราษฎรให้ได้เพื่อความสง่างาม โดยแม่ทัพของพรรคในจังหวัดปทุมธานี คือ นายชาญ และถ้าพี่น้องปทุมธานีเลือกผู้สมัครของพรรคทั้ง​ 6 คน เราจะไม่เพียงได้ ส.ส.​ 6 คน แต่จะได้ ส.ส. บัญชีรายชื่อด้วย" นายอนุทินกล่าว

นายอนุทินยังให้สัมภาษณ์หลังการประชุมว่า นายชาญ​ ไม่ได้เป็นหัวเรือใหญ่​ แต่เป็นต้นหนที่สั่งกัปตันได้​ ถือเป็นเพื่อนแท้ของพรรค​ มีความมั่นคงในการรับใช้ประชาชน วันนี้เป็นการประชุมสมาชิกสาขาพรรค ซึ่งปทุมธานีถือเป็นจังหวัดนำร่อง โดยพรรคได้มอบหมายให้นายชาญ บริหารจัดการพื้นที่และทำการคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติเสนอตัวเป็นผู้สมัครส.ส. หลังจากนั้นจึงให้ประชาชนซึ่งเป็นสมาชิกของพรรคคัดเลือกอีกครั้งหนึ่ง แสดงให้เห็นว่าพรรคมีการเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น ​สิ่งที่พรรคพูดอยู่เสมอคือการปฏิบัติตนอยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญ การทำการเมืองไม่จำเป็นต้องแก่งแย่งชิงดี ทั้งนี้ พรรคจะส่งใครลงเป็นผู้สมัครส.ส ไม่ได้เป็นไปตามใจของหัวหน้าพรรคหรือผู้บริหารพรรค​ แต่ต้องเป็นคนที่ประชาชนในแต่ละพื้นที่คัดเลือก​ ใครอยากลงสมัครก็ต้องไปทำความนิยม​

เมื่อถามถึงกรณีนายบุญจง​ วงศ์ไตรรัตน์ อดีตรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นายอนุทินกล่าวว่า นายบุญจงไม่ได้อยู่กับพรรคนานแล้ว ตั้งแต่ปี 2557 และไม่ได้มีการติดต่อกันตั้งแต่นั้นมาเพราะเป็นช่วงปลอดการเมือง ตนมองว่าขณะนี้ทุกพื้นที่เหมือนถูกล้างไพ่​ ​จึงไม่ได้ดูว่าใครอยู่มาก่อนหรือมาทีหลัง​ แต่ใครที่ได้รับความไว้ใจและได้รับการเสนอชื่อจากประชาชน​ คนนั้นก็จะได้เข้าไปแข่งขัน​ ตนชอบระบบนี้​ เพราะตนเองเป็นคนพวกมาก​ มีคนนู้นคนนี้มาฝาก​ ก็ดีหมดทุกคน​ ถ้าเลือกอีกคนก็ขัดใจอีกคน ดังนั้น​ ต้องไปทำความนิยมกับสมาชิกพรรค​ ใครไม่มีความนิยมก็ต้องเสียใจด้วย​ เชื่อว่ากระบวนการเช่นนี้จะเป็นการเริ่มต้นที่ดีของการเคารพกติกาและผลเลือกตั้ง เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไป


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"