‘สุรยุทธ์’รักษาการ ประธานองคมนตรี


เพิ่มเพื่อน    

 ในหลวงโปรดเกล้าฯ ให้ผู้แทนพระองค์ไปในการพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม "พล.อ.เปรม" คืนที่สอง "ทูตานุทูตต่างประเทศ" ส่งพวงหรีดเคารพต่อเนื่อง "นายกฯ" นำ ครม.ยืนไว้อาลัยก่อนการประชุม   ขอทุกคนยึดแนวทาง "ป๋า" เกิดมาต้องแทนคุณแผ่นดิน  "หน.สนง.มูลนิธิรัฐบุรุษฯ" เผยเตรียมตั้งผู้จัดการมรดก พร้อมประสานญาติป๋าร่วมตรวจสอบทรัพย์สิน 

    ที่พระที่นั่งทรงธรรม วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม วันที่ 28 พ.ค. ซึ่งเป็นวันที่สองของพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ โดยตั้งแต่ช่วงเช้ามีบุคคลสำคัญ คณะบุคคล ผู้นำหน่วยทหารและประชาชนที่เคารพรัก พล.อ.เปรม ทยอยนำพวงหรีดมาเคารพศพที่ศาลาบัณณรศภาคตลอดทั้งวัน อาทิ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี, พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรี, นายอุกฤษ มงคลนาวิน อดีตประธานรัฐสภา, นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีต รมว.การต่างประเทศ, นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ, คุณหญิงมะลิ มูลศาสตรสาทร, คณะผู้แทนสมาคมชาวสงขลา, คณะผู้แทนสมาคมชาวปักษ์ใต้ในพระบรมราชูปถัมภ์, คณะผู้แทนชมรมชาวบ้าน อ.ระโนด จ.สงขลา ฯลฯ  
    นอกจากนี้ มีผู้แทนบุคคลสำคัญจากต่างประเทศ และทูตานุทูตประเทศต่างๆ ส่งพวงหรีดมาเคารพอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ พลจัตวาขิ่น ซอว์ ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารสถานเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทย เดินทางมาเคารพศพในฐานะผู้แทน พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง ลาย ผบ.ทสส.เมียนมา ผู้ให้ความเคารพนับถือ พล.อ.เปรม เป็นเหมือนพ่อบุญธรรม, นายลี อุค-ฮอน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย และนายชิโร ซะโดะชิมะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
    เวลา 15.00 น. สำนักพระราชวังได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้ขึ้นไปเคารพศพอดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษบนพระที่นั่งทรงธรรมด้วย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้าอาลัย
    จากนั้นเวลา 19.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี รักษาการประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ไปในการพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม ณ พระที่นั่งทรงธรรม โดยมีคณะองคมนตรี ผู้นำหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ตัวแทนเหล่าทัพ รวมถึงบุคคลสำคัญ ตลอดจนประชาชนที่เคารพรัก พล.อ.เปรมมาร่วมไว้อาลัยอย่างคับคั่ง 
    ส่วนที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงคุณูปการของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่ถึงแก่อสัญกรรมว่า ในวันนี้ก่อนการประชุม ครม. ได้มีการยืนไว้อาลัยให้กับ พล.อ.เปรมที่ถึงแก่อสัญกรรม ซึ่งในช่วงนี้เป็นช่วงการบำเพ็ญพิธีศพเป็นเวลา 7 วัน 
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่า พล.อ.เปรมเป็นประธานองคมนตรีใน 2รัชกาล และยังเป็นรัฐบุรุษ ชีวิตในวัยเยาว์ของท่านจนเข้ามารับราชการทหาร ได้ผ่านศึกสงครามมามากมายหลายครั้ง และในทางการเมืองท่านก็เป็นนายกรัฐมนตรีถึง 3 สมัย เป็นผู้ริเริ่มนโยบายอีสเทิร์นซีบอร์ด  ถือเป็นการพัฒนาประเทศในช่วยระยะเวลาที่ผ่านมา จนทำให้ประเทศเรามีรายได้และจีดีพีสูงขึ้น
ยึดตอบแทนคุณแผ่นดิน
    นายกฯ กล่าวว่า พล.อ.เปรมได้ประพฤติตนเป็นแบบอย่างในเรื่องความจงรักภักดี ความซื่อสัตย์สุจริต และวลีที่สำคัญของท่านคือ เกิดมาต้องทดแทนคุณแผ่นดิน ตนคิดว่าวลีดังกล่าวทุกคนต้องยึดมั่นไปด้วยกัน เมื่อเกิดมาทุกคนต้องแทนคุณแผ่นดินที่เราเหยียบ ที่เราอยู่อาศัย ที่ที่ให้เราเกิดและตาย ไม่ว่าจะยากดีมีจนอย่างไร เราก็มีผืนดินของเราที่เป็นเสรีมาโดยตลอด ต้องคำนึงถึงตรงนี้ การที่เราจะไปพูดเอาคนนั้นคนนี้โยงไปโยงมา เอาต่างชาติเข้ามา อย่าลืมแผ่นดินนี้เป็นแผ่นดินของบรรพบุรุษเรา เลือดเนื้อชีวิตถมทับกันมายาวนาน เพราะฉะนั้นอย่าทำ ขอร้องเถอะ ไม่อยากให้ทุกคนมองว่าเป็นศัตรูกันไปกันมา จนบ้านเมืองเสียหาย 
    “ขอให้ทุกคนได้รำลึกถึงท่าน ในสิ่งที่ท่านทำประโยชน์ให้ประเทศไทย อย่างนโยบายที่ได้ออกคำสั่งที่ 66/23 ซึ่งทำให้สถานการณ์ในวันนั้นคลี่คลายลง ผมยืนยันว่าผมก็จะสานต่อสิ่งที่ท่านทำมาในทุกประเด็น ทั้งเรื่องจิตสำนึก จะพยายามปลูกฝัง” นายกฯ กล่าว
     ขณะที่บริเวณด้านหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ ได้มีการจัดเต็นท์ลงนามไว้อาลัย พล.อ.เปรม โดยตลอดทั้งวันมีตัวแทนภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงเดินทางมาร่วมลงนามไว้อาลัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งนำช่อดอกไม้มาไว้อาลัยด้วย
    พล.อ.พิศณุ พุทธวงศ์ หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ กล่าวว่า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกสำหรับพี่น้องประชาชนที่รักเคารพ พล.อ.เปรม จึงได้จัดเต็นท์ลงนามแสดงความไว้อาลัยที่บริเวณด้านหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ จนกว่าจะเสร็จสิ้นพิธีงานศพ ในกรณีที่ประชาชนไม่สะดวกเดินทางไปที่วัดเบญจมบพิตรฯ เพราะเมื่อวันที่ 27 พ.ค. มีประชาชนไปต่อคิวรดน้ำที่หน้ารูปภาพที่โยงสายสิญจน์จากศพ พล.อ.เปรม บนพระที่นั่งทรงธรรมมาที่ศาลาบัณณรศภาคนั้นมีเป็นจำนวนมาก ดังนั้นหากประชาชนที่ต้องการระลึกถึง พล.อ.เปรม สามารถมาลงนามได้ที่หน้าบ้านสี่เสาฯ 
    "ภาพที่นำมาติดไว้ที่เต็นท์นั้นเป็นภาพ พล.อ.เปรมเล่นเปียโนในคอนเสิร์ต รักเพลง รักแผ่นดิน ณ หอแสดงดนตรี มหิดล สิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล 9 พ.ย.2557" พล.อ.พิศณุกล่าว
    หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษฯ กล่าวถึงกรณีพล.อ.เปรมต้องการบริจาคเงินที่สะสมมาจัดทำเป็นโครงการเพื่อสาธารณประโยชน์ว่า ความตั้งใจเดิมของพล.อ.เปรม ต้องการทำโครงการที่เกี่ยวกับด้านการศึกษาและอื่นๆ ที่ทันสมัยและถาวร ตนจึงได้ไปปรึกษา พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ ประธานมูลนิธิรักเมืองไทย ทาง พล.อ.มงคลก็คิดว่าน่าจะจัดเป็นโครงการช่วยเหลือทางด้านการแพทย์ โดยจัดตั้งเป็นศูนย์การศึกษาเกี่ยวกับเรื่องโรคหัวใจ ซึ่งมีคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ เข้าร่วม โดยนายบัญญัติ จันทน์เสนะ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และอดีต รมช.มหาดไทย เสนอว่าควรไปจัดสร้างที่คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่ง พล.อ.มงคลได้นำข้อคิดเห็นมาหารือกับ พล.อ.เปรม แล้วยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะมีการทำโครงการนี้หรือไม่ และจะจัดตั้งขึ้นที่ใด
เตรียมตั้งผู้จัดการมรดก
    พล.อ.พิศณุกล่าวว่า ก่อนหน้าที่ท่านจะเสียชีวิตประมาณ 7 วัน พล.อ.เปรมได้เรียกตนไปพบ และบอกว่าขอเพิ่มเป็นโครงการที่ช่วยเหลือคนจน จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเกษตรที่เป็นเรื่องถาวรด้วย แต่ทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล เพียงแต่เป็นการไปขอความคิดเห็นจากนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ส่วนข้อสรุปคงต้องรออีกสักระยะ ขณะนี้จึงมีสองส่วนคือโครงการศูนย์การแพทย์และโครงการช่วยคนยากจนก่อน ซึ่งนายวิษณุบอกว่าอยากให้ทำโครงการช่วยเหลือคนยากคนจนก่อน แต่ถ้ามีข้อติดขัดหรือยากลำบาก ก็จะเป็นโครงการเกี่ยวกับการแพทย์เหมือนเดิม
    “เป็นส่วนที่หารือกันไว้พักใหญ่แล้ว เพื่อเตรียมดำเนินการในช่วงที่ท่านอายุครบ 99 ปี จะขึ้น 100 ปี แล้ว ท่านก็บอกว่าให้ผมรับเงินไปเลย ผมก็บอกว่าขอไปคิดเรื่องโครงการให้ได้ก่อน และดูว่าใครจะเป็นคนดำเนินการ โดยท่านบอกว่าอยากให้โครงการอยู่ในมูลนิธิที่มีชื่อตัวท่านด้วย ผมก็บอกว่าจะมีมูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรมฯ ที่มี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นประธาน กับมูลนิธิสวนประวัติศาสตร์ พล.อ.เปรมฯ จ.สงขลา ซึ่งนายวิษณุเป็นประธาน” พล.อ.พิศณุกล่าว
    ถามว่าส่วนที่บริจาคทำโครงการ รวมถึงทรัพย์สินอื่นด้วยหรือไม่ พล.อ.พิศณุกล่าวว่า เฉพาะเงินสดในบัญชีเงินฝากที่ท่านเก็บมาตั้งแต่เป็นนายทหาร นายกรัฐมนตรี และจากตำแหน่งที่ปรึกษาภาคเอกชน ที่ผ่านมาท่านก็จะบริจาคให้ทุนการศึกษาเด็กยากจนและมาขอความช่วยเหลือ สำหรับการถอนเงินออกมาจากบัญชีเป็นเรื่องขั้นตอนกฎหมาย เพราะเกี่ยวกับเรื่องมรดก คาดว่าท่านไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ เพราะเมื่อ 6 เดือนก่อนเคยถามตนว่า ท่านควรเขียนพินัยกรรมหรือไม่ ตนก็ไม่ได้ตอบ แต่หลังจากนั้นได้ทำไว้หรือไม่นั้นตนไม่ทราบ ต้องรอญาติเป็นพยานมาตรวจสอบ 
    "ขณะนี้ก็หารือกับฝ่ายกฎหมายเรื่องการตั้งผู้จัดการมรดก แต่เบื้องต้นต้องไปสืบดูว่าญาติที่ใกล้ที่สุดเป็นใคร เพราะท่านไม่มีลูก ไม่มีครอบครัว ก็ต้องไปดูทางครอบครัวของพี่น้องว่าใครใกล้ที่สุด นักกฎหมายก็บอกว่าทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นลูกของพี่ หรือของน้อง ต้องถือเอาคนแรก ส่วนใหญ่ญาติท่านก็อยู่กรุงเทพฯ ซึ่งผู้จัดการมรดกจะเป็นญาติหรือไม่ใช่ญาติก็ได้" พล.อ.พิศณุกล่าว
    ถามถึงที่มีการโพสต์ข้อความโจมตี พล.อ.เปรมในโซเชียลมีเดีย หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษฯ กล่าวว่า กรณีของผู้เสียหายขณะนี้ไม่มีชีวิตแล้ว เรื่องกฎหมายบ้านเมืองก็ว่ากันไป เห็นควรทำก็ว่ากันไป แต่เราไม่ได้อะไร สิ่งที่โพสต์ออกมาถ้าไม่จริงก็คือไม่จริง ก็พิสูจน์ได้ว่าไม่จริง คนที่โพสต์ก็รู้ว่าเขาบิดเบือนหรือไม่ อย่าโกหกตัวเองจนเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง ถ้าถามว่าคนที่โพสต์รู้หรือไม่ว่าความจริงคืออะไร ตนคิดว่าคนนั้นรู้ดี แต่เป็นการเมือง 
    วันเดียวกัน นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงว่า สำนักงาน ป.ป.ช.ขอแสดงความเสียใจและน้อมรำลึกถึง พล.อ.เปรม ซึ่งนับเป็นวันที่คนไทยสูญเสียบุคคลสำคัญของชาติไทย ซึ่งท่านเป็นต้นแบบของคนดี มีความซื่อสัตย์ และปลุกจิตสำนึกคนไทยให้รังเกียจและยับยั้งการโกงเพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน จะเห็นได้จากการที่ พล.อ.เปรมได้กล่าวตอนหนึ่งในงานปาฐกถาพิเศษ “ประเทศไทย…โปร่งใสได้อย่างไร” เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2558 เนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย) ที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ ถึงเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันที่เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศว่า การคอร์รัปชันเป็นสิ่งที่ตนเกลียดที่สุด เพราะเป็นการปล้นชาติ ดังนั้นหากจะขจัดปัญหานี้ให้หมดไป ต้องไม่ยอมให้คนไม่ดีมานั่งปล้นชาติทุกวัน ต้องหาทางกำจัด ตัวเวร ตัวน่ารังเกียจให้หมดจากประเทศ
    ช่วงค่ำวันเดียวกัน มีประกาศพระบรมราชโองการ เรื่อง แต่งตั้งผู้รักษาการประธานองคมนตรี 
    พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า 
    ตามที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ เป็นประธานองคมนตรี ตามประกาศพระราชโองการลงวันที่ 2 ธันวาคม 2559 แล้วนั้น
    บัดนี้ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ถึงแก่อสัญกรรม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม 2562 
    อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 10 มาตรา 11 มาตรา 14 และมาตรา 15 ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นผู้รักษาการประธานองคมนตรี
    ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม พุทธศักราช 2562 ประกาศ ณ วันที่ 27 พฤษภาคม พุทธศักราช 2562 เป็นปีที่ 4 ในรัชกาลปัจจุบัน.    


 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"