เศรษฐกิจแบบแบ่งปัน  (Sharing Economy) ถือเป็นเทรนด์ธุรกิจที่มาแรงมากในยุคนี้  โดยโมเดลธุรกิจแบบนี้ ก็มีสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จมากมาย อาทิ อูเบอร์ และ แกร๊บ ในเรื่องการแบ่งปันการเดินทาง หรือ ในเรื่องการแบ่งปันห้องพัก อย่าง AirBNB

และล่าสุดประเทศไทย ก็มีสตาร์ทอัพ ระดับซีรีส์ B จากประเทศญี่ปุ่น เข้ามาบุกเบิกธุรกิจใหม่ในชื่อ CHARGESPOT (ชาร์จสปอต)  ผู้ให้บริการแชร์ริ่งพาวเวอร์แบงค์ระดับนานาชาติแห่งแรก โดยมีแนวคิดชาร์จที่ไหนก็ได้ คืนที่ไหนก็ได้ ซึ่งปัจจุบัน ชาร์จสปอต เปิดให้บริการกระจายตัวแล้วอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่น ไต้หวันและฮ่องกง  ซึ่งในญี่ปุ่นมีจุดให้บริการ 17,000 จุด ไต้หวัน 10,000 จุด ฮ่องกง 5,000 จุด  โดยบริการนี้ มีพันธมิตรเป็นห้างสรรพสินค้าและร้านค้าชั้นนำ เช่น      ลอว์สัน อิออนเจแปน และชิบูย่า 109  ในญี่ปุ่น  7-11 Hongkong Trade Development Council และ New World First Ferry ในฮ่องกง 

นายทอมป์สัน ชิว กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาร์จสปอต ประเทศไทย กล่าวว่า การที่บริษัทเลือกมาเปิดให้บริการในประเทศไทย  เพราะไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งมีความคุ้นเคยกับบริการประเภทนี้

'ในจีนบริการเช่าใช้พาวเวอร์แบงก์ เป็นหนึ่งในธุรกิจสตาร์ทอัปที่ประสบความสำเร็จ มีจุดให้บริการกว่า 10 ล้านแห่ง ทำให้เชื่อว่าถ้านำบริการเหล่านี้มาให้บริการในเอเชียก็จะสามารถตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าได้เช่นเดียวกัน'

อย่างไรก็ดีในเบื้องต้น ชาร์จสปอต ได้ร่วมมือกับศูนย์การค้ากลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ (ศูนย์การค้าสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม) ด้านธุรกิจจัดส่งพัสดุชั้นนำของประเทศ บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด    ด้านธุรกิจโรงแรม ได้แก่ กลุ่มบริษัทใบหยก ซึ่งมีโรงแรมชั้นนำรวมถึงร้านอาหารในเครือมากมาย   โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ และ ผู้นำด้านธุรกิจสวนน้ำ ได้แก่ สวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล  วางเป้าหมายในการให้บริการมากกว่า 5000 จุด ในปีนี้ เพื่อขยายการให้บริการพร้อมสร้างการรับรู้ในกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ  ก่อนขยายเป็น 15,000 แห่ง ภายในปี 2562  โดยจะขยายไปยังหัวเมืองหลัก อย่าง เชียงใหม่ ภูเก็ต และสมุย ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวต่างๆ 

'ในช่วงแรกคาดว่าลูกค้าที่ใช้บริการส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่เข้ามา ซึ่งส่วนใหญ่คุ้นเคยกับการใช้งานอยู่แล้ว ส่วนลูกค้าชาวไทย บริษัทก็จะพยายามให้เรียนรู้ก่อน และเมื่อในอนาคต ก็จะขยายสัดส่วนเพิ่มขึ้นได้"

สำหรับโมเดลธุรกิจของชาร์จสปอต นอกเหนือไปจากการให้บริการเช่าพาวเวอร์แบงก์ในจุดให้บริการที่มีด้วยกัน 2 รูปแบบคือขนาดเล็กหน้าจอ 7 นิ้ว บรรจุได้ 5 เครื่อง และขนาดใหญ่ 43 นิ้ว บรรจุพาวเวอร์แบงก์ได้ 20 เครื่อง ก็จะเปิดพื้นที่หน้าจอเป็นจุดขายโฆษณาเพื่อต่อยอดการตลาดแบบ O2O

'ร้านค้าหรือพันธมิตรทางธุรกิจที่นำจุดให้บริการชาร์จสปอตไปใช้จะไม่เสียค่าใช้จ่าย ขณะเดียวกันจะได้พื้นที่โฆษณาในแอปพลิเคชัน และอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการอย่างในร้านอาหาร หรือพื้นที่ต่างๆด้วย'

สำหรับค่าบริการในการเช่าใช้พาวเวอร์แบงก์จะอยู่ที่ 3 ชั่วโมงแรก ชั่วโมงละ 15 บาท หลังจากนั้นจนถึง 24 ชั่วโมงไม่คิดค่าบริการเพิ่ม (เหมาวันละ 45 บาท) ส่วนวันถัดๆไปเช่าเหมาในราคาวันละ 30 บาท โดยผู้ใช้จะต้องมัดจำ 450 บาท ที่จะได้รับคืนเมื่อนำไปคืนในจุดให้บริการชาร์จสปอต

ทั้งนี้ ผู้ใช้สามารถนำชาร์จสปอตที่เช่าใช้ไปคืนในจุดให้บริการต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศได้ ซึ่งตอนนี้เปิดให้บริการทั้งในญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง และจะขยายไปยัง สิงคโปร์ มาเลเชีย และอินโดนีเชีย ต่อไป

ส่วนช่องทางชำระเงิน จะเริ่มจากดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Charge Spot ลงทะเบียน เลือกการชำระผ่านบัตรเครดิต เดบิต โมบายแบงก์กิ้ง และอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งต่างๆ รวมถึงช่องทางชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ WeChat Pay LINE Alipay และกระเป๋าเงินออนไลน์ต่างๆ

นายทอมป์สัน กล่าวว่า เรามั่นใจว่า การทำธุรกิจในประเทศไทย จะประสบความไม่ต่างจากญี่ปุ่น ไต้หวัน และฮ่องกง