ภาพดาวเทียมชี้เกาหลีเหนือ กลับไปเสริมสถานีขีปนาวุธ


เพิ่มเพื่อน    

      พอโดนัลด์ ทรัมป์ กับคิม จองอึน ลาจากกันที่ฮานอยเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ข่าวคราวจากเปียงยางและวอชิงตันก็ดูเหมือนจะเริ่มหันกลับไปสู่การเผชิญหน้าระหว่างสองประเทศนี้อีกครั้งหนึ่ง

      รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศโสมแดง โช ซุนฮุย ประกาศว่าเกาหลีเหนือกำลังพิจารณาจะ "ระงับการเจรจานิวเคลียร์" กับอเมริกา

      และขู่ด้วยว่าอาจจะกลับไปทดลองขีปนาวุธอีกครั้งหนึ่งหากสหรัฐฯ ยังทำตัวเหมือน "นักเลงโต" ที่ไม่มีความจริงใจในการแสวงหาสันติภาพอย่างแท้จริง

      มีภาพและข่าวบอกว่าเกาหลีเหนือกลับไปฟื้นฟูสถานีทดลองขีปนาวุธที่โซแฮ และสื่อทางการเกาหลีเหนือก็เริ่มจะมีน้ำเสียงแข็งกร้าวขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

      แม้ทรัมป์จะปากแข็งบอกว่าเขากับคิมยังรักใคร่กันดี แต่นักวิเคราะห์หลายสำนักก็สรุปตรงกันว่า การประชุมสุดยอดครั้งที่ 3 ระหว่างสองคนนี้จะยังไม่เกิดขึ้นในเร็ววันนี้

      เพราะการเจรจาระดับปฏิบัติการของทั้งสองฝ่ายจะต้องเจอกับการต่อรองที่เข้มข้นกว่าที่แล้วๆ มา  กว่าที่จะเจอกันรอบสามได้ ทั้งทรัมป์และคิมต้องแน่ใจว่าจะมีร่างข้อตกลงว่าด้วยเงื่อนไขในรายละเอียดที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับได้เสียก่อน หาไม่แล้วก็อย่าได้หวังว่าจะมีการเจอกันอีกรอบหนึ่งแน่นอน

      ข่าวจากวอชิงตันก็แข็งกร้าวขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดหลังจากความล้มเหลวที่ฮานอย

      นายสตีฟ บีกุน ทูตพิเศษของสหรัฐฯ ด้านกิจการเกาหลีเหนือ ไม่ลังเลที่จะประกาศในที่ประชุมว่าด้วยนโยบายนิวเคลียร์ที่กรุงวอชิงตันเมื่อสัปดาห์ก่อน ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะไม่ยอมรับเรื่องการลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือในลักษณะ "อย่างค่อยเป็นค่อยไป"

      แปลว่าอเมริกาต้องการให้เกาหลีเหนือยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ทั้งหมดพร้อมกัน ขณะที่คิม จองอึนได้บอกกับทรัมป์ว่าเขาต้องการให้ทำทีละก้าว

      อเมริกายกเลิกการคว่ำบาตรเศรษฐกิจต่อเกาหลีเหนือหนึ่งก้าว เปียงยางก็จะถอยเรื่องนิวเคลียร์หนึ่งก้าว

      แต่หากฟังเสียงจากวอชิงตันก็จะจับความได้ว่า เงื่อนไขหลักของสหรัฐฯ คือจะไม่มีการยกเลิกมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อเกาหลีเหนือตราบที่ยังไม่มีการ "ยอมจำนนโดยสิ้นเชิง"

      เจ้าหน้าที่ชั้นสูงมะกันยืนยันว่าทรัมป์ได้แสดงท่าทีต่อเรื่องนี้อย่างชัดเจน และคนในรัฐบาลสหรัฐฯ  เห็นพ้องต้องกันอย่างมีเอกภาพ เสียงไม่แตกอย่างที่เป็นข่าวลือ

      เมื่อตัวแทนพิเศษของรัฐบาลสหรัฐฯ ด้านเกาหลีเหนือออกมาประกาศอย่างเป็นทางการเช่นนี้ ก็ต้องถือเป็นการส่งสัญญาณล่าสุดว่าวอชิงตันกำลังปรับท่าทีและจุดยืนให้แข็งกร้าวมากขึ้นหลังการประชุมที่ฮานอยจบลงด้วย No deal

      แต่น่าสังเกตว่าก่อนการประชุมฮานอย คนในรัฐบาลสหรัฐฯ ได้เคยแสดงท่าทีว่าอาจเปิดรับเรื่องการลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนืออย่างค่อยเป็นค่อยไป

      นั่นแปลว่าเปียงยางควรจะทำลายอาวุธนิวเคลียร์อย่างมีขั้นตอน และอเมริกาก็จะค่อยๆ ผ่อนคลายมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจเป็นการตอบสนองท่าทีเช่นนั้น

      แต่นายสตีฟ บีกุน ย้ำว่าไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว

      แกยืนยันว่าสหรัฐฯ จะไม่ยกเลิกมาตรการลงโทษใดๆ จนกว่ากระบวนการลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือจะเสร็จสมบูรณ์

      หลักฐานที่ปรากฏต่อชาวโลกหลังการประชุมที่ฮานอย คือภาพถ่ายดาวเทียมที่ชี้ชัดว่าเกาหลีเหนืออาจกำลังสร้างสถานีส่งดาวเทียม อีกทั้งยังมีกิจกรรมก่อสร้างเพิ่มขึ้นในบริเวณที่เคยเป็นฐานประกอบและยิงจรวดขีปนาวุธอีกด้วย

      แต่ทูตพิเศษว่าด้วยกิจการเกาหลีเหนือคนนี้บอกว่ายังต้องตรวจสอบความถูกต้องแม่นยำของข่าวกรองเรื่องนี้

      ไม่ต้องสงสัยว่าอเมริกาสงสัยมาตลอดว่าสิ่งที่เรียกว่า "กิจกรรมการส่งดาวเทียม" ของเกาหลีเหนือนั้น แท้จริงแล้วก็คือการทดสอบเพื่อปิดบังอำพรางเทคโนโลยีการยิงจรวดขีปนาวุธนั่นเอง

      นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่า เกาหลีเหนือกำลังใช้เรื่องการทดสอบจรวดหรือการส่งดาวเทียมครั้งใหม่เพื่อส่งสัญญาณถึงทรัมป์ว่า เกาหลีเหนือพร้อมจะกลับไปสร้างแสนยานุภาพทางอาวุธร้ายแรงอีกแน่นอนหากวอชิงตันไม่แสดงความพร้อมที่จะผ่อนคลายมาตรการลงโทษ

      อะไรๆ เริ่มจะกลับไปสู่ความผันผวนตรงคาบสมุทรเกาหลีอีกรอบแล้ว!


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"