
6 พ.ค.62 - เวลา 16.53 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวัง ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 เสด็จออกสีหบัญชร พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท
รถยนต์พระที่นั่งเข้าทางประตูวิเศษไชยศรี ประตูพิมานไชยศรี ประตูเหล็กกล้าประตูเหล็กเพชร ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพวงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี จากนั้นรถยนต์พระที่นั่งเทียบที่หลังพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท เสด็จขึ้นท้องพระโรงหน้าพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท การนี้ พระอนุวงศ์และองคมนตรีเฝ้าฯ รับเสด็จ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกราบบังคมทูลเบิกจุฬาราชมนตรี คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และผู้แทนคณะพาณิชย์ ได้แก่ ประธานหอการค้าไทย-จีน,ประธานหอการค้าอินเดีย- ไทย, ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และประธานสมาคมธนาคารไทย เข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคลทางทิศใต้ คณะต่างๆ ทูลเกล้าฯ ถวายซองบรรจุคำถวายพระพร

นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กราบบังคมทูลเบิกผู้นำองค์การศาสนา 4 คณะ ได้แก่ พระคาร์ดินัล เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช กับคณะโรมันคาทอลิก ,ศาสนาจารย์ ดร. ทวีศักดิ์ มหชวโรจน์ กับคณะคริสตจักร ,นายสุขิต นารูลา กับคณะพราหมณ์-ฮินดู นายนาริน นารูลา กับคณะไทย-ซิกข์ เข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคลทางทิศเหนือ คณะต่างๆ ทูลเกล้าฯ ถวายซองบรรจุคำถวายพระพร
จากนั้นเวลา 16.59 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออกสีหบัญชรพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท ซึ่งเป็นสีหบัญชรเดียวกับที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เคยเสด็จออกให้ประชาชนเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคลภายหลังการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก วันที่ 5 พฤษภาคม 2493

ชาวพนักงานประโคมมโหระทึก แตร ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพถวายความเคารพวงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ 21 นัด เมื่อสุดเสียงประโคมแล้ว พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลแทนราษฎรทุกหมู่เหล่า
ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม เนื่องในโอกาสมหามงคลที่ใต้ฝ่าละองธุลีพระบาท เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ สืบราชสันตติวงศ์ เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 10 แห่งพระมหาจักรีบรมราชวงศ์ โดยพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ตามขัตติยราชประเพณี สมบูรณ์พร้อมด้วยพระบรมราชอิสริยยศครบถ้วนทุกสิ่งสรรพแล้ว ข้าพระพุทธเจ้า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในนามพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ทั่วทุกสารทิศ ขอพระราชทานกราบบังคมทูลพระกรุณาถึงความปีติเกษมโสมนัส ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ นับแต่พระปฐมกษัตริย์แห่งพระมหาจักรีบรมราชวงศ์ ได้เสด็จขึ้นทรงครองสิริราชยสมบัติ สืบเนื่องมาถึงรัชสมัยแห่งใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ราชอาณาจักรไทย ได้ดำรงคงอยู่ อย่างมีเอกราช และมีความเจริญก้าวหน้า ทัดเทียมนานาอารยประเทศ ด้วยพระปรีชาสามารถ และพระมหากรุณาธิคุณ ปกเกล้าปกกระหม่อมอาณาประชาราษฎร์ ต่างพึ่งพิงอาศัยในพระราชอาณาจักร อย่างร่มเย็นเป็นสุขทุกถ้วนทั่วกัน ภายใต้พระบรมโพธิสมภารเสมอมา

ในกาลปัจจุบันนี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายต่างประจักษ์แก่ใจดียิ่งว่า ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงบำเพ็ญปฏิบัติพระราชกรณียกิจ โดยมีพระราชประสงค์ เพื่อประสิทธิความผาสุกสืบสวัสดิ์ ทั้งความไพบูลย์วัฒนา สถาพร แก่ชาติบ้านเมือง ด้วยพระราชปณิธานอันแน่วแน่ ที่จะพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของอาณาประชาราษฎร์ น้ำพระราชหฤทัยอันเปี่ยมล้น ด้วยพระมหากรุณาแห่งใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ยังความปลาบปลื้มปีติสุข แก่ผองพสกนิกรทั้งปวง พระบรมเดชานุภาพ และพระบารมี ยังได้เกิดความสมัครสมานสามัคคีร่วมแรงร่วมใจ เป็นพลังหนุนนำ ให้ภาครัฐภาคเอกชน และปวงประชาชนทุกหมู่เหล่า มีศรัทธา เชื่อมั่น ที่จะร่วมกันบำรุงรักษาและพัฒนาบ้านเมือง ให้เจริญก้าวหน้ารุ่งเรืองสืบไป ปวงข้าพระพุทธเจ้า เหล่าข้าราชการพลเรือน ทั้งตำรวจ ทหาร ประชาชน จิตอาสา และพสกนิกรทุกหมู่เหล่า จะถวายความจงรักภักดี ต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท และพระมหาจักรีบรมราชวงศ์ ไว้ด้วยชีวิต โดยจะร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ สนองพระราชปณิธาน ในการสืบสาน รักษา และต่อยอด ตามพระปฐมบรมราชโองการ อย่างเต็มกำลังความสามารถ และจะสร้างความสงบสุข ความมีเสถียรภาพ เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติ และความผาสุกของประชาชนสืบไป

ในมหามงคลสมัยพิเศษนี้ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายจึงขอพระราชทานถวายพระพรชัยมงคล ขออารธนาคุณพระศรีรัตนตรัยอันประเสิรฐ อานุภาพแห่งพระสยามเทวาธิราช และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลจักรวาล และพระบรมเดชานุภาพ แห่งสมเด็จพระบูรพกษัตราธิราชเจ้า ทุกพระองค์ โปรดอภิบาลรักษาใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ให้ทรงพระราชสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคล ทรงเจริญพระชนมายุ ยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ พระบารมีแผ่ไพศาล พร้อมด้วยพิพิธพรชัย อันไพสิฐ พระเกียรติคุณวิบูลย์ขจรไกล ไปทั่วทิศานุทิศ สถิตเสถียรในไอศูรย์ สิริราชสมบัติ เพื่อเป็นมิ่งขวัญปกเกล้าเหล่าพสกนิกร ตราบจิรัฐิติกาล เทอญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ "
จบแล้ว ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพถวายความเคารพวงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี พสกนิกรเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้องอย่างต่อเนื่อง

จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสตอบความว่า
“ข้าพเจ้าและพระราชินี รู้สึกยินดีและปลื้มใจมากที่ได้เห็นประชาชนทั้งหลายมีไมตรีจิตพร้อมเพรียงกันมาร่วมแสดงความปรารถนาดีในวาระบรมราชาภิเษกของข้าพเจ้าครั้งนี้ ความพร้อมเพรียงของท่านทั้งหลาย ผู้มาประชุมพร้อมกัน ณ ที่นี้เพื่ออวยชัยให้พรแก่ข้าพเจ้าด้วยน้ำใจไมตรี และความปรารถนาดีอย่างจริงใจนั้น เป็นที่จับตาจับใจ และทำให้ข้าพเจ้าอิ่มใจอย่างยิ่ง ขอให้ความพร้อมเพรียงของท่านทั้งหลาย ในการแสดงไมตรีจิตแก่ข้าพเจ้าครั้งนี้จงเป็นนิมิตหมายอันดีที่ทุกคนทุกฝ่ายจะพร้อมกันบำเพ็ญกรณียกิจ เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติของเราต่อไป ขอขอบใจในคำอำนวยพร ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวในนามของทุกคน และขอสนองพรให้ทุกท่านมีความผาสุกสวัสดี พร้อมทั้งความสำเร็จในสิ่งอันพึงปรารถนาโดยทั่วกัน ”
จบพระราชดำรัส ชาวพนักงานประโคมมโหระทึกแตรทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพถวายความเคารพวงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกกล่าวนำถวายพระพร"ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ"

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จลงจากพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท เสด็จฯ ประทับรถยนต์พระที่นั่งไปยังพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพถวายความเคารพวงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีรถยนต์พระที่นั่งเทียบที่อัฒจันทร์พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทเสด็จฯ ไปประทับพักพระราชอิริยาบถ ณ พระที่นั่งสมมติเทวราชอุปบัติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่เสด็จออกสีหบัญชร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงโบกพระหัตถ์ แย้มพระสรวล ทักทายพสกนิกรทุกหมู่เหล่าที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จอย่างเนืองแน่น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระราชานุญาตให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร เสด็จออกสีหบัญชร พระบรมวงศ์ทุกพระองค์โบกพระหัตถ์ทักทายประชาชน
และภายหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศ์ เสด็จลงจากพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้นำพสกนิกรที่อยู่บริเวณด้านหน้าพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาทและบริเวณใกล้เคียงร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนจะเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้อง โบกธงตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษกและธงชาติโดยพร้อมเพรียง พสกนิกรจำนวนมากหลั่งน้ำตาด้วยความปลื้มปิติที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในวินาทีประวัติศาสตร์และได้หลอมรวมดวงใจเข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคลอย่างใกล้ชิด.




|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |