14 ธ.ค. 61 - มีรายงานจากพรรคเพื่อชาติว่า พรรคเพื่อชาติส่งนายพนาสันต์ สุนันต๊ะ พลเมืองดิจิตอลซึ่งเคยได้รับเหรียญทองคอมพิวเตอร์โอลิมปิก ผู้เชี่ยวชาญปัญญาประดิษฐ์ ลงสมัคร ส.ส. เขต 2 จังหวัดสุโขทัย ซึ่งมีผลงานพัฒนาโครงการ “ปัญญาประดิษฐ์เพื่อการคัดกรองวัณโรค” ของทีมพนาสันต์ได้รับคัดเลือกไปนำเสนอในงานประชุม IDWeek ซึ่งเป็นงานประชุมโรคติดเชื้อระดับโลกที่ เมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อ 3-7 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมานี้ ในสมัยเป็นนักศึกษามธ. ทีมของพนาสันต์ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับสองโครงการแข่งขันส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นด้วย Algorithmic Trading อีกด้วย
นายพนาสันต์ เผยว่าที่ตัดสินใจเข้าสู่วงการเมืองแบบเต็มตัวและเลือกเข้าพรรคเพื่อชาติ ด้วยเหตุผล 2 ประเด็น คือ 1.การที่ตัดสินใจเข้าสู่การเมืองต้องบอกว่าในสมัยที่เรียนโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ คือ ในตอนมัธยมปลาย ผู้อำนวยการเขาจะพูดเสมอ เราเป็นคนที่โชคดีกว่าทุกคนอื่น เรามาเรียนที่นี่ด้วยภาษีประชาชน เราจะต้องพัฒนาประเทศ จะเน้นย้ำว่าเป็นหัวรถจักรในการพัฒนาประเทศ ซึ่งตรงนี้ทำให้เราคิดว่าการที่จะพัฒนาประเทศมีทางไหนได้บ้าง คือ ตอนที่อยูในโรงเรียนนั้น ผอ.เสนอมาว่า วิธีที่จะพัฒนาประเทศก็คือ การเป็นนักวิจัย แต่เราก็ค้นพบว่ามันมีมากกว่าหนึ่งวิธีที่จะพัฒนาประเทศ คือ หนึ่ง การใช้ธุรกิจนำ เลยทำให้ผมตัดสินใจเข้าเรียนที่ ม.ธรรมศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจการเงินครับ และอันที่สอง ธุรกิจนำไม่พอจะต้องขับเคลื่อนตัวเองโดยวิธีการใช้การเมือง ตรงนี้คือเรามีจุดลึก ๆ ในใจ สิ่งที่จะแก้ปัญหาให้ประเทศพัฒนาได้จะต้องใช้สองอย่างควบคู่กัน อันนี้เลยเป็นจุดที่ผมสนใจในด้านนี้ และประเด็นที่ 2.การตัดสินใจเข้าพรรคเพื่อชาติ ต้องบอกว่าถ้า เป็นพรรคอื่น ๆ ใหญ่ ๆ แบบนี้ ถ้าเป็นเด็กธรรมดาที่ no name แบบนี้ไม่มีทางทีจะมาทำงานตรงจุดนี้แน่นอน เพราะหนึ่งคือเราไม่ได้เป็นลูกนักการเมืองเก่า และสองคือเราไม่ได้เป็นคนรวยหรือมีเงิน เราเป็นชาวบ้านธรรมดา คือเราไม่ได้มีประสบการณ์ทางการเมืองมาก่อนอย่างนี้ แต่ว่าที่พรรคเพื่อชาติเขาเปิดโอกาสให้เราเข้ามาทำ ให้เด็กรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถเข้ามามีเวทีมายืนในตรงนี้ได้ครับ
นายพนาสันต์เผยต่อถึงการนำประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ และความเป็นพลเมืองดิจิตอลมาใช้กับประเทศว่า ถ้าเราได้มีโอกาสเข้าไปทำงานในด้านการเมือง สิ่งไหนที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี เราสามารถเข้าไปช่วย ยกตัวอย่างเช่น เราได้เป็นคณะกรรมการที่ดูแลในเรื่องของเทคโนโลยี ซึ่งในเรื่องนี้เรารู้ว่างานไหนเวิร์ค งานไหนไม่เวิร์ค ตรงนี้เราสามารถใช้ความรู้ของเราไปช่วยในตรงนี้ได้ เพราะต้องบอกเทคโนโลยีในโลกทุกวันนี้ เราไม่ต้องไปมองถึง 20 ปีข้างหน้า 3 ปีข้างหน้ายังไม่มีใครรู้ ดังนั้นคือถ้าเราเอาคนที่ไม่ได้มีความรู้ความเชี่ยวชาญจริง ๆ มาบริหารด้านเทคโนโลยี เราตามโลกไม่ทันครับ ตรงนี้ตนคิดว่า ความรู้ ความสามารถที่มี เราสามารถทำให้ประเทศไทยยืนอยู่บนเทคโนโลยีได้ คือสามารถใช้เทคโนโลยีเป็นครับ อันนี้คือความถนัดของตน
จากการลงพื้นที่สมัคร นายพนาสันต์ กล่าวว่าปัญหาหลักที่ได้เจอ คือ ปัญหาปากท้อง อันที่หนึ่งก็คือ สินค้าเกษตรไม่มีราคา ก็คือปัญหาปากท้อง รายได้ยังไม่มี ผมลงพื้นที่เด็กวัยทำงาน เช่น เด็กวัยทำงานอายุ 25-40 ปี แทบจะไม่มีเลย ในแต่ละบ้านเหลือแค่คนแก่ ๆ กับเด็กที่กำลังเรียนหนังสืออยู่ เป็นสิ่งที่ผมมองว่าถ้าเรายังมีปัญหาปากท้อง โครงสร้างทางสังคมมันมีปัญหาแล้ว เพราะว่าต่างจังหวัดเหลือคนแก่กับเด็ก
ประเด็นที่ 2 ที่เราเจอคือ พอเขารายได้ไม่มี ต้องบอกว่าต่างจังหวัดในแหล่งงานที่รายได้สูงไม่มีนะครับ งานหลักของต่างจังหวัดก็มีแค่เกษตร กับคนที่อยู่ได้บางกลุ่ม อย่างเช่น ข้าราชการ คือต้องบอกว่าปัญหานี้มันส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ ชาวบ้านที่มีรายได้หลักเป็นเกษตรกร รายได้ไม่พอมันเลยส่งผลกระทบมายังพ่อค้า แม่ค้าที่ขายของยังตลาด ในส่วนนั้นก็ไม่มีรายได้เหมือนกัน ต่อมาพอมีปัญหา ก็เกิดปัญหาที่เรียกว่า “หนี้” 2 แบบ คือ หนี้ในระบบและหนี้นอกระบบ หนี้ในระบบอย่างเช่น ธกส. ก็ยังดีหน่อย อย่างมากก็แค่โดนยึด แต่ว่าสิ่งที่ผมเจอหนัก ๆ คือ ชาวบ้านพวกนี้เขาไม่มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงิน คือ 1. พอรายได้ไม่มี ไปกู้ธนาคารมาทำธุรกิจ มาสร้างเนื้อสร้างตัวก็ไม่ได้ เขาก็ไม่รู้จะไปหาเงินอย่างไร ก็ต้องไปกู้นอกระบบ ซึ่งไปเจอหลายคนมีดอกเบี้ยเดือนหนึ่ง 40 เปอร์เซ็นต์นะครับ บางคนกู้มาเป็นหมื่นเดียว ทำไมไป ๆ มา ๆ ถ้าเขาขาดส่งไปปีเดียว กลายเป็นหลักแสน-สองแสนครับ ตรงนี้คือเจอปัญหาที่เยอะมาก คนกลุ่มนี้ไม่ได้รับการช่วยเหลือ เพราะว่าหนึ่งคือมันไม่รู้จะไปหาใคร ตำรวจก็ช่วยไม่ได้ ไปหาศูนย์ดำรงธรรมก็ช่วยไม่ได้ จะไปกู้ธนาคารก็ไม่ได้เพราะไม่มีหลักทรัพย์ อันนี้คือ สิ่งที่ตามมา
ประเด็นที่ 3 คือเรื่องยาเสพติด ตอนนี้ซื้อง่ายขายคล่องยิ่งกว่าขนมอีกนะครับ ยิ่งตอนนี้มี 4G เขาซื้อกันผ่าน Line สั่งให้ไปส่งที่ไหนได้เลย อันนี้เป็นปัญหาหนักมากขึ้นที่เราเจอ คือ จริง ๆ มันเริ่มมากจากปัญหาที่หนึ่ง เราต้องมองโครงสร้างทางสังคมของจังหวัดสุโขทัย ยกตัวอย่าง เราต้องมองก่อนว่าประชากรจำนวนมากมีรายได้มาจาก นา ข้าว อ้อย พอสินค้าเกษตรไม่มีราคา ส่งผลให้ไม่มีกำลังซื้อ พอไม่มีกำลังซื้อ ส่งผลให้พ่อค้าแม่ค้าในตลาดร้านค้า วัสดุก่อสร้าง ไม่มีกำลังซื้อมันก็เลยซบเซา พอบางคนไปกู้มา กู้มาสร้างพอไม่มีกำลังซื้อก็ต้องโดนยึด พอโดนยึดก็ไม่รู้จะเริ่มใหม่ยังไง พอไปกู้ที่เรียกว่า Refinance ไม่มีหลักทรัพย์อะไรก็ไปเข้าสู่หนี้นอกระบบ ก็ไปกู้ดอกเบี้ยร้อยละ 40 ต่อเดือน จากไม่กี่หมื่นตอนนี้ก็กลายเป็นหลายแสนเลยครับ คราวนี้ก็ดอกเบี้ยทบต้นเขาไม่รู้หลอกว่ามันโหด ก็เกิดปัญหาที่ตามมาก็คือ ปัญหายาเสพติด ไม่ใช่มาจากรายได้ แต่มาจากอำนาจรัฐที่ไม่ได้คุมกันชัดเจน คือ ตอนนี้ซื้อ – ขายกันเยอะมาก และส่งผลกระทบอีกกลายเป็นว่าวัยทำงาน โครงสร้างของคนในวัยทำงาน ในต่างจังหวัดเขาเข้าไป กทม. ไปชลบุรี ไประยองกันหมด ตรงนี้ก็จะเกิดปัญหาสังคมที่ตามมาอีกครับ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |