สำนักงบฯเติมเงิน 3 หมื่นล้านอัดฉีดบัตรคนจน


เพิ่มเพื่อน    

 

11 มี.ค 2562  น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยระหว่างเดินทางไปปฏิบัติราชการที่ประเทศกัมพูชาว่า ภายในเดือนมี.ค.นี้ สำนักงบประมาณจะจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมอีกกว่า 3 หมื่นล้านบาท เข้าในกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม เพื่อนำไปใช้ในโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพิ่ม หลังจากเงินในกองทุนฯ ที่มีอยู่ในปัจจุบันจะใช้หมดภายในเดือนนี้ และเมื่อเติมเงินแล้ว กองทุนฯจะมีงบใช้ได้จน ถึงสิ้นปีงบประมาณ 2562 หรือเดือนก.ย.2562 และมีเงินเพียงพอดูแลผู้ถือบัตรทั้ง 14.5 ล้านคน

ทั้งนี้สาเหตุที่สำนักงบฯ ต้องจัดสรรงบเพิ่มเนื่องจาก ที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการจัดทำโครงการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพิ่มเติมหลายโครงการ จนทำให้งบประมาณที่ได้รับจัดสรรจากงบประจำปีไม่เพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นโครงการให้เงินสวัสดิการช่วงปีใหม่คนละ 500 บาท การช่วยเหลือค่าเดินทางไปรักษาพยาบาลแก่ผู้สูงอายุคนละ 1 พันบาท การช่วยเหลือค่าเช่าบ้านแก่ผู้สูงอายุคนละ 400 บาท การช่วยเหลือค่าน้ำค่าไฟฟ้า รวมถึงยังมีการขยายโครงการบัตรสวัสดิการ ภายใต้ไทยนิยมยั่งยืนให้กับประชาชนอีก 3.1 ล้านราย และการขยายมาตรการพัฒนาคุณภาพแก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการระยะสองอีก 6 เดือนถึงสิ้นเดือนมิ.ย.นี้

“เรื่องนี้ ไม่ได้เป็นปัญหา เพราะภาครัฐมีการคาดการณ์ไว้แล้ว และที่ผ่านมาได้มีการจัดทำกฎหมาย พ.ร.บ.การจัดประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมพ.ศ.2562  เพื่อรองรับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม โดยผ่านการพิจารณาสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อปลายปีก่อน และขณะนี้ได้รับพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้มีผลบังคับใช้ ทำให้สำนักงบประมาณสามารถ จัดสรรนำงบประมาณที่เหลือค้างจ่ายจากส่วนต่างๆ มาจัดสรรใส่ในกองทุนฯ แทน” น.ส.สุทธิรัตน์ กล่าว

น.ส.สุทธิรัตน์ กล่าวอีกว่า การจัดสรรงบฯ ครั้งนี้ส่งผลให้ตั้งแต่เริ่มโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และมีการตั้งกองทุนประชารัฐฯ ตลอดเวลา 2 ปี กระทรวงการคลังได้ใช้เงินไปแล้วกว่า 1 แสนล้านบาท ในการ ช่วยเหลือผู้มรายได้น้อยให้มีรายได้ มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น 14.5 ล้านคน และในจำนวนนี้ก็มีหลายล้านคนที่พ้นเส้นความยากจน นอกจากนี้ในปีงบประมาณหน้า กรมฯ ยังได้เสนอขอจัดทำงบประมาณปี 2563 วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับการช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในอนาคตอีกด้วย

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า สำหรับการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ เพิ่งประกาศในราชกิจจานุกเบกษาเมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการจัดสวัสดิการให้แก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อยเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม กระจายรายได้อย่างเป็นธรรมตลอดจนยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน โดยมีการดำเนินการร่วมกันระหว่างภาครัฐภาคเอกชน และประชาชน ซึ่งจะมีผลทำให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยมีปัจจัยที่เพียงพอและสามารถ ดำรงชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ รวมทั้งมีความ เป็นอยู่ที่ดีขึ้น ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการจัดสวัสดิการเป็นไป ตามวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"