ราชาเฟอร์รี่  ทุ่มซื้อเรือใหม่ และขยายท่าเรือดอนสักเพิ่ม จับมือพันธมิตรบริการรถทัวร์ลงใต้ กรุงเทพฯ-เกาะพะงัน ขยายเที่ยวเรือรอบดึกรองรับนักท่องเที่ยวเช่าเครื่องบินเหมาลำ มุ่งเป้าเชื่อมพันธมิตรอาเซียน

21ม.ค.62 - นายอภิชาติ ชโยภาส  กรรมการผู้จัดการ บริษัทท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน)หรือ RP กล่าวว่า ผลประกอบการในปี 2561 ที่ผ่านมาเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้จะเผชิญกับสภาพความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศ อีกทั้งยังมีปัญหาการลดลงของนักท่องเที่ยวจีนหลังเหตุการณ์เรือล่มที่จังหวัดภูเก็ต   แต่ผลกระทบดังกล่าวก็เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ขณะนี้ สถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวและการเดินทางสัญจรในพื้นที่ภาคใต้ ซี่งมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญหลายจุด โดยเฉพาะในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เริ่มกลับมาคึกคักมากขึ้น  ดังนั้น บริษัทจึงได้ปรับแผนการให้บริการเพื่อรองรับลูกค้าทุกกลุ่มอย่างครบวงจร

“เราเห็นทิศทางการเติบโตของลูกค้าในกลุ่มต่าง ๆ ในภาพรวมกระเตื้องขึ้น โดยเฉพาะlife style คนรุ่นใหม่ที่นิยมการใช้อินเตอร์เน็ตมากขึ้นทำให้ยอดการจองตั๋วออนไลน์เพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา บริษัทยังได้ปรับปรุงและเพิ่มเติมบริการต่าง ๆ มากมายเพื่อให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น   เช่น ซื้อเรือลำใหม่เพิ่มขึ้นอีก 1 ลำ ทำให้ตอนนี้กองเรือ RP มีทั้งหมด 15 ลำแล้ว  ปรับปรุงท่าเรือเพิ่มขึ้นอีก 2 ท่าที่ดอนสักคือท่าที่    4-5  ทำให้สามารถบริหารจัดการจราจรรถเตรียมลงเรือได้รวดเร็วขึ้น ไม่แออัดในช่วงเวลาเร่งด่วน  โครงการนี้ก็ทำต่อเนื่องหลังจากพัฒนาท่าเรือที่เกาะสมุยมาแล้ว”  นายอภิชาติ

นอกจากนี้ยังขยายบริการเที่ยวเรือรอบดึก 22.30 น.รองรับบริการนักท่องเที่ยวประเภทเช่าเครื่องบินเหมาลำ ทำให้ผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางตอนค่ำได้เดินทางเร็วขึ้น ไม่ต้องพักค้าง  อีกทั้งยังร่วมมือกับพันธมิตร เปิดบริการรถปรับอากาศเส้นทาง กทม.-เกาะพะงัน พร้อมอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารสามารถจองตั๋วและขึ้นรถได้ที่สำนักงานถนนข้าวสารหรือที่โรงแรม เวโรนิก้า ถ.รัชดา  แล้วยังมีบริการรถร่วมสาธารณะในพื้นที่เพื่อรองรับผู้โดยสารที่ขึ้นจากเรือ เดินทางไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆบนเกาะ- และในตัวเมือง        สุราษฎร์ธานี สนามบิน สถานีรถไฟ ฯลฯ เชื่อมต่อยังสนามบินนครศรีธรรมราช รวมทั้งจังหวัดท่องเที่ยว     อื่น ๆ ทางภาคใต้อย่างครบวงจร  

“RP มีความพร้อมที่จะรองรับการให้บริการผู้โดยสารได้อย่างเต็มที่ ทุกรูปแบบ ดังนั้นผมมั่นใจว่า ในปี 2562 นี้ เราน่าจะสามารถขยายตลาดและทำให้ผลประกอบการโตขึ้นกว่าเดิมได้ไม่น้อยกว่า 10 %  แล้วเราก็ยังมีแผนจะซื้อเรือเพิ่มอีก พร้อมขยายธุรกิจกับพันธมิตรให้เชื่อมต่อไปยังประเทศต่างๆที่เป็นเพื่อนบ้านชาติสมาชิกอาเซียนในอนาคต เพราะตอนนี้ โลกของการเดินทางเชื่อมต่อกันได้ง่ายดายเพียงปลายนิ้ว      ยิ่งปีนี้ ไทยเป็นประธานอาเซียน ก็มีแนวโน้มที่การสัญจรเส้นทางต่างๆ จะคึกคักมากขึ้น”