เหลือเชื่อ! น้ำยังท่วมถ้ำหลวง ทรายปิดทางเข้าเนินนมสาว รอ 1 เดือนสำรวจใหม่


เพิ่มเพื่อน    

17 ม.ค.62 - นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายกมลไชย คชชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 พลเรือตรีอาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ กองทัพเรือ หรือหน่วยชีล ได้นำคณะเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ หน่วยชีล หน่วยกู้ภัย เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายเวิร์น อันสเวิร์ธ นักสำรวจถ้ำชาวอังกฤษ พร้อมผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวน 35 นาย เข้าไปทำการสำรวจภายในถ้ำหลวงตั้งแต่โถงแรกเข้าไปถึงโถงที่ 3 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปฏิบัติการช่วยเหลือทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีจำนวน 13 คนแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 11 ก.ค.2561 ที่ผ่านมาเนื่องจากตรวจพบระดับน้ำที่โถงแรกแห้งลงนั้น

ล่าสุดในช่วงบ่ายคณะทีมสำรวจทั้งหมดได้เดินทางกลับออกมาทางปากถ้ำแล้วโดยภาระกิจในการถ่ายภาพและบันทึกข้อมูลอุปกรณ์ที่คงค้างตามจุดต่างๆ ตั้งแต่ปากถ้ำไปจนถึงสามแยกภายในถ้ำระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ถือว่าเสร็จสิ้นด้วยดีแต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเดินหน้าสำรวจต่อจากสามแยกแล้วเลี้ยวซ้ายไปทางหาดพัทยาหรือพัทยาบีชรวมถึงเนินนมสาวซึ่งเป็นจุดที่เยาวชนทั้ง 13 เคยใช้หลบภัยน้ำท่วมภายในถ้ำได้ เนื่องจากพบว่าบริเวณช่องที่เชื่อมจากสามแยกไปทางเส้นทางซ้ายเต็มไปด้วยตะกอนทรายทำให้ยากต่อการเดินทางผ่านรวมทั้งยังมีน้ำทว่มขังเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งการจะผ่านจุดดังกล่าวไปได้ต้องใช้อุปกรณ์ดำน้ำที่มีความพร้อมเหมือนตอนที่มีปฏิบัติการช่วยเหลือเยาวชนดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่ได้สำรวจถึงบริเวณดังกล่าวแล้วจึงพากันเดินทางกลับรวมแล้วใช้เวลาปฏิบัติการประมาณ 5 ชั่วโมงโดยออกเดินทางถึงปากถ้ำเวลา 13.30 น.จากเดิมที่คาดว่าจะใช้เวลากว่า 6-8 ชั่วโมง

กระนั้นทางนายจงคล้าย นายกมลไชย และพลเรือตรีอาภากร ได้นำเจ้าหน้าที่ไปถึงบริเวณสามแยกได้จำนวน 21 นาย แต่เนื่องจากไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้และอ๊อกซิเจนภายในถ้ำเบาบางรวมทั้งมีน้ำไหลออกจากหินงอกหินย้อยตามผนังอยู่ตลอดเวลาด้วย จึงได้ทั้งหมดที่ยังเดินทางมาไม่ถึงทะยอยเดินทางกลับออกไปทางเดิม และได้สรุปผลการสำรวจพบว่าภายในมีถังอ๊อกซิเจนวางอยู่ตลอดรายทางโดยมีอยู่ที่โถงที่ 3 ประมาณ 100 กว่าถัง เปลสนาม โถงที่ 2 ประมาณ 100 กว่าถัง ในโถงทั้ง 2 แห่งยังพบเปลสนามและสายเชือกที่ใช้สำหรับเชื่อมโยงเส้นทางถึงกันไปตลอดรายทางโดยพบระหว่างโถงที่ 2-3 มากที่สุดเพราะโถงที่ 2 มีความยาวและภูมิประเทศขลุขละเต็มไปด้วยหน้าผาและซอกหินผาสูงต่ำจำนวนมาก สำหรับเปลสนามและสายเชือกดังกล่าวได้ใช้สำหรับขนลำเลียงเยาวชนทั้ง 13 คนออกมาตั้งแต่วันที่ 9-11 ก.ค.2561 เพราะเป็นเส้นทางที่ยากลำบากในการเดินทาง นอกจากนี้ในโถงทั้ง 2 แห่งยังพบเครื่องสูบน้ำขนาดต่างๆ และสำหรับโถงที่ 3 นั้นพบสายส่งอ๊อกซิเจนมากที่สุดรวมทั้งพบกระดาษฟรอยด์ที่หน่วยใช้ประโยชน์ พบอาหารพาวเวอร์เจล วิทยุสมัยสงครามโลกทั้ง 2 ที่ใช้สื่อสาร เพราะเคยเป็นสถานที่ที่เจ้าหน้าที่เคยใช้เป็นศูนย์บัญชาการภายในถ้ำด้วย

นายจงคล้าย กล่าวว่าสำหรับภาระกิจครั้งนี้ถือว่าเจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปตรวจพบวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ และได้บันทึกข้อมูลรวมทั้งถ่ายภาพเอาไว้ตั้งแต่ปากถ้ำไปจนถึงสามแยกเอาไว้แล้ว และคาดว่าหากจะเข้าไปจากสามแยกไปยังบริเวณจุดที่พบเยาวชนทั้ง 13 คนคงจะใช้ระยะเวลาอีกประมาณ 1 เดือนเพื่อให้น้ำแห้งและเตรียมอุปกรณ์กำลังพลให้มีความพร้อมต่อไป ส่วนอุปกรณ์ต่างๆ จะดำเนินการอย่างไรต่อไปนั้นคงต้องรอรายงานให้ทางอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้รับทราบเพื่อหารือและดำเนินการต่อไป

ด้านพลเรือตรีอาภากร กล่าวว่าการเข้าไปสำรวจถ้ำหลวงครั้งนี้เป็นเหมือนการำลึกถึงความหลังเมื่อครั้นปฏิบัติการเดือน มิ.ย.-ก.ค.2561 ที่ผ่านมา โดยสิ่งที่พบเห็นภายในถ้ำทำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ร่วมกันเข้าไปปฏิบัติการ เพราะมีอุปกรณ์ต่างๆ อยู่เป็นจำนวนมากซึ่งเมื่อมองย้อนหลังไปก็ยังสงสัยอยู่ว่าพวกเราขนเข้าไปได้อย่างไร อย่างไรก็ตามการเข้าไปในถ้ำครั้งนี้ถือว่าสะดวกกว่าช่วงปฏิบัติการที่มีความยากลำบากกว่ามากกระนั้นการจะเข้าไปให้เลยช่วงสามแยกเข้าไปอีกซึ่งยังคงมีเครื่องมืออุปกรณ์ที่ตกค้างอยู่ภายในคงต้องรอให้ระดับน้ำภายในลดลงกว่านี้ต่อไป

ขอบคุณภาพจากเพจประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"