4มี.ค.62-ตามที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ได้ออก ว 20/2561 เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเลื่อนเงินเดือน ซึ่งจะใช้ในการประเมินเลื่อนเงินเดือนตั้งแต่ รอบเดือนตุลาคม2561-มีนาคม 2562 พบว่าข้าราชการครูส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบเนื่องจากหลักเกณฑ์ดังกล่าวประเมินถึง 3 ด้าน 13 แฟ้มนั้น

นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า เรื่องนี้ที่ประชุม ก.ค.ศ.ได้มีมติเห็นชอบกำหนดหลักเกณฑ์ดังกล่าวไปเมื่อเดือนกันยายน 2561 และเมื่อนำไปสู่การปฏิบัติก็ทำให้พบว่ามีปัญหามาก เนื่องจากต้องมีการกรอกเอกสาร และมีการกำหนดตัวชี้วัดจำนวนมาก ก็ทำให้ครูเดือดร้อน ซึ่งตนคิดว่าน่าจะมีวิธีการประเมินในรูปแบบอื่นที่สามารถนำมาใช้ในการพิจารณาขึ้นเงินเดือนได้ อีกทั้งตนยังได้รับรายงานว่าเริ่มมีการรับจ้างเพื่อทำผลงานตามการประเมินตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวแล้วด้วย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนได้สั่งการให้ ก.ค.ศ.ยกเลิกมติดังกล่าวแล้ว ส่วนจะดำเนินการต่อไปอย่างไรนั้นตนคิดว่าคงต้องกลับไปดูวิธีที่ผ่านมา ว่าทำอย่างไร อย่าไปคิดแต่ว่าจะใช้ตัวชี้วัดเพียงอย่างเดียว การที่จะทำอะไรต้องคำนึงถึงผู้ปฏิบัติด้วย ดังนั้นตนจึงมองว่าการประเมินที่ดีต้องง่าย เพราะหากเราให้เขาใส่ข้อมูลมาบางครั้งอาจจะไม่ใช่ข้อมูลที่ถูกต้อง ตนต้องการให้ทุกคนเข้าใจตรงนี้ เราควรจะใช้ความเป็นธรรม และดูที่ผลงานของแต่ละบุคคล

“ปัญหาดังกล่าวมาจากคนที่คิดหลักเกณฑ์ไม่ได้ลงพื้นที่สำรวจความต้องการของครูและสภาพความเป็นจริงนั่งคิดกันอยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยม ซึ่งหากดีจริงผมก็จะลองเอาวิธีการประเมินนี้มาใช้ประเมินกับผู้บริหาร ก.ค.ศ. ปลัด ศธ.และ เลขาฯ ทุกแท่งบ้างว่าจะมีความยุ่งยากมากน้อยแค่ไหน ขณะเดียวกันผมก็ได้สอบถามเรื่องนี้กับผู้บริหารก.ค.ศ.และ สพฐ.ต่างฝ่ายต่างก็โยนกันไปมา แต่ขอให้รอดูเพราะผมจะจัดการทุกสิ่งทุกอย่างที่วุ่นวายอยู่ในตอนนี้โดยเร็วที่สุด”รมว.ศธ. กล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อตอนที่ประชุม ก.ค.ศ.มีมติดังกล่าวออกมาถือเป็นการสอดไส้ให้ คณะกรรมการก.ค.ศ. เห็นชอบหรือไม่ นพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนคิดว่าไม่ใช่เรื่องการยัดไส้ เพราะในวันที่มีการพิจารณาเรื่องนี้หรือแม้แต่หลายๆ เรื่องที่นำเข้าพิจารณาไม่ได้มีการลงลึกในรายละเอียด ดังนั้นตนจึงไม่ทราบว่าหลักเกณฑ์ที่ออกมาจะเป็นอย่างไรและกระทบกับกลุ่มครูมากน้อยแค่ไหน