23ม.ค.62-ผอ.สาธิตจุฬาฯ แจงสาเหตุประกาศหยุดเรียน เด็กป่วยไไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้นทุกวัน สวมหน้ากากอนามัยทั้งวันทำให้เด็กอ่อนแอ หายใจไม่สะดวก ด้าน รร.รุ่งอรุณ เผยที่ต้องหยุดเรียนเพราะปัญหาฝุ่นทำให้เด็กทำกิจกรรมนอกห้องเรียนไม่ได้ ต้องอุดอู้อยู่แต่ในห้องเรียน และเด็กไม่สามารถใส่หน้ากากได้ทั้งวัน จะทำให้ปอดอ่อนแอ
 

นายทินกร บัวพูล ผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม กล่าวว่า สาเหตุหลักที่ต้องประกาศหยุดเรียน เพราะเด็กเล็กมีอาการไข้หวัดจำนวนเพิ่มมากขึ้น ส่วนปัจจัยเรื่องสถานการณ์ฝุ่นเป็นเพียงปัจจัยเสริมที่ทำให้การแพร่ระบาดหวัดเพิ่มมากขึ้น เพราะเราต้องงดกิจกรรมกลางแจ้ง และจัดกิจกรรมในห้องเรียน เมื่อเด็กอยู่รวมกันในห้องที่ปิดหน้าต่างตลอดเวลา และเปิดเครื่องปรับอากาศทั้งวัน ๆ 7-8 ชั่วโมงก็ทำให้เชื้อหวัดแพร่ระบาด ขณะเดียวกัน การให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ทำให้เด็กเล็กอ่อนแอลง เพราะปอดของเด็กยังมีขนาดเล็ก การสวมหน้ากกาทำให้ได้อากาศน้อยลง หายใจไม่สะดวก ภูมิคุ้มกันของเด็กก็อ่อนแอลง  ส่วนสถานการณ์ฝุ่นนั้น ทางโรงเรียนรอฟังประกาศจากทางกรุงเทพมหานคร หากถึงระดับสีแดง ก็ต้องหยุดเรียน 
อย่างไรก็ตาม โรงเรียนได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครอง นำเครื่องวัดสภาพอากาศมาติดตั้งในโรงเรียน เพื่อวัดค่าคุณภาพอากาศภายในบริเวณโรงเรียน ซึ่งเราจะได้เห็นค่าคุณภาพอากาศในบริเวณโรงเรียนจริงๆว่า อันตรายมากน้อยเพียงใด  ซึ่งอาจจะแตกต่างจากที่อื่น เพราะคุณภาพอากาศที่ประกาศในขณะนี้ ส่วนมากวัดจากริมถนน ซึ่งอาจแตกต่างจากในโรงเรียนก็ได้

ขณะที่นางสุนิสา ชื่นเจริญสุข ผู้อำนวยการโรงเรียนรุ่งอรุณ ได้ออกประกาศให้ผู้ปกครองทราบ เรื่องการหยุดเรียนชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 3  เนื่องจากปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล้กในกรุงเทพมหานคร ยังคงมีค่าสูงกว่ามาตรฐาน มีผลกระทบต่อสุขภาพของคนทั่วไป และครูประจำชั้นได้กำชับให้นักเรียนสวมหน้ากากอนามัยอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน แต่ในสถานการณ์จริงพบว่า การให้เด็กเล็กสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก เนื่องจาก ขนาดสรีระของเด็กไม่เหมาะกับหน้ากากอนามัย , เด็กไม่สามารถใส่หน้ากากอนามัยได้ตลอดเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ และการจำกัดกิจกรรมไว้แต่ในห้องเรียน ทำให้เด็กเกิดความเครียด ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับเด็กเล็กที่มีส่วนสูงและน้ำหนักน้อย ทำให้ขนาดของหลอดลมและความจุอากาศของปอดน้อย ทางโรงเรียนจึงขอปิดการเรียนตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 23-25 มกราคมนี้ ส่วนนักเรียนชั้นอื่นให้เรียนตามปกติ แต่ขอให้ผู้ปกครองมารับนักเรียนกลับบ้านทันทีหลังเลิกเรียน และขอให้นักเรียนทุกคนสวมใส่หน้ากากอนามัยมาจากบ้าน