30 มี.ค. 2562 นพ.สุรสิทธิ์ อัศดามงคล ประธานกรรมการบริหาร โรงพยาบาลบางมด เปิดเผยว่า การขยายสาขาของของศูนย์ศัลยกรรมความงาม รพ.บางมด ที่มีชื่อว่า เดอะลักซ์ คลินิก บาย บางมด (The Lux Clinic by Bangmod)นับเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้สามารถขยายออกไปสู่ย่านพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ ได้มากขึ้น โดยเฉพาะย่านสุขุมวิท เพื่อรองรับฐานคนไข้ชาวต่างชาติที่มาจากต่างประเทศโดยตรง และชาวต่างชาติที่พักอาศัยในประเทศไทย รวมทั้งกลุ่มคนเมือง

สำหรับสถิติของผู้เข้าใช้บริการในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาได้รับการยอมรับจากชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะชาวต่างชาติจากสหรัฐอเมริกา, ฝั่งยุโรป, เอเชีย ได้แก่ ญี่ปุ่น จีน เนื่องจากฝีมือและเทคนิคการผ่าตัดของศัลยแพทย์ไทย ขณะเดียวกันคนไข้มีความมั่นใจในความปลอดภัย รวมทั้งค่าใช้จ่ายไม่แพง ล่าสุดจากการเปิดให้บริการย่านสุขุมวิทเพียง 1 เดือนที่ผ่านมา พบว่ามีชาวต่างชาติให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มสุภาพสตรีชาวญี่ปุ่น

ส่วนปัจจุบันภาพรวมการแข่งขันของศัลยกรรมความงามมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งจำนวนของคลินิกที่มีปริมาณเพิ่มขึ้น การเข้ามาของคลินิกศัลยกรรมจากต่างประเทศในลักษณะการร่วมทุน รวมถึงการมุ่งหวังผลประโยชน์เชิงพาณิชย์มากเกินไป ทำให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน โดยสิ่งสำคัญที่จะทำให้วงการศัลยกรรมความงามของประเทศไทยพัฒนาไปได้ และพัฒนาไปในทางที่ถูกต้อง คือการเปลี่ยนมุมมองจากธุรกิจสู่การรักษาทางการแพทย์ เพราะปัญหาในปัจจุบันมีการแข่งขัน และมุ่งเล็งถึงผลกำไรในเชิงธุรกิจมากเกินไป เช่น การรีวิวด้วยรูปภาพสวยๆ, โฆษณาชวนเชื่อโดยใช้บุคคลมีชื่อเสียง, การไม่ได้บอกข้อมูลเชิงการแพทย์อย่างแท้จริง การแนะนำเพื่อให้ผ่าตัดเยอะๆ เกินความจำเป็น สะท้อนว่าการศัลยกรรมในเมืองไทยกำลังเดินมาผิดทาง เพราะมองในเชิงธุรกิจเป็นหลัก                 

ส่วนแนวทางการพัฒนาเพื่อเปลี่ยนจากการพัฒนาเชิงธุรกิจ โฆษณา การตลาด มาเป็นการพัฒนาเชิงการแพทย์นั้น ควรพัฒนาแพทย์ให้มีความสามารถมากขึ้น ให้จบเฉพาะทางมากขึ้น หรือพัฒนาเทคนิคการผ่าตัด และมาตรฐานทางการแพทย์ให้สูงขึ้น รวมถึงมีการจัดประชุมวิชาการมากขึ้นด้วย

นพ.สุรสิทธิ์ กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาศูนย์ศัลยกรรมความงาม รพ.บางมด มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นราว 15% เมื่อเทียบกับปี 2560 เนื่องจากการเข้ามาใช้บริการมีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มชาวต่างชาติที่มีสัดส่วน 40% ใกล้เคียงกับกลุ่มชาวไทยที่มีการใช้บริการอยู่ที่ 60%  ส่วนใหญ่จะเดินทางมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา, ประเทศในทวีปยุโรป อาทิ ฝรั่งเศส, เยอรมัน, สวิตเซอร์แลนด์ รวมทั้งประเทศในเอเชียด้วยกัน อาทิ ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, จีน เป็นต้น คาดว่าจบสิ้นปี 2562 จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ประมาณ 20% เนื่องจากการมีสาขาที่เพิ่มขึ้น และจำนวนการเข้ามาของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ