"ทิโมธี ไวท์" ช่างภาพระดับโลก กับกิจกรรม"รอยยิ้มผ่านเลนส์"ช่วยสังคมไทย


เพิ่มเพื่อน    

 

ทิโมธี ไวท์  ช่างภาพระดับโลก

 

จากความทะเยอทะยาน และความรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้จับกล้องขึ้นมาถ่ายภาพบุคคล ทำให้เมื่อ 30ปีก่อน  ทิโมธี ไวท์ (Timothy White) ช่างภาพผู้โด่งดังจากฮอลลีวู้ดในปัจจุบัน  ค้นพบว่า อาชีพช่างภาพคือสิ่งที่เขาถนัดและรัก  จนเป็นแรงผลักดันให้เขาก้าวสู่การเป็นช่างภาพระดับโลก และเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่ได้รับการจัดอันดับโดยนิตยสาร American Photo 
ผลงานภาพถ่ายของเขามีทั้งภาพบุคคลสำคัญ นักร้องนักแสดงระดับตำนาน ที่เป็นผลงานชิ้นเยี่ยมมากมาย มาจากทั้งค่ายฮอลลีวูด พาราเมาท์ และโซนี่มิวสิค  รวมถึงยังมีผลงานภาพถ่ายโปสเตอร์ภาพยนตร์ชื่อดังที่ได้รับการกล่าวขวัญสูงสุดมากกว่า 100 เรื่องในยุค 90  และงานถ่ายภาพหน้าปกนิตยสารชั้นนำอีกเป็นจำนวนมาก ทั้งยังได้รับรางวัลด้านการถ่ายภาพและภาพยนตร์มากที่สุด รวมถึงรางวัล Lucie Award รางวัลอันทรงเกียรติของวงการช่างภาพระดับโลก สาขา International Photograher of the Year 

นอกจากนี้ผลงานของเขายังได้รับการจัดแสดงในห้องจัดแสดงภาพ และพิพิธภัณฑ์หลายแห่งทั่วโลก และมีอีกบทบาทหนึ่งคือเป็นผู้ร่วมก่อตั้งห้องจัดแสดงภาพ Morrison Hotel Gallery ห้องแสดงภาพศิลปะที่มีชื่อเสียงในนครนิวยอร์ก ไม่เพียงเท่านี้ทิโมธียังทำหน้าที่ดูแลและจัดงานอีเว้นท์ทั้งในลอสแองเจลิส นิวยอร์ก และเมาวี และสนับสนุนองค์กรต่างๆ โดยใช้อาชีพของเขาให้เป็นประโยชน์

ภาพถ่ายแบรด พิตต์


 เขาเล่าถึงเส้นทางการเป็นช่างภาพให้ฟัง เมื่อช่วงวันก่อนที่เขาเดินทางมายังประเทศไทยว่า ทุกๆ ครั้งที่เขาได้ถ่ายภาพให้กับนางแบบ นายแบบ เขามีความสุข และรู้สึกตื่นเต้นมาก เขาชอบที่จะเห็นการแสดงออกของนางแบบ และนายแบบที่มาร่วมงานกับเขา ทุกๆ ครั้งที่ถ่ายภาพบุคคลเหล่านั้น แต่ละคนล้วนมีเอกลักษณ์ และคาแร็กเตอร์ที่แตกต่างกันออกไป ไม่ซ้ำ เลยทำให้เขามีความรู้สึกตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเขาใช้เวลาถ่ายภาพบุคคลมาหลายปีจนมีทักษะและประสบการณ์ที่ทำให้ก้าวกระโดดเข้าไปสู่การร่วมงานในฮอลีวู้ด เขาได้ถ่ายภาพคนดังมากหน้าหลายตา ตั้งแต่นิโคล แมรี คิดแมน, แบรด พิตต์, บียอนเซ่ โนวส์, ปารีส ฮิลตัน และอีกมากมาย รวมถึงถ่ายภาพโปสเตอร์ภาพยนตร์

ผลงานภาพถ่าย พอล นิวแมน

 

ตลอดระยะเวลาหลายปีในอาชีพช่างภาพ เขาถ่ายภาพบุคคลสำคัญมาตลอด ซึ่งการถ่ายภาพบุคคลนั้นอาจเป็นเรื่องยากที่คนทั่วไป จะถ่ายภาพคนหลายๆ คนให้ดูแตกต่าง เขาเล่าว่า แต่ละคนมีเอกลักษณ์ต่างกัน เทคนิคของช่างภาพเมื่อต้องถ่ายภาพ ต้องทำความรู้จัก และสร้างความคุ้นเคยกับนางแบบและนายแบบ ให้พวกเขารู้สึกสบาย ผ่อนคลาย เป็นธรรมชาติ เขาเองก็ถ่ายภาพมาเป็นล้านๆ ภาพ จะมีความรู้สึกว่าคุ้นชิน และเข้าใจหลังเลนส์กล้องดีว่าจะต้องถ่ายภาพออกมาลักษณะใดดีที่สุด อาชีพช่างภาพเป็นอาชีพที่ไม่หยุดนิ่ง ได้เคลื่อนไหวตลอดเวลา 
“มีอยู่เหตุการณ์หนึ่ง เมื่อครั้งถ่ายภาพกับแบรด พิตต์ ครั้งนั้นใช้เวลารวมทั้งหมด 5 วันต่อเนื่อง โดยการขับมอเตอร์ไซต์ วิบาก ไปเรื่อยๆ เหมือนเป็นโร้ดทริป เมื่อเจอสิ่งที่น่าสนใจก็จะหยุดถ่าย แล้วก็เดินทางต่อแล้วก็หยุดถ่ายตลอดวัน เป็นความรู้สึกที่สนุกสนานมาก ผมมองว่าเป็นอาชีพไม่น่าเบื่อ” ทิโมธี กล่าว

นอกจากบทบาทการเป็นช่างภาพ ทิโมธี ยังใช้อาชีพของเขาให้เกิดประโยชน์ โดยให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือสังคมร่วมกับองค์กรต่างๆ จัดกิจกรรมการกุศล อย่างมากมายเมื่อครั้งอยู่อเมริกา ภายหลังเขาได้หันมาให้ความสนใจกับวัฒนธรรมฝั่งเอเชียมากขึ้น ได้จัดทำกิจกรรมร่วมกับคนเอเชีย ก่อนหน้านี้ ทิโมธีเดินทางไปยังสิงคโปร์เพื่อร่วมงานจัดแสดงผลงานเดี่ยว ซึ่งการเยือนเอเชียทำให้เขาตระหนักว่าถึงเวลาแล้วที่ควรเริ่มเดินทางสำรวจทวีปเอเชียและนำเสนอความหลงใหลและทักษะในศาสตร์การถ่ายภาพของเขาให้เป็นที่รู้จักในภูมิภาคนี้บนแนวทางที่เป็นตัวตนของเขา
และปีนี้เป็นครั้งแรกที่เขาเดินทางมายังประเทศไทย เพื่อทำกิจกรรมการกุศลต่อเนื่อง โดยจะร่วมจัดทำโปรเจ็คสำคัญกับ เอเอสเอ กรุ๊ป ผ่านโครงการ “รอยยิ้มผ่านเลนส์” 
ช่างภาพฮอลีวู้ด กล่าวอีกว่า สิ่งที่ทำให้เขามาร่วมงานกับฝั่งเอเชีย คือด้วยความที่อาชีพทำให้ต้องออกเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ และพบเจอวัฒนธรรมมากมาย เอเชียมีวัฒนธรรมที่น่าหลงใหลหลายอย่าง เช่นประเทศไทยเอง เมื่อใครมาต่างก็ได้เห็นความรักที่คนไทยมอบให้ คนไทยปฏิบัติต่อต่างชาติไม่ใช่แค่มองว่าชาวต่างชาติคือนักท่องเที่ยว แต่คนไทยแสดงออกให้เห็นว่าเขารักเพื่อนมนุษย์ ราวกับเป็นเครือญาติกัน นี่คือความสวยงามที่มองเห็น และสัมผัสได้ และตอนนี้วัฒนธรรมโลก หรือสถานการณ์โลก เริ่มเอนเอียงมาทางเอเชียบ้างแล้ว จากประสบการณ์เลยมองว่าน่าจะเป็นแนวทางที่ทำให้ได้เรียนรู้ และทำสิ่งใหม่ๆ มากขึ้น โดยใช้อาชีพที่ตนเองเชี่ยวชาญ การมาเยือนประเทศไทยปีนี้ ก็จะมีกิจกรรมมากมาย โดยเฉพาะการทำกิจกรรมการกุศล เพื่อตอบแทนสังคม ซึ่งอยากจะโฟกัสไปที่การช่วยเหลือเด็ก สตรี ผู้ด้อยโอกาส หรือผู้ที่มีความอดอยากในย่านต่างๆของไทย ผ่านโครงการ “รอยยิ้มผ่านเลนส์” เพราะมองว่าโลกเรายังมีความไม่เท่าเทียม เราควรให้โอกาสหรือตอบแทนสังคมบ้าง เพื่อให้สังคมน่าอยู่ และเท่าเทียมกัน

 สำหรับโครงการ“รอยยิ้มผ่านเลนส์” จะเปิดรับองค์กรการกุศลที่ปฏิบัติงานด้านสิทธิมนุษยชน การดูแลสุขภาพ และคุณภาพชีวิตของกลุ่มคนด้อยโอกาส องค์กร หรือหน่วยงานที่สนใจสามารถส่งบทเรียงความที่บอกเล่าเกี่ยวกับการดูแลทรัพยากรมนุษย์ในหน่วยงาน ทั้งมิติด้านสุขภาพร่างกาย การสร้างสุขสมดุลเพื่อชดเชยโอกาสที่คนกลุ่มนี้สูญเสียไปจากการพิการหรือถูกทอดทิ้ง โดยจะเปิดรับเดือน มี.ค.-มิ.ย. ปีนี้ จากนั้น ทิโมธี จะคัดเลือกเรื่องราวด้วยตนเอง พร้อมพบปะพูดคุยและอาสาใช้ทักษะการถ่ายภาพ ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของผู้ด้อยโอกาสเหล่านี้ในลักษณะการติดตามถ่ายภาพแบบ Photo journalist ให้เป็นสื่อกลางในการบอกต่อและเล่าสู่สังคม และผลงานที่ได้จากโครงการ จะถูกคัดเลือกนำมาจัดแสดงนิทรรศการโชว์ และจะส่งมอบให้กับองค์กรการกุศล หรือมูลนิธิที่ได้รับการคัดเลือก เพื่อนำไปใช้ในกิจกรรมต่างๆ ที่จะเกิดประโยชน์ต่อแต่ละองค์กรในอนาคต 

 

ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ นักฟุตบอลสโมสรเซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี กับอริยบทนักดนตรี

 

ผู้สนใจสามารถติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์ ที่ บริษัทมิดัส คอมมิวนิเคชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด [email protected] หรือ [email protected]โครงการ “รอยยิ้มผ่านเลนส์” โดย Tjmothy White หรือติดตามข้อมูลผลงานของทิโมธี ไวท์ ได้ที่ www.timothywhite.com 

 

ภาพถ่ายปารีส ฮิลตัน ผ่านเลนส์ของทิโมธี ไวท์
 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"