20 ก.พ. 61 - เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่กฎกระทรวงการประกาศเกียรติคุณและการให้การสนับสนุนแก่หอพักเอกชนพ.ศ. ๒๕๖๑

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๔๑ แห่งพระราชบัญญัติหอพักพ.ศ. ๒๕๕๘ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ กฎกระทรวงนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนดสามสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ ๒ ในกฎกระทรวงนี้

“หอพักเอกชนขนาดเล็ก” หมายความว่า หอพักเอกชนที่มีห้องพักไม่เกินห้าสิบห้องหรือมีพื้นที่ทุกห้องรวมกันไม่เกิน ๑,๐๐๐ ตารางเมตร

“หอพักเอกชนขนาดกลาง” หมายความว่า หอพักเอกชนที่มีห้องพักเกินห้าสิบห้อง แต่ไม่เกินหนึ่งร้อยห้อง หรือมีพื้นที่ทุกห้องรวมกันเกิน ๑,๐๐๐ ตารางเมตรแต่ไม่เกิน ๒,๐๐๐ ตารางเมตร

“หอพักเอกชนขนาดใหญ่” หมายความว่า หอพักเอกชนที่มีห้องพักเกินหนึ่งร้อยห้องหรือมีพื้นที่ทุกห้องรวมกันเกิน ๒,๐๐๐ ตารางเมตร

ข้อ ๓ หอพักเอกชนขนาดเล็กที่จะได้รับการประกาศเกียรติคุณอย่างน้อยต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้

(๑) มีสถานที่ติดต่อเป็นสัดส่วนชัดเจน เพื่อเป็นหน่วยประสานงานและศูนย์กลางการให้บริการแก่ผู้พัก

(๒) มีสิ่งอํานวยความสะดวกที่เอื้อต่อการเรียนรู้ เช่น จุดเชื่อมต่อหรือมีสัญญาณเพื่อการเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ต รวมทั้งวัสดุอุปกรณ์ที่จําเป็นในการปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้

(๓) มีไฟส่องสว่างฉุกเฉินในกรณีกระแสไฟฟ้าขัดข้อง โดยติดตั้งอย่างน้อยหนึ่งชุดต่อพื้นที่๑,๐๐๐ ตารางเมตร และติดตั้งทุกระยะห่างกันไม่เกิน ๔๕ เมตร

(๔) มีทะเบียนผู้พักที่เป็นปัจจุบัน

(๕) มีป้ายและระเบียบประจําหอพักเป็นภาษาอังกฤษ ในกรณีที่มีผู้พักเป็นคนต่างด้าว

(๖) มีป้ายหรือประกาศเตือนเกี่ยวกับพิษภัยของยาเสพติดและอัตราโทษตามกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด

(๗) มีระบบสื่อสารภายในหอพักที่สามารถติดต่อผู้พักในแต่ละห้องพักได้

(๘) มีการประชาสัมพันธ์ข่าวสารหรือความเคลื่อนไหวที่เป็นประโยชน์ต่อผู้พัก

(๙) มีบริการซักรีดเสื้อผ้า

(๑๐) มีกล้องวงจรปิดเพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยทั้งภายนอกและภายในอาคารหอพักโดยติดตั้งอย่างทั่วถึงและอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา

(๑๑) มีสิ่งอํานวยความสะดวกแก่ผู้พิการที่มีลักษณะสอดคล้องกับการกําหนดสิ่งอํานวยความสะดวกในอาคารสําหรับผู้พิการหรือทุพพลภาพตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร

(๑๒) มีสถานที่สําหรับต้อนรับผู้เยี่ยมเยียนขนาดไม่น้อยกว่า ๑๐ ตารางเมตร แยกเป็นอีกส่วนหนึ่งจากบริเวณพักอาศัย

ข้อ ๔ หอพักเอกชนขนาดกลางที่จะได้รับการประกาศเกียรติคุณอย่างน้อยต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้

(๑) หลักเกณฑ์ตามข้อ ๓ (๑) (๒) (๓) (๔) (๕) (๖) (๗) (๘) (๙) (๑๐) และ (๑๑)

(๒) มีพื้นที่สําหรับให้บริการจอดยานพาหนะอย่างเป็นระเบียบและเพียงพอ

(๓) มีระบบการรักษาความปลอดภัยแก่ผู้พักตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง

(๔) มีการสนับสนุนให้มีชมรมหรือกิจกรรมสร้างสรรค์อันเป็นสาธารณประโยชน์

(๕) มีสถานที่สําหรับต้อนรับผู้เยี่ยมเยียนขนาดไม่น้อยกว่า ๒๐ ตารางเมตร แยกเป็นอีกส่วนหนึ่งจากบริเวณพักอาศัย

ข้อ ๕ หอพักเอกชนขนาดใหญ่ที่จะได้รับการประกาศเกียรติคุณอย่างน้อยต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้

(๑) หลักเกณฑ์ตามข้อ ๔ (๑) (๒) (๓) และ (๔)

(๒) มีห้องบริการอเนกประสงค์เพื่อการอ่านหนังสือ ประชุมกลุ่มย่อย หรือกิจกรรมอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมการเรียนรู้

(๓) มีพื้นที่สําหรับออกกําลังกาย

(๔) มีบริการอาหารว่างและเครื่องดื่มแก่ผู้พัก

(๕) มีสถานที่สําหรับต้อนรับผู้เยี่ยมเยียนขนาดไม่น้อยกว่า ๓๐ ตารางเมตร แยกเป็นอีกส่วนหนึ่งจากบริเวณพักอาศัย

ข้อ ๖ ผู้ประกอบกิจการหอพักเอกชนที่ประสงค์จะได้รับการประกาศเกียรติคุณจากคณะกรรมการ ให้ยื่นคําขอรับการตรวจประเมินตามแบบที่คณะกรรมการประกาศกําหนดต่อนายทะเบียนณ เขตท้องที่ที่หอพักตั้งอยู่ โดยให้คณะกรรมการส่งเสริมกิจการหอพักกรุงเทพมหานครหรือคณะกรรมการส่งเสริมกิจการหอพักจังหวัด แล้วแต่กรณี เป็นผู้พิจารณาตรวจประเมินตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กําหนดในกฎกระทรวงนี้

เมื่อคณะกรรมการส่งเสริมกิจการหอพักกรุงเทพมหานครหรือคณะกรรมการส่งเสริมกิจการหอพักจังหวัด แล้วแต่กรณี เห็นว่าหอพักเอกชนตามวรรคหนึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กําหนด ให้เสนอรายชื่อหอพักเอกชนนั้นต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาคัดเลือกเป็นหอพักเอกชนที่ได้รับการประกาศเกียรติคุณต่อไป

ข้อ ๗ การพิจารณาคัดเลือกหอพักเอกชนที่ได้รับการประกาศเกียรติคุณให้คณะกรรมการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาคัดเลือกหอพักเอกชนที่ได้รับการประกาศเกียรติคุณคณะหนึ่งเพื่อทําหน้าที่ในการประเมินและพิจารณาคัดเลือกหอพักเอกชน โดยพิจารณาให้คะแนนจากองค์ประกอบด้านต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

(๑) ด้านความปลอดภัย

(๒) ด้านความสะอาด

(๓) ด้านสภาพภูมิทัศน์

(๔) ด้านการให้บริการ

(๕) ด้านสิ่งอํานวยความสะดวก

(๖) ด้านการรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงาม

(๗) ด้านอื่นตามที่คณะกรรมการประกาศกําหนดการกําหนดคะแนนและหลักเกณฑ์การประเมินในแต่ละด้านตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการประกาศกําหนด โดยอาจจะกําหนดเกณฑ์คะแนนขั้นต่ําในแต่ละด้าน ให้แตกต่างกันตามขนาดของหอพักเอกชนที่ได้รับการประกาศเกียรติคุณก็ได้

ให้คณะอนุกรรมการพิจารณาคัดเลือกหอพักเอกชนที่ได้รับการประกาศเกียรติคุณเสนอผลการพิจารณาต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาประกาศเกียรติคุณต่อไป

ข้อ ๘ หอพักเอกชนที่ได้รับการประกาศเกียรติคุณ แบ่งเป็นสองระดับ ดังต่อไปนี้
(๑) หอพักเอกชนเกียรติคุณ
(๒) หอพักเอกชนเกียรติคุณดีเด่น

ข้อ ๙ หอพักเอกชนที่จะได้รับการคัดเลือกเป็นหอพักเอกชนเกียรติคุณตามขนาดของหอพักเอกชนตามข้อ ๒ ต้องได้คะแนนจากการประเมินตามข้อ ๗ มากกว่าร้อยละแปดสิบของผลคะแนนรวมทุกด้าน

ข้อ ๑๐ หอพักเอกชนที่จะได้รับการคัดเลือกเป็นหอพักเอกชนเกียรติคุณดีเด่นตามขนาดของหอพักเอกชนตามข้อ ๒ ต้องได้คะแนนจากการประเมินตามข้อ ๗ เป็นลําดับที่หนึ่ง และได้คะแนนมากกว่าร้อยละเก้าสิบของผลคะแนนรวมทุกด้าน

ข้อ ๑๑ หอพักเอกชนเกียรติคุณให้ได้รับการสนับสนุนด้านอื่น ๆ ดังต่อไปนี้
(๑) ได้รับโล่ สัญลักษณ์ และใบประกาศตามระดับที่ได้รับการประกาศเกียรติคุณ
(๒) ได้รับการประชาสัมพันธ์ประกาศเกียรติคุณผ่านทางสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อวิทยุและโทรทัศน์หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศของกรมกิจการเด็กและเยาวชน กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือสถานศึกษา
(๓) ได้รับการพิจารณาให้เข้าร่วมโครงการที่ส่วนราชการหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดําเนินการเพื่อประโยชน์ของการประกอบกิจการหอพักและผู้พัก

ข้อ ๑๒ หอพักเอกชนเกียรติคุณดีเด่น นอกจากมีสิทธิได้รับการสนับสนุนด้านอื่น ๆตามข้อ ๑๑ แล้ว ให้ได้รับการสนับสนุนด้านการเงินหรือวัสดุอุปกรณ์เพื่อประโยชน์ในด้านการศึกษาการคุ้มครองชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน การรักษาพยาบาลเบื้องต้น และการส่งเสริมการเล่นกีฬาแก่ผู้พักและการจัดระบบการรักษาความปลอดภัยและการรักษาสุขอนามัยของหอพักเอกชน
จํานวนเงินและวัสดุอุปกรณ์ที่หอพักเอกชนเกียรติคุณดีเด่นจะได้รับให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการประกาศกําหนด

ข้อ ๑๓ ให้คณะกรรมการส่งเสริมกิจการหอพักกรุงเทพมหานครหรือคณะกรรมการส่งเสริมกิจการหอพักจังหวัด แล้วแต่กรณี ตรวจประเมินหอพักเอกชนที่ได้รับการประกาศเกียรติคุณทุกปีตามที่คณะกรรมการประกาศกําหนด
ในกรณีที่หอพักเอกชนที่ได้รับการประกาศเกียรติคุณใดปฏิบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ตามข้อ ๓ ข้อ ๔ หรือข้อ ๕ แล้วแต่กรณี ให้คณะกรรมการยุติการให้การสนับสนุนตามข้อ ๑๑ หรือข้อ ๑๒แก่หอพักเอกชนนั้นนับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการมีมติ และให้คณะกรรมการประกาศให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไปด้วย

ให้ไว้ ณ วันที่ ๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑

พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา ๔๑ แห่งพระราชบัญญัติหอพักพ.ศ. ๒๕๕๘ บัญญัติให้การประกาศเกียรติคุณและการได้รับการสนับสนุนด้านการเงินหรือวัสดุอุปกรณ์หรือการสนับสนุนด้านอื่น ๆ แก่หอพักเอกชนเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กําหนดในกฎกระทรวงจึงจําเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้.