คลังจ่อควบรวม “บตท.-ธอส.” ชี้ภารกิจใกล้เคียงกัน


เพิ่มเพื่อน    

 

5 มี.ค. 2562 รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า ขณะนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กำลังเร่งดำเนินการควบรวมสถาบันการเงินเฉพาะของรัฐระหว่างธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) โดยจะนำ บตท.เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ ธอส.และยุบ บตท.ทิ้ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากทั้ง 2 สถาบันมีภารกิจด้านการเงินเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยคล้ายกัน ซึ่งระยะเวลาการควบรวมจะทำให้เสร็จโดยเร็วไม่น่าจะเกินปีนี้ 

“การควบรวมครั้งนี้ถือเป็นเรื่องลับ โดย ธอส.จะเป็นแกน เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพให้องค์กร ไม่ใช่ควบรวมเพื่อแก้ปัญหา เพราะตัว บตท.แม้จะมีขนาดเล็กแต่ก็ยังมีกำไรอยู่ปีล่าสุด 102 ล้านบาท และมีสินทรัพย์ 18,972 ล้านบาท แต่ด้วยภารกิจที่มีจำกัดโอกาสเติบโตคงน้อย จึงน่าจะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของธอส.มากกว่า ซึ่งปัจจุบันมียอดสินทรัพย์ 1.16 ล้านล้านบาท กำไร 1.2 หมื่นล้านบาท โดยช่วยให้ ธอส.สามารถทำภารกิจได้รอบด้านขึ้น ซึ่งรูปแบบการควบรวมจะมีการโอนทั้ง สินทรัพย์ หนี้ ภาระผูกพัน พนักงานประจำ ลูกหนี้ แต่ลูกหนี้จะไม่ได้รับผลกระทบจากการควบรวม โดยยังได้รับเงื่อนไขเดิม” รายงานข่าว ระบุ

สำหรับขั้นตอนการควบรวมขณะนี้อยู่ระหว่างการออกร่างกฎหมายเพื่อควบรวมกิจการของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ซึ่งได้สรุปการเปิดรับฟังความเห็นไปแล้ว 4 ครั้ง อยู่ระหว่างเสนอ ครม.และให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาต่อ ขณะเดียวกันจะต้องแก้ไขกฎหมายของทั้ง ธอส. และบตท. เพื่อรองรับการควบรวม เนื่องจากทั้ง 2 สถาบันการเงินมีพ.ร.บ.เป็นของตัวเอง 

“สิ่งที่ต้องติดตามต่อจากนี้ คือ สศค.จะเสนอการออก และแก้ไขกฎหมายให้ สนช.พิจารณาได้หรือไม่ เพราะยังไม่แน่ว่า สนช.จะมีอำนาจพิจารณากฎหมายได้ถึงเมื่อไร แต่หากเสนอไม่ได้ก็ต้องรอสภาผู้แทนราษฎร โดยยืนยันว่าการควบรวมจะมีแค่ 2 สถาบันการเงินนี้เท่านั้น ไม่ได้มี ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) หรือสถาบันการเงินรัฐแห่งอื่นรวมอยู่” รายงานข่าว ระบุ

ส่วนสาระสำคัญของกฎหมายการควบรวมสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เช่น มีการกำหนดการโอนกิจการ เงิน ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้สิน เป็นต้น การเพิ่มอำนาจหน้าที่ให้กับสถาบันการเงินที่ได้รับโอน การยกเว้นค่าธรรมเนียม จากการโอนหรือเปลี่ยนแปลง รายการทางทะเบียนเกี่ยวกับทรัพย์สินหรือหลักประกันที่ได้รับโอน การยกเว้นภาษีที่เกิดขึ้นจากการกระบวนการควบรวม 

อย่างไรก็ตามข้อดีช่วยให้ธอส.มีความเชี่ยวชาญในการทำตลาดรองสินเชื่อเพิ่มขึ้นแบบครบวงจร ส่วนข้อเสียจากการควบรวม อาจทำให้ ธอส.มีต้นทุนการดําเนินงานเพิ่มขึ้นจากที่ประมาณการไว้ และมีภาระต้องกันสํารองเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับคุณภาพทรัพย์สินที่ได้รับโอนมาจาก บตท.ด้วย โดยเฉพาะขณะนี้ ธอส.อยู่ระหว่างทดลองทำมาตรฐานรายงานทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับเครื่องมือทางการเงิน (ไอเอฟอาร์เอส 9) ซึ่งกําหนดให้มีการกันสํารองสําหรับความเสี่ยงตลอดอายุของสินทรัพย์จึงอาจทำให้มีภาระเพิ่มขึ้นมาก

นอกจากนี้ ในส่วนพนักงานประเภทลูกจ้างชั่วคราวของ บตท. จะไม่สามารถไปปฏิบัติงานที่สถาบันการเงินเฉพาะกิจผู้รับโอนกิจการได้ทําให้พนักงานประเภทนี้จะถูกเลิกจ้างและได้รับเงินชดเชยแทน ส่วนพนักงานประจําของ บตท.ยังได้รับสิทธิการโอนย้ายไปอยู่กับ ธอส.ได้ 

ด้านนายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ กล่าวว่า เพิ่งได้รับทราบข่าวการออกร่างกฎหมายควบรวมสถาบันการเงินจากสื่อ แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นการควบรวมระหว่างใคร ซึ่งหลังจากนี้ ธอส.จะมีการสอบถามไปยัง สศค.เพื่อรับทราบรายละเอียดอีกครั้ง


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"