คิมเจอปูตินครั้งแรก: หัวข้อใหญ่คือทรัมป์!


เพิ่มเพื่อน    

               คิม จองอึนแห่งเกาหลีเหนือ พบกับวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียเป็นครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ที่เมืองวลาดิวอสต็อก ต้องถือว่าเป็นการวางหมากการทูตระหว่างประเทศของ "คิมน้อย" ที่ชาญฉลาดมาก

                หลังจาก "ประชุมสุดยอด" ครั้งที่สองกับโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ที่ฮานอยเมื่อเร็วๆ นี้ไม่ได้ผลสมประสงค์ คิม จองอึนก็ขยับต่อด้วยเกมเหนือชั้น

                คิมต้องการให้ทั้งโลกเห็นว่าเขาไม่ใช่ผู้นำของประเทศเล็กๆ ที่ใครต่อใครรังเกียจ (เคยถูกเรียกว่า  "หมาหัวเน่า" ด้วยซ้ำไป) ไม่คบหาด้วยเหมือนสมัยพ่อและปู่อีกต่อไป

                วันนี้คิมกำลังแสดงให้เวทีสากลเห็นว่าเขาสามารถยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้นำยักษ์อย่างจีน,  อเมริกาและรัสเซียได้อย่างเต็มภาคภูมิ

                แม้ว่าข่าวทางการจะบอกว่าผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ คิม จองอึน เดินทางถึงกรุงวลาดิวอสต็อก ของรัสเซีย เพื่อหารือร่วมกับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ท่ามกลางการคาดหมายว่าผู้นำเกาหลีเหนือนั้นต้องการความช่วยเหลือทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจ แต่ที่สำคัญกว่ารายละเอียดของการเจรจาขอความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ คือการยกระดับสถานภาพของคิมเองในสายตาเวทีระหว่างประเทศ

                อำนาจการต่อรองของคิมวันนี้เหนือกว่ายุคสมัยพ่อและปู่หลายเท่า

                ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนก็ได้แสดงให้โลกเห็นว่า เขาถือว่าผู้นำเกาหลีเหนือคนนี้เป็นมิตรสนิทของปักกิ่งที่จะช่วยเหลือเกื้อกูลกันอย่างดีตลอดไป แม้จะต้องเผชิญกับแรงกดดันจากวอชิงตันเรื่องแซงก์ชันทางเศรษฐกิจก็ตาม

                พอคิมมาจับมือถ่ายรูปกับปูตินที่รัสเซีย ก็ย่อมเป็นการสำทับและตอกย้ำถึงความสำคัญของเกาหลีเหนืออีกชั้นหนึ่ง

                คิมไม่ต้องการให้เกิดภาพว่าเขาเป็นลูกไล่ของอเมริกา เพราะเขามีเพื่อนอย่างจีนและรัสเซียคอยหนุนหลังและให้กำลังใจ

                คิมเล่นเกมถ่วงดุลอำนาจระหว่างอเมริกากับจีนได้อย่างแนบเนียน และวันนี้เมื่อเขาไปเยือนปูตินอย่างเป็นทางการแล้ว ก็เท่ากับว่าเขาได้ทำให้ทรัมป์เห็นว่าอเมริกาจะมากดดันเปียงยางเหมือนแต่ก่อนไม่ได้อีกต่อไป

                ก่อนมาเยือนรัสเซีย คิมประกาศจะแจ้งว่าเขาไม่ต้องการให้รัฐมนตรีต่างประเทศ ไมก์ ปอมปีโอของสหรัฐฯ เป็นผู้เจรจาเรื่องปลดอาวุธนิวเคลียร์กับเกาหลีเหนืออีกต่อไปเพราะขาด "วุฒิภาวะ" ที่จะทำหน้าที่นั้น

                ขณะเดียวกันคิมก็ปลดคิม ยองโชล (Kim Yong Chol) คนสนิทของตัวเองที่ทำหน้าที่ต่อรองกับสหรัฐฯ ในเรื่องเดียวกันนี้เพื่อเปิดเกมการเจรจากับทรัมป์ใหม่

                คิมต้องการให้อเมริกาผ่อนคลายการแซงก์ชันทางเศรษฐกิจต่อตนเอง ก่อนที่จะให้เปียงยางยกเลิกโครงการพัฒนานิวเคลียร์ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะยอมถอยก้าวใหญ่โดยไม่มีอะไรรับประกันว่าเขาจะได้ของขวัญชิ้นใหญ่จากวอชิงตัน

                วันนี้คิมมั่นใจได้ว่าอย่างไรเสียจีนก็ไม่ทิ้งเขา และเขาไม่จำเป็นต้องรีบร้อนทำข้อตกลงกับทรัมป์

                ยิ่งหากเขาสามารถทำให้ทรัมป์เห็นว่าปูตินก็เป็นสหายคนสนิทที่พร้อมจะปกป้องเขาจากการข่มขู่รังแกขอสหรัฐฯ ทรัมป์ก็จะยิ่งต้องแสดงความเกรงอกเกรงใจต่อเขามากขึ้นกว่าเดิม

                ดังนั้น หากจะมีการประชุมสุดยอดรอบที่สามกับทรัมป์ คิมก็ต้องการให้มั่นใจว่าเขาสามารถทำให้ทรัมป์รู้ว่าเกาหลีเหนือมิใช่ประเทศที่ถูกโดดเดี่ยวให้เดียวดายเหมือนที่ผ่านมาอีกต่อไป

                ก้าวย่างของคิมครั้งนี้จึงมีนัยสำคัญต่อการเมืองระหว่างประเทศ โดยที่เนื้อหาจริงๆ อยู่ที่ลีลาและท่าทางมากกว่าเนื้อหาสาระในรายละเอียด ซึ่งก็คงจะโยงใยไปถึงคนงานเกาหลีเหนือประมาณ 10,000 คน ที่กำลังเผชิญปัญหาในรัสเซีย รวมไปถึงความช่วยเหลือทางด้านอาหารจากรัสเซียสู่เกาหลีเหนือในหลายๆ ด้าน

                แต่อย่าได้แปลกใจหากหัวข้อใหญ่จริงๆ ของการสนทนาสองต่อสองระหว่างคิมกับปูตินนั้นคือ โดนัลด์ ทรัมป์!

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"