11 มี.ค. 2562 แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากอัตราภาษีบุหรี่ใหม่ที่เริ่มใช้มาตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 2560 โดยเก็บตามปริมาณ 1.20 บาท/มวน และตามราคา 20% สำหรับบุหรี่ที่ราคาไม่เกินซองละ 60 บาท และ 40% สำหรับบุหรี่ที่ราคาเกินซองละ 60 บาท ทำให้การบริโภคบุหรี่ที่เสียภาษีถูกต้องลดลง โดยเห็นได้ชัดจากการเก็บภาษีองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่เก็บจากภาษีบุหรี่ในปีงบประมาณ 2561 ที่ผ่านมาลดทุกไตรมาส

สำหรับทั้งปีงบประมาณ 2561 อบจ. เก็บภาษีบุหรี่ได้ 2,479 ล้าานบาท ลดลงจากปีงบประมาณ 2560 จำนวน 651 ล้านบาท หรือ ลดลง 21% เนื่องจากอัตราภาษีบุหรี่ใหม่ทำให้ราคาบุหรี่ที่ถูกที่สุดมีราคาเพิ่มขึ้นถึง 50% ทำให้คนหันไปสูบบุหรี่หนีภาษี และยาเส้นที่เส้นภาษีต่ำและราคาถูกกว่าบุหรี่เป็นจำนวนมาก

"การเก็บภาษีบุหรี่ อบจ. วัดการเก็บรายได้ภาษีบุหรี่ที่ลดลงได้ดี เพราะเก็บอยู่ที่ 1.86 บาท/ซอง หากรัฐบาลไม่มีการเลื่อนการขึ้นภาษีบุหรี่ 40% ในวันที่ 1 ต.ค. 2562 นี้ออกไป จะทำให้รายได้ภาษีของ อบจ. หายไปกว่าพันล้านบาท กระทบให้รัฐบาลกลางต้องให้เงินสนุบสนุนเพิ่ม" แหล่งข่าว กล่าว

ที่ผ่านมา น.ส.ดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ ผู้อำนวยการ การยาสูบแห่งแห่งประเทศไทย (ยสท.) ได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเลื่อนการขึ้นภาษีบุหรี่ 40% ออกไปก่อน เพราะจะกระทบฐานะการดำเนินงาน ยสท. อย่างมาก จากการปรับขึ้นครั้งแรกทำให้ส่วนแบ่งตลาดบุหรี่ของ ยสท. จาก 80% เหลือ 60% และหากมีการขึ้นภาษีตามกำหนดจะทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของ ยสท. เหลือ 40% ส่งผลให้การดำเนินงานขาดทุนในที่สุด

ขณะที่ในสัปดาห์นี้ตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบจะเดินทางเข้ากรุงเทพ เพื่อติดตามความคืบหน้าจากหน่วยงานรัฐบาล และพรรคการเมือง เรื่องการขอให้เลื่อนการขึ้นภาษีบุหรี่ ซึ่งที่ผ่านมากระทบ ยสท. ลดการซื้อใบยาสูบเหลือ 50% หากขึ้นภาษีอีกคาดว่า ยสท. จะไม่รับซื้อใบยาสูบจากชาวไร่ จะได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ส่วนให้เงินชดเชยเกษตกรจำนวนกว่า 100 ล้านบาท คาดว่าจะจ่ายให้เกษตรกรไม่ทันภายในวันที่ 4 เม.ย. 2562 ตามที่มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) กำหนดไว้
ด้านนายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า การเลื่อนขึ้นภาษีบุหรี่ขึ้นอยู่กับฝ่ายนโยบาย ซึ่งจะมีการดำเนินการไปพร้อมกับขึ้นภาษียาเส้นให้มีอัตราที่สูงขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดการบืดเบือนของผู้บริโภคที่เลิกสูบบุหรี่มาสูบยาเส้นที่มีอันตรายมากกว่า

ก่อนหน้านี้ นายยุทธนา หยิมการุณ รองปลัดกระทรวงการคลัง กรรมการ ยสท. ในฐานะประธานอนุกรรมการกำกับดูแลบริหารการป้องกันและปราบปรามบุหรี่ผิดกฎหมาย (กปบ.) ได้เดินทางลงภาคใต้ที่เป็นแหล่งขายบุหรี่หนีภาษีจำนวนมาก โดยประชุม เจ้าหน้าที่หน่วยงานในพื้นที่ ได้แก่ กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร ตำรวจ ทหาร องค์การบริหารส่วนจังหวัด และผู้ประกอบการร้านขายส่งยาสูบในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อให้ป้องกันและปราบปรามบุหรี่ผิดกฎหมายในพื้นที่แพร่ระบาดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น