บิ๊กตู่หน้าบ้านกองเชียร์เบิร์ธเดย์


เพิ่มเพื่อน    


    “ประยุทธ์” ชีพจรลงเท้า ช่วงเช้าไปสวนลุมฯ ก่อนไปจบที่แปดริ้ว อารมณ์ขึ้นหลังถูกบี้ถาม 24 มี.ค.แพ้จะทำอย่างไร เสียงเชียร์ร้องแฮปปี้เบิร์ธเดย์กระหึ่ม “นายกฯ” วอนอย่ารังเกียจทหาร-ตำรวจ ถอดเสื้อก็คนไทย ลั่นยอมตายเพื่อปกป้อง 3 สถาบันหลัก พร้อมเป็นสะพานพาทุกคนก้าวไปด้วยกัน
    เมื่อวันพุธ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ  (คสช.) ได้ปฏิบัติราชการลงพื้นที่ตั้งแต่เวลา 06.30 น. โดยคณะ พล.อ.ประยุทธ์ได้ลงพื้นที่ภายในสวนลุมพินี และตรวจติดตามผลการปรับปรุงภูมิทัศน์ ก่อนปลูกต้นรวงผึ้งร่วมกับกลุ่มภาคีเครือข่ายพื้นที่สีเขียว    
    ทั้งนี้ ตลอดเส้นทางการเดินได้มีชาวบ้านขอเซลฟี และตะโกนอวยพรขอให้นายกฯ โชคดี เป็นนายกฯ อีกสมัย โดยระหว่างนายกฯ จะเดินไปขึ้นรถเพื่อไปยังอีกจุดหนึ่ง ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประยุทธ์พร้อมขึ้นเวทีปราศรัยของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในวันที่ 22 มี.ค.นี้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ยังไม่รู้เลย 
    และเมื่อถามว่า มีความพร้อมมากน้อยแค่ไหนในวันที่ 24 มี.ค.นี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ผมก็พร้อม แล้ว ก็พร้อมพาครอบครัวของผมไปเลือกตั้ง” ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์จะย้อนถามว่า “แล้วต้องพร้อมอะไรกันนักหนา ถามอะไร และผมต้องเตรียมตัวอะไร เพราะทำงานมาตลอด 5 ปี ไม่ต้องเตรียมอะไรแล้ว”
    ถามอีกว่า แสดงว่า พล.อ.ประยุทธ์ต้องการอยู่ต่ออีก 5 ปีใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียวว่า “ผมไม่ได้ต้องการทั้งหมด อยู่ที่ประชาชนจะเลือก” เมื่อถามย้ำว่า แล้วคิดว่าประชาชนจะเลือกกลับมาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์หันกลับมามองด้วยสีหน้าโกรธพร้อมกล่าวว่า "ผมไม่คิด เป็นเรื่องของประชาชนเขาคิดกันเอาเอง" 
    ซักว่ามีความมั่นใจแค่ไหนว่าจะชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวย้อนถามว่า “ถามกันแบบนี้จะเอาอะไร”
    และเมื่อถามว่า ถ้าท่านแพ้ท่านจะทำอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ได้หันมาหาผู้สื่อข่าวที่ตั้งคำถามด้วยสีหน้าขุ่นเคืองพร้อมถามเสียงดังว่า “ไหนใครเป็นคนถาม ถามแบบนี้ตลอดทางเลย คำถามแบบนี้ก็อยู่กับการเมืองของพวกเธอไป”
    เมื่อถามอีกว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้จะถือเป็นของขวัญวันคล้ายวันเกิดอายุ 65 ปีหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ก้าวขึ้นไปบนรถยนต์ส่วนตัวพร้อมกล่าวด้วยอารมณ์โมโหว่า "คุณไปถามว่าบ้านเมืองมันจะได้อะไรขึ้นมาบ้างดีกว่า อย่ามาถามผมว่าจะได้อะไรจากการเลือกตั้ง ถามว่าประชาชนเขาจะมีความสุขหรือไม่ดีกว่า”
    จากนั้น เวลา 08.05 น. นายกฯ และคณะเดินทางมายังสวนป่าเบญจกิติ เพื่อตรวจเยี่ยมพื้นที่การยาสูบแห่งประเทศไทย บริเวณที่จะสร้างสวนป่าเบญจกิติ ระยะที่ 2 และ 3 พร้อมปะกับผู้บริหารและเจ้าหน้าที่การยาสูบฯ รวมถึงประชาชนที่มารอต้อนรับ ซึ่งได้มอบดอกกุหลาบพร้อมทั้งอวยพรเนื่องในวันคล้ายวันเกิดวันที่ 21 มี.ค. ในวัย 65 ปีให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งนายกฯ ได้ร่วมร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ทูยูอย่างอารมณ์ดี พร้อมกล่าวว่า “ถ้ารู้ว่ามีคนรักเรามากขนาดนี้ก็คงมีกำลังใจมากขึ้นอีกเยอะ ความจริงไม่ต้องให้อะไรก็ได้ ใจถึงใจอยู่แล้ว
    พล.อ.ประยุทธ์ย้ำตอนหนึ่งว่า บ้านเมืองเปลี่ยนมา 5 ปีแล้ว แล้วจะให้สลายไปหรือ เสียดายแทนพวกเราทุกคน ตรงนี้ไม่ได้พูดถึงการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น แต่สิ่งต่างๆ เหล่านี้ต้องดำรง สืบสาน ต่อยอดต่อไป ทั้งนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงสั่งสอนมาตลอดว่าทหาร ตำรวจ ข้าราชการ ต้องเสียสละเพื่อประเทศชาติ ไม่ว่าจะรัฐบาลใดก็ตาม จะมีอำนาจอย่างเดียวคืออำนาจทางกฎหมาย แต่ถ้าใช้กฎหมายมาก ความขัดแย้งจะสูง ดังนั้น ทุกคนต้องเคารพซึ่งกันและกัน อย่าให้ใครสร้างความเกลียดชังระหว่างประชาชนกับตำรวจ ทหาร ใครสร้างถือว่าทำลายประเทศ ประเทศไทยมี 3 อย่างคือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
    “วันนี้อย่ารังเกียจกันเลย ทหารตำรวจถอดเสื้อออกมาก็คนไทยเหมือนกัน เลือกตั้งก็ต้องไปใช้สิทธิ หลายคนบอกประชาธิปไตยไม่ใช่การเลือกตั้งอย่างเดียว ต้องสำคัญว่าผลการเลือกตั้งออกมาเป็นอย่างไร ให้ได้คนที่จริงใจ จริงจัง ผมไม่ได้รังเกียจใครทั้งสิ้น ใครอยากเป็นอะไรก็เป็น ผมเห็นอยากเป็นกันจัง ขอความรักความสามัคคีคืนมาให้กับประเทศไทยได้ เราต้องเป็นประชาธิปไตยที่ไม่มีความขัดแย้งอีกต่อไป”นายกฯ กล่าว
    ต่อมาคณะ พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินทางมายังสถานีกลางบางซื่อ เพื่อติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต สีแดง ชานชาลารถไฟความเร็วสูง และรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน 
    เวลา 12.00 น. คณะ พล.อ.ประยุทธ์ไปยังจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อตรวจติดตามความคืบหน้าและการสร้างศูนย์ทดสอบยานยนต์และล้อยางแห่งชาติ พร้อมกล่าวกับผู้ประกอบการว่า วันนี้ได้รับคำเตือนว่าให้พูดเพราะๆ ซึ่งก็จะพยายามพูดให้เพราะมากที่สุด ยืนยันว่ามาครั้งนี้เพื่อตรวจราชการ หลังจากที่ได้เดินทางไปแล้วหลายพื้นที่ ขออย่าให้ใครมาทำให้เกิดความแตกแยกอีก เพราะวันนี้ในโซเชียลมีเดียมีทั้งรักทั้งชัง ทั้งชอบและเกลียดนายกฯ บ้างด่านายกฯ แต่หลายสิ่งสามารถทำได้ในรัฐบาลนี้ ในอนาคตอยากให้ใครทำต่อก็สุดแล้วแต่ท่าน
    “ผมยินดีจะเป็นสะพานให้ทุกคนก้าวข้ามไปข้างหน้า ซึ่งผมไม่ได้ต้องการเป็นใหญ่เป็นโตอะไร และไม่ต้องการพูดให้เกิดความขัดแย้ง เชื่อว่าทุกคนและชาวต่างชาติคงจะเข้าใจ สำหรับประเทศไทย ขอให้มีความสงบสุขคืนกลับมา เพราะวันนี้เราต้องการให้ทุกคนมีความสุข มีรอยยิ้ม แต่อนาคตก็สุดแล้วแต่ว่าประชาชนจะพิจารณา” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
    จากนั้นนายกฯ ชมการทดสอบสมรรถนะของยานยนต์ โดยก่อนขึ้นรถเพื่อไปยังวัดโสธรวรารามวรวิหายังได้หันมาบอกสื่อมวลชนด้วยว่า ให้ถ่ายภาพรวม  อย่าถ่ายแต่หน้าตนเอง เพราะเปิดทีวีเห็นแต่หน้าตนเองก็เบื่อเหมือนกัน
    เมื่อเวลา 15.00 น. ที่พระอุโบสถวัดโสธรวราราม วรวิหาร พล.อ.ประยุทธ์เข้ากราบนมัสการพระธรรมมังคลาจารย์ (วิ.) เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร โดยเจ้าอาวาสมอบพระพุทธรูปหลวงพ่อพุทธโสธรจำลองหน้าตักกว้าง 7 นิ้วให้เป็นของขวัญวันคล้ายเกิดแก่ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมอำนวยพรให้โชคดีมีสุขภาพที่แข็งแรง
    จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์เดินทางต่อมาที่โรงเรียนวัดโสธรวรารามวรวิหาร เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามโครงการรัฐบาล มีประชาชนรอให้การต้อนรับจำนวนมาก และมีเด็กนักเรียนแต่งชุดไทยให้กำลังใจว่า “ลุงตู่สู้ๆ ลุงตู่สู้ตาย ลุงตู่ไว้ลาย ลูกผู้ชายสู้ๆ” โดยนายกฯ กล่าวตอบกลับว่า “แค่คำว่าสู้ครั้งแรก ลุงตู่ก็สู้ตายแล้ว สู้เพื่อพวกเราทุกคน สู้เพื่ออนาคต” โดยระหว่างนั้นเปิดเพลง “คนดีไม่มีวันตาย” พล.อ.ประยุทธ์จึงร้องเพลงดังกล่าวคลอ รวมทั้งได้ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ร่วมกับประชาชนที่มาให้การต้อนรับด้วย
    "เมื่อกี้ได้ไปกราบหลวงพ่อโสธร ขอส่วนรวมให้คนไทยประเทศไทยมีความสุขต่อไปในอนาคต บ้านเมืองเป็นหลักเป็นฐาน มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงให้ไว้ และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ซึ่งกำลังจะมีพิธีบรมราชาภิเษก ความศักดิ์สิทธิ์ประเทศไทยอยู่ตรงนี้ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่าให้ใครมาล้มตรงนี้ เราต้องไม่ยอม จะล้มสถาบันหลักของประเทศไม่ได้ ผมยอมตายในเรื่องนี้ ทุกคนต้องยอมตายไปกับผมด้วย แต่ท่านไม่ตายหรอก ผมไปก่อนอยู่แล้ว" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว 
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า วันหน้าต้องเลือกคนดีมาบริหาร เพราะประเทศไม่ใช่บริษัท และไม่ได้บริหารด้วยนายกฯ คนเดียว เพราะการบริหารประเทศส่งผลถึงคน 68 ล้านคน จึงขอให้ทุกคนช่วยกันขจัดขยะไปให้ได้ ก่อนกล่าวทิ้งท้ายว่า “ทุกคนต้องร่วมมือ บ๊ายบายลาก่อน พบกันเมื่อชาติต้องการ เมื่อไหร่ที่ต้องการ" ซึ่งประชาชนพร้อมใจกันตอบกลับทันทีว่า 24 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์จึงตอบกลับว่า "ไม่รู้ แล้วแต่ท่าน พูดไปเดี๋ยวอันตราย ฝากทุกคนนำพาประเทศไปสู่วันหน้า เวลาเห็นแววตาทุกคนแล้วกดดัน บางทีจุกในลำคอ บางทีก็น้ำตาตก" โดยจังหวะนี้นายกฯ มีสีหน้าที่ตื้นตัน พร้อมกล่าวอีกว่าไม่ได้เสแสร้ง และขอฝากอย่าเปิดโซเชียลฯ ที่สร้างความเกลียดชังมากนัก เหลืออีกไม่กี่วันแล้ว อย่าสร้างความเกลียดชังอีก 
    จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ทำท่าขว้างหัวใจให้ประชาชนพร้อมกับกล่าวว่า "เอาหัวใจผมไป เอาหัวใจท่านคืนมา หัวใจของความรักความสามัคคีของคนไทยคืนมา ใช่หรือไม่ใช่พ่อแม่พี่น้อง เอาละใกล้เคียงเข้าไปทุกที" จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์เดินลงจากเวที มีข้าราชการและประชาชนเข้ามาขอถ่ายรูปด้วยจำนวนมาก ระหว่างนั้นมีการเปิดเพลงเชื่อฉัน โดย พล.อ.ประยุทธ์ร้องคลอท่อนที่ระบุว่า "เชื่อฉันอย่าหลงไปเชื่อใคร" 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังกล่าวกับประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินถ่ายรูปเซลฟีและรับมอบดอกกุหลาบจากข้าราชการและประชาชนที่มาต้อนรับอย่างคึกคัก พร้อมถือไมโครโฟนร้องเพลง “จับมือกันไว้” ของเบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์, เพลง “เชื่อฉัน” ของแจ้ ดนุพล แก้วกาญจน์, เพลง “คนดีไม่มีวันตาย” ของธีร์ ไชยเดช นอกจากนี้บนเวทียังได้เปิดเพลง “แฮปปี้เบิร์ธเดย์ทูยู”, “แสงสุดท้าย”, “ศรัทธา” จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้เยี่ยมชมการออกร้านจากหน่วยงานต่างๆ โดยชิมอาหารและทดลองตำส้มตำ พร้อมร้องว่า “ส้มตำถ้าตำไม่ดี ดีไม่ดีจะถูกตำ” ทั้งนี้ ก่อนขึ้นรถเดินทางกลับข้าราชการจำนวนมากได้ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ทูยูอวยพรวันเกิดและบอกรัก “ลุงตู่” อย่างคึกคัก. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"