
คาร์สัน เวนท์ซ (เบอร์ 11) ควอเตอร์แบ็กของ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิ้ลส์ โดน มาร์ค บาร์รอน (เบอร์ 26) ทีมรับของ ลอสแองเจลิส แรมส์ แท็คเกิ้ลอย่างหนักขณะพยายามพุ่งเข้าเอนด์โซนในควอเตอร์สาม หลังจากนั้น เวนท์ซ ต้องออกจากสนามเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่เข่า
"อินทรีมรกต" ฟิลาเดลฟีย อีเกิ้ลส์ คว้าแชมป์ดิวิชั่นเอ็นเอฟซี อีสท์ ไปครองแน่นอนแล้วหลังบุกไปชนะ ลอสแองเจลิส แรมส์ 43-35 แต่ต้องเสีย คาร์สัน เวนท์ซ ควอเตอร์แบ็กตัวเก่งเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่เข่า ในศึกอเมริกันฟุตบอลเอ็นเอฟแอล สัปดาห์ที่ 14 เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา
คาร์สัน เวนท์ซ ขว้างไป 291 หลา เป็นการขว้าง 4 ทัชดาวน์ ก่อนถูกหิ้วออกจากสนามในควอเตอร์สามเนื่องจากอาการบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม ฟิลาเดลเฟีย อีเกิ้ลส์ ยังรักษาสกอร์และบุกมาชนะ แรมส์ ถึง ลอสแองเจลิส เมมโมเรียล โคลิเซียม 43-35
แต่ที่กลบชัยชนะของ อีเกิ้ลส์ คืออาการบาดเจ็บของ คาร์สัน เวนท์ซ ซึ่งบรรดาสื่อมวลชนของสหรัฐอเมริกาต่างรายงานไปในทางเดียวกันว่า เวนท์ซ มีโอกาสปิดฤดูกาลก่อนใครเพื่อนเนื่องจากเอ็นเข่าฉีก ทว่า ดั๊ก พีเตอร์สัน เฮดโค้ชของ อินทรีมรกต ปฏิเสธ ที่จะกล่าวถึงความรุนแรงจากการบาดเจ็บของควอเตอร์แบ๊กตัวเก่ง
"พวกเราค่อยไปตรวจสอบกันอย่างละเอียดในวันพรุ่งนี้" พีเตอร์สัน กล่าว "พวกคุณอาจจะฟันธงกันไปแล้วว่าเขาปิดฤดูกาลไปแล้ว แต่สำหรับตัวผมแล้ว ทุกอย่างยังไม่แน่นอน ผมยังไม่รู้อะไรทั้งสิ้น"
ชัยชนะเกมนี้ทำให้ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิ้ลส์ ปรับสถิติเป็น 11-2 พร้อมกับคว้าแชมป์ดิวิชั่นเอ็นเอฟซี อีสท์ เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2013
ส่วน ลอสแองเจลิส แรมส์ แม้จะแพ้เกมนี้แต่ยังนำกลุ่มเอ็นเอฟซี เวสท์ ด้วยสถิติ 9-5 ดีกว่า ซีแอตเติ้ล ซีฮอว์คส์ (8-5) อยู่ 1 เกม โดยในสัปดาห์เดียวกันนี้ ซีฮฮว์คส์ บุกไปแพ้ แจ๊คสันวิลล์ จากัวร์ส 30-24
ตอนที่ เวนท์ซ ออกไปอยู่ข้างสนามนั้น แรมส์ กลับมานำ 35-31 จากทัชดาวน์ในการบุกชุดถัดมาของพวกเขา ทว่า นิค โฟลส์ ควอเตอร์แบ็กสำรองของ อีเกิลส์ ก็พาทีมกลับมาสำเร็จด้วยการบุกพาทีมไปตั้งสองฟิลด์โกล์ให้ เจ๊ค เอลเลียต เตะเข้าไป รวมถึงทัชดาวน์สุดท้ายของเกมด้วย

นิคเคลล์ โรบีย์-โคลแมน (เบอร์ 23) ตัวคุมปีกของ แอลเอ แรมส์ พุ่งเข้าแท็คเกิ้ลใส่ เจย์ อาจายี (เบอร์ 36) ตัววิ่งของ ฟิลดาเดลเฟีย อีเกิ้ลส์ ในควอเตอร์ที่สี่
ทางด้าน พิทท์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ก็คว้าแชมป์ดิวิชั่นเอเอฟซี นอร์ธ ไปครองแล้ว หลังเฝ้ารังเฉือนชนะ บัลติมอร์ เรฟเว่นส์ 39-38 จากฟิลด์โกล์ในช่วง 42 วินาทีสุดท้ายของเกมจากการเตะของ คริส บอสเวลล์
ชัยชนะเกมนี้ทำให้ สตีลเลอร์ส ปรับสถิติเป็น 11-2 และเป็นชัยชนะเกมที่แปดติดต่อกัน ทั้งที่ตอนเข้าควอเตอร์สุดท้ายนั้นตามหลัง เรฟเว่นส์ ถึง 11 แต้ม
เบน โรธลิสเบอร์เกอร์ ควอเตอร์แบ็กของ พิทท์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส เกมนี้ขว้างให้เพื่อนรับได้ถึง 44 ครั้ง มากที่สุดในอาชีพ จากความพยายามทั้งหมด 66 ครั้ง มากสุดในอาชีพเช่นกัน ก่อนจบเกมได้ไป 506 หลา พร้อมกับกลายเป็นควอเตอร์แบ๊กคนแรกในประวัติศาสตร์เอ็นเอฟแอลที่ขว้างได้ระยะ 500 หลาถึง 3 เกม

ที.เจ.วัตต์ ไลน์แบ๊คเกอร์หมายเลข 90 ของ พิทท์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส พุ่งเข้าแซ๊ค โจ แฟล๊กโก ควอเตอร์แบ็กของ บัลติมอร์ เรฟเว่นส์ จนบอลหลุดจากมือเสียฟัมเบิ้ลในควอเตอร์ที่สี่ ที่ไฮนซ์ ฟิลด์ ในพิทท์สเบิร์ก เพนซิลวาเนีย
สรุปผลเอ็นเอฟแอล สัปดาห์ที่ 14 (ทีมหลังเป็นเจ้าบ้าน)
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |