"ประยุทธ์" นำทีมลงเมืองภูไทสุดม่วนซื่นโฮแซว อ้อนแม่ยกตรึม เผยมาด้วยใจแม้มีไข้หวัดต้องฉีดยาถึง 3 เข็ม ลั่นยอมสู้ตายเพื่อให้กาฬสินธุ์นำร่องพ้นความยากจน! ทั้งยังร่วมฟ้อน-ชิมหนอนไหม ประกาศทีเล่นทีจริงถ้าให้อยู่ต่อ 10 ปีก็อยู่ได้ พร้อมขอให้รักน้อยๆ แต่รักนานๆ

เมื่อวันพุธ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ติดตามนโยบายรัฐบาลในจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยจุดแรกได้เดินทางไปยังหมู่บ้านโพน ต.โพน อ.คำม่วง ซึ่งนายกฯ ได้สวมเสื้อพื้นเมืองภูไทกาฬสินธุ์ และขึ้นรถอีแต๊กเยี่ยมชมวิถีชีวิตชาวบ้าน โดยมีชาวบ้านรอต้อนรับตลอดสองข้างทาง และตะโกนขอให้เป็นนายกฯ ต่อไปอีก 10 ปี โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้โบกมือและกล่าวทักทายว่า ท่านไม่ได้เรียกร้องให้มา แต่อยากมาด้วยใจ เพราะคิดถึง มาไม่ได้หวังอะไร แต่มานำร่องแก้ความยากจน มาทำให้ดีขึ้น

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ไปยังศูนย์วัฒนธรรมภูไท ชมการทอผ้าไหมแพรวากาฬสินธุ์ ซึ่งจุดนี้นายกฯ ได้ร่วมฟ้อนภูไทกับชาวบ้าน โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ซึ่งนายกฯ พูดติดตลกว่า ได้เจอเนื้อคู่อายุ 79 ปี ก่อนถ่ายภาพร่วมกับชาวบ้าน รวมทั้งลองชิมหนอนไหม โดยบอกว่า แซ่บหลาย

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับประชาชนตอนหนึ่งว่า วันนี้รัฐบาลมา ต้องการทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้ดีกว่าเดิม และต้องดีกว่าเดิม ต้องร่วมมือกัน ไม่ใช่รอแต่รัฐว่าจะมาเมื่อไหร่ เราต้องเข้มแข็ง รวมกลุ่มกันให้ได้ด้วย และรักสามัคคีกัน ไม่ทิ้งกัน

“วันนี้มีใครอยากได้อะไรไหม อะไรที่เป็นปัจจัยพื้นฐานผมให้ก่อน แต่วันนี้อย่าไปฟังใครว่าจะให้อะไร เพราะไม่อย่างนั้นจะต่อรองไม่ได้เลย ได้ยินฝั่งหนึ่งบอกเลือกตั้งเร็วๆ ส่วนอีกฝั่งบอกให้เป็นนายกฯ ต่อไปอีก 10 ปี ไปตกลงกันให้ได้ก่อน ที่บอกว่าให้เป็นนายกฯ ต่อไปนานๆ เดี๋ยวค่อยมาว่ากัน และอยู่ที่พวกเราจะให้อยู่ต่อหรือไม่ ถ้าให้อยู่ก็อยู่ได้” พล.อ.ประยุทธ์ประกาศ

จากนั้นเวลา 11.00 น. ที่ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมผู้ไทยผ้าไหมแพรวาเฉลิมพระเกียรติฯ พล.อ.ประยุทธ์เดินทางมาเป็นประธานในการมอบโค-กระบือ และเครื่องจักรกลการเกษตรให้กับตัวแทนชาวบ้าน พร้อมกล่าวกับชาวบ้านด้วย ซึ่งระหว่างการพูด พล.อ.ประยุทธ์มีการไอเป็นระยะ รวมทั้งมีเสียงที่แหบแห้ง จึงบอกกับชาวบ้านที่มารับฟังนโยบายว่า “ช่วงนี้เป็นหวัดนิดหน่อย แต่ต้องมาให้ได้ ก่อนเดินทางมา 3 วัน ฉีดยามา 3 เข็ม กลัวไม่ได้มาเจอกับพี่น้อง หลายคนอยากให้ผมมา ตัวเองก็อยากมา ก็เป็นแรงส่งให้มาให้ได้ ผมสู้ตายในการที่จะมาแก้ปัญหากับทุกคน”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้มาเยี่ยมเยียนถึงถิ่นเมืองภูไท มีประวัติศาสตร์วัฒนธรรมยาวนาน 222 ปี ถือเป็นโอกาสดีที่ได้มาสร้างความเข้าใจระหว่างกัน กาฬสินธุ์ถือเป็นจังหวัดนำร่องในการพัฒนาไปสู่จังหวัดที่หลุดพ้นจากความยากจน และเมื่อมีการขออนุมัติงบประมาณต่างๆ มาแล้ว ก็ให้เลยของจริง ไม่ใช่พูดเพียงปากเปล่า แต่เมื่อให้แล้วก็ต้องทำให้เสร็จด้วย ตั้งแต่เรื่องของอุโมงค์ผันน้ำลำพะยังภูมิพัฒน์ 305 ล้านบาท การอนุมัติงบก่อสร้างเส้นทางคมนาคม 4 ช่องการจราจร 3 โครงการ งบประมาณ 1,400 ล้านบาท นอกจากนี้ยังอนุมัติงบประมาณจัดซื้อเครื่องสาวไหม 5 เครื่อง เครื่องละ 5 ล้านบาท นอกจากนี้ยังอนุมัติงบประมาณในการปรับปรุงต่อเติมศูนย์การเรียนรู้ รวมทั้งการสานต่อการก่อสร้างเส้นทางสายไหมในประเทศไทยเพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงกับต่างประเทศ เพื่อให้เกิดลู่ทางการลงทุน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า เราต้องขับเคลื่อนประเทศด้วยชุมชนหมู่บ้าน โดยตัวแทนของเราเอง เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพราะเราเป็นคนเลือกเขาเข้ามาเอง และการเลือกตัวแทนหมู่บ้านนั้น ก็ไม่ได้ไปเลือกด้วย เมื่อท่านเป็นผู้เลือกก็ต้องเลือกให้ดี ต้องมองคนเข้ามาด้วยปัญญา ว่าจะแก้ไขปัญหาให้เราได้หรือไม่ ซึ่งต้องเลือกคนที่บริหารจัดการเป็น ส่วนคนที่ดีอยู่แล้วก็ไม่ว่ากัน แต่ถ้ามีการเลือกตั้งใหม่ ขอให้เลือกให้ดี

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ถามประชาชนว่า ในการเลือกตั้งจะเลือกใคร โดยได้รับคำตอบว่า จะเลือก พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ จึงตอบกลับไปว่า “จะไปเลือกผมได้ยังไง ก็ผมลงเลือกตั้งไม่ได้ แต่วันหน้าเลือกให้ดีก็แล้วกัน ต้องคนที่พูดแบบนี้ ที่แก้ไขปัญหาได้แบบผม จะมีใครพูดอย่างผมหรือไม่ก็ไม่แน่ใจ แต่คนเก่งก็มีเยอะแยะไป ไม่ใช่มีแค่ผมคนเดียว”

นายกฯ ยังกล่าวย้ำว่า ไม่เคยไปปิดกั้นใครทั้งสิ้น ใครจะว่าก็ว่า ด่าก็ด่า ใครจะเขียนถึงยังไงก็รับ ไปปิดกั้นท่านตรงไหน ใครเดือดร้อนบ้าง ที่นั่งตรงนี้มีใครเดือดร้อนไหม แต่เมื่อพูดออกไป ต่างชาติก็ไม่เข้าใจ หาว่าเผด็จการ มันไม่ใช่ เพราะถ้าใครฝืนกฎหมาย ก็ไม่ยอม หน้าที่คือให้ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายที่เท่าเทียม ใครจะวิจารณ์ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ขอความเป็นธรรมให้ได้ชี้แจงบ้าง

ทั้งนี้ นายกฯ ยังได้ถามประชาชนอีกว่า ที่พูดมานั้นมีใครไม่เชื่อบ้าง มีใครคิดว่ามาโกหกด้วยการวาดอนาคตแบบหลอกๆ หรือไม่ การมาครั้งนี้ไม่ใช่หาเสียง แต่ถ้าพรรคการเมืองจะหาเสียงก็ขอให้พูดแบบนี้ และถ้าเกิดพรรคการเมืองหาเสียง ก็ขอให้ประชาชนช่วยฟังด้วยว่าเขาจะแก้ไขปัญหาอย่างไร ถ้าบอกว่าจะทำให้ราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้น แต่บิดเบือนราคาตลาด ถือว่าผิดและผิดกติกาโลกด้วย

“ขอให้ทุกคน ทั้งข้าราชการทุกกระทรวง ต้องฟังผมในรายการศาสตร์พระราชาฯ เพราะถ้าไม่ฟัง จะปฏิบัติไม่ตรง แล้วจะกลายเป็นว่าผมไปสัญญากับประชาชนแล้วกลับไม่ทำ ดีแต่พูด ซึ่งผมดีแต่ทำ แต่ก็พูดด้วย เรียกว่าพูดแล้วทำ” นายกฯ กล่าว

ภายหลังนายกฯ รับประทานอาหารมื้อกลางวัน นายกฯ มีอาการไอกำเริบ จึงได้เรียกพยาบาลที่ติดตามในคณะทำการตรวจเช็กอาการและตรวจความดัน ก่อนให้คนติดตามนำยาที่ติดมาในรถมารับประทาน

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ได้ขอบคุณสื่อมวลชนที่แสดงความห่วงใยอาการป่วย โดยระบุว่า ไม่เป็นอะไร เมื่อกี้ให้หมอฉีดยาอีกเข็ม และทานยาหลังทานข้าว ไม่เป็นไร นิดหน่อย ขอบคุณที่เป็นห่วง ยังแข็งแรงดี พร้อมทำท่าเบ่งกล้ามโชว์ ก่อนนำคณะเดินสำรวจอุโมงค์ผันน้ำลำพะยังภูมิพัฒน์ โดยนายกฯ กล่าวว่า อยากเห็นทุกคนมีความสุข แต่ก็เป็นสิ่งที่กดดัน เพราะท่านดีกับทุกคน ใครมาท่านก็ยิ้ม ขอให้ยิ้มให้จริงใจ ยิ้มให้กว้างๆ จะได้มีกำลังใจทำให้ท่าน

“ผมจะทำให้ท่านลืมตาอ้าปากให้ได้ สามปีที่ผ่านมาปลดปัญหาไปเยอะแยะ ภายนอกประเทศก็กดดันลดลง ซึ่งเราต้องเข้มแข็งจากภายในด้วย” นายกฯ กล่าวก่อนสอบถามชาวบ้านว่า “เชื่อใจผมหรือไม่” ซึ่งประชาชนก็ตอบนายกฯ ทันทีว่า ”เชื่อใจ” นายกฯ จึงกล่าวตอบว่า ”เชื่อจริงๆ นะ อย่าหลอกนะ รักน้อยๆ รักนานๆ รักมากเดี๋ยวหายหมด” จากนั้นนายกฯ ได้ปล่อยพันธุ์ปลาและปลูกต้นพะยอม

จากนั้น นายกฯ เดินทางมายังอาคารอำนวยการ วิทยาลัยเทคนิคเขาวง ต.กุดสิมคุ้มใหม่ อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ เพื่อเป็นประธานการประชุมสรุปยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยได้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเรื่องที่ดิน เพราะ จ.กาฬสินธุ์ ถูกจัดเป็นจังหวัดยากจนในอันดับที่ 73 ของประเทศ.