23 ธ.ค.2561 - เมื่อเวลา 08.00 น. ที่การเคหะธนบุรี 2 พรรคไทยรักษาชาติ นำโดย ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค นายฤภพ ชินวัตร รองหัวหน้าพรรค นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะทำงานรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช ผู้อำนวยการเลือกตั้ง นายก่อแก้ว พิกุลทอง สมาชิกพรรค ลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็น และรับสมัครสมาชิกที่พร้อมแจกเอกสารแนะนำตัว น.ส.กมลพัฒน์ ปุงบางกะดี่ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.บางขุนเทียน พรรคไทยรักษาชาติ จากนั้นเวลา 10.00 น. เดินทางไปที่ คลองพิทยาลงกรณ์ เขตบางขุนทียน เพื่อพบปะรับฟังปัญหา น้ำกัดเซาะทะเลชายฝั่งบางขุนเทียน

ร.ท.ปรีชาพลกล่าวว่า การลงพื้นที่ในวันนี้ น.ส. กมลพัฒน์ ผู้ที่เสนอตัวเป็นผู้สมัครเขตบางขุนเทียน ร้องขอไปทางพรรคไทยรักษาชาติ ให้พวกเรามีโอกาสได้ลงมาพบปะกับประชาชน เพื่อถามสารทุกข์สุกดิบ 4-5ปีที่ผ่านมาการสื่อสารระหว่างพรรคการเมือง นักการเมืองกับประชาชนนั้นขาดหายไป โดยช่วงเช้าได้ลงพบปะพี่น้องประชาชนที่ชุมชนการเคหะธนบุรี 2 ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากพี่น้องประชาชน ถือว่าเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง ส่วนที่เรามาที่แห่งนี้ เพื่อจะดูเรื่องปัญหาน้ำกัดเซาะชายฝั่งซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน ขาดการประสานงาน การร่วมมือที่ดีระหว่างนักการเมืองท้องถิ่นและนักการเมืองระดับประเทศ เราได้ทราบปัญหามาระดับหนึ่งว่า น้ำกัดเซาะชายฝั่งสร้างปัญหาให้กับคนในพื้นที่เป็นจำนวนมาก โดยน้ำกัดเซาะไปแล้วถึงประมาณ 5000 ไร่ สร้างความเสียหายมากเรียกได้ว่าคนบางขุนเทียนไม่ได้มีโฉนดที่ดิน แต่กลายเป็นมีโฉนดน้ำเข้ามาแทน ฉะนั้นหากพรรคไทยรักษาชาติได้มีโอกาสเข้าไปจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคการเมืองที่มาจากฝั่งของประชาธิปไตย ตนเชื่อมั่นว่าเราจะคำนึงถึงความเดือดร้อนปัญหาพี่น้องประชาชน และปัญหาชายทะเลบางขุนเทียน จะได้รับการแก้ไขในเร็ววัน

เมื่อถามว่า กรณีซุปเปอร์โพล ระบุว่าพรรคการเมืองที่คนที่มีสิทธิเลือกตั้งในกทม.และต่างจังหวัดจะเลือกคือพรรคเพื่อไทยและพรรคอนาคตใหม่ แล้วพรรคไทยรักษาชาติใช้กลยุทธ์ใดในการต่อสู้ ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า คนกทม. เป็นตัวแปรสำคัญในการที่จะได้รับชัยชนะของแต่ละพรรคการเมือง แต่ถ้าจะดูแต่จากผลโพลพบว่ามีประมาณกว่าเกือบ 60% ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจที่จะลงคะแนนเสียงให้กับพรรคการเมืองใด พรรคไทยรักษาชาติเป็นพรรคการเมืองที่ใหม่ แต่มีการหลอมรวมคนรุ่นใหม่ซึ่งมีวิสัยทัศน์ และคนรุ่นเดิมที่มีประสบการณ์ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทยจนมาถึงพรรคเพื่อไทย เชื่อว่าเมื่อได้ประกาศนโยบายของเราต่อสู่สาธารณะชนแล้ว จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่มีสิทธิ์เลือกตั้งในเขตกทม. ที่จะตัดสินใจเลือกพรรคไทยรักษาชาติเพื่อให้เป็นตัวแทนเข้าไปทำงานไปทำหน้าที่แทน

เมื่อถามว่ามีกระแสข่าว ในเขตพื้นที่กทม. ถ้ามีคนของพรรคเพื่อไทยลงสมัครรับเลือกตั้ง พรรคไทยรักษาชาติจะไม่ส่งคนลงสมัคร  ร.ท. ปรีชาพลกล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าพรรคเพื่อไทย จะส่งลงเขตไหนบ้าง ขณะที่พรรคไทยรักษาชาติขณะนี้ก็มีผู้ที่มาเสนอตัวลงสมัครในเขตกทม. ครบทุกเขต ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการสรรหากำลังดำเนินการในการคัดเลือกและสรรหาผู้สมัคร อีกไม่กี่วันข้างหน้าจะได้ทราบว่าพรรคไทยรักษาชาติจะส่งผู้สมัครในเขตกทม.จำนวนกี่คน และในส่วนของผู้สมัครทั่วประเทศนั้น คาดว่าน่าจะมีเปิดตัวผู้สมัครก่อนหรือใกล้วันที่ 10ม.ค. 62

เมื่อถามถึงกรณีที่หลายพรรคการเมืองเรียกร้องให้ตรวจสอบการจัดงานระดมทุน 650 ล้านบาทของพรรคพลังประชารัฐ ร.ท. ปรีชาพล กล่าวว่า  อยากให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง เข้าไปตรวจสอบ เข้าใจว่าพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคที่ต้องการแสดงศักยภาพ ฟอร์มยักษ์ฟอร์มใหญ่พอสมควร ซึ่งก็ไม่ว่ากันในการจัดระดมทุน เพียงแต่ว่าในข้อกฎหมายผู้ที่มีคุณสมบัติที่จะบริจาคเงินในการระดมทุนขอนั้น ทางกกต. ต้องไปตรวจสอบให้ชัดเจน เพราะมีข่าวว่าใช้หน่วยงานของรัฐไปบริจาคเงินร่วมโต๊ะจีนโดยเข้าใจว่าน่าจะผิดกฏหมายอย่างชัดเจน จึงเรียกร้องไปทางกกต. ให้คืนความหวังให้กับพี่น้องประชาชนทำงานอย่างตรงไปตรงมา อย่าไปเกรงกลัวอำนาจ เพราะอำนาจที่มีอยู่ตอนนี้ อีก2 เดือนก็จะหมดแล้ว แต่ว่ากกต. จะต้องอยู่กับประชาชนไปอีกหลายปีตามอายุตามเทอม ดังนั้นท่านจึงเสมือนกับเป็นหลักที่จะต้องให้คำตอบกับสังคมว่าการดำเนินการของแต่ละพรรคการเมือง ถึงแม้ว่าจะมีผู้มีอำนาจอยู่ในพรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่งก็ตาม ต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปอย่างเสรี เป็นธรรมโปร่งใส และยุติธรรมเพื่อเป็นความหวังให้กับประเทศให้กับประชาชนคนไทย