เอ็งชั่วข้าเลว!'ปิยบุตร'แก้เกมบีบ'ชวน'ส่งชื่อ30ส.ส.ขั้วพปชร.ให้ศาลรธน.สั่งยุติทำหน้าที่ฐานถือหุ้นสื่อ


เพิ่มเพื่อน    

4 มิ.ย.62- นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า ส.ส. อีกอย่างน้อย 30 คนมีปัญหาเรื่องการถือหุ้นสื่อ 

เมื่อเดือนที่แล้ว ผมได้แถลงข่าวกรณี “หุ้นวี-ลัค” ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ไว้ว่า หากคณะกรรมการการเลือกตั้งส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ และศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้อง พรรคอนาคตใหม่ขอสงวนสิทธิในการใช้ช่องทางตามรัฐธรรมนูญร้องขอให้มีการตรวจสอบสมาชิกภาพ ส.ส. ของพรรคอื่น อันเนื่องมาจากการถือหุ้นสื่อ เพื่อสร้างมาตรฐานการใช้กฎหมายที่เท่าเทียมกัน

วันนี้ ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ จึงใช้ช่องทางตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 เข้าชื่อเสนอคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อส่งต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาสมาชิกภาพของ ส.ส. เนื่องจาก “เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ”

รายชื่อ ส.ส. ที่เรายื่นคำร้องตรวจสอบ ประกอบไปด้วย ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ 27 คน ส.ส. พรรครวมพลังประชาชาติไทย 1 คน ส.ส.พรรคชาติพัฒนา 1 คน และส.ส.พรรคประชาภิวัฒน์ 1 คน

กรณีนี้ หากประธานสภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบรายชื่อ ส.ส. ผู้เข้าชื่อครบจำนวน 1 ใน 5 ขึ้นไป ประธานสภาผู้แทนราษฎรก็ไม่มีดุลพินิจอื่นใดนอกจากเสนอคำร้องต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งโดยปกติแล้ว ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาเพียงไม่กี่วันเท่านั้น

กรณีคำร้องดังกล่าวจะเป็นโอกาสพิสูจน์มาตรฐานการใช้กฎหมายขององค์กรของรัฐในประเทศไทย ในสองประเด็น

ประเด็นแรก มาตรฐานในการพิจารณาว่า ส.ส.เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ หรือไม่

ก่อนวันเลือกตั้ง ศาลฎีกาได้พิพากษาเพิกถอนสิทธิการสมัครรับเลือกตั้งของนายภูเบศวร์ เห็นหลอด ผู้สมัคร ส.ส. จ.สกลนคร เขต 2 พรรคอนาคตใหม่ และนายเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ ผู้สมัคร ส.ส. จ.อ่างทอง พรรคประชาชาติ เพราะเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ จึงมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98 (3)

โดยทั้งสองกรณีนี้ ศาลพิจารณาจากหนังสือวัตถุประสงค์ของบริษัทที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าว่า มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชน ได้แก่ “ประกอบกิจการค้ากระดาษ เครื่องเขียน แบบเรียน แบบพิมพ์ หนังสือ อุปกรณ์การเรียน เครื่องคำนวณ เครื่องพิมพ์ อุปกรณ์การพิมพ์ สิ่งพิมพ์ หนังสือพิมพ์ ตู้เก็บเอกสาร และเครื่องใช้สำนักงานทุกชนิด” “ประกอบกิจการโรงพิมพ์ รับพิมพ์หนังสือ พิมพ์หนังสือจำหน่าย และออกหนังสือพิมพ์” “ประกอบกิจการสถานีวิทยุกระจายเสียงและ โทรทัศน์ รับจัดทำสื่อโฆษณา สปอร์ตโฆษณา เผยแพร่ข้อมูล”

หากใช้บรรทัดฐานจากกรณี นายภูเบศวร์ เห็นหลอด และนายคมสันต์ ศรีวนิชย์ จะพบว่ามี ส.ส.จำนวนมากที่ถือหุ้นหรือประกอบกิจการในบริษัทหรือ หจก. ที่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการประกอบกิจการสื่อ ถือว่ามีลักษณะต้องห้ามของการเป็น ส.ส.

มีบุคคลไปยื่นคำร้องต่อ กกต.ให้ส่งเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบ ส.ส. เหล่านี้ แต่ยังไม่มีเรื่องใดที่ กกต. ส่งไปศาลรัฐธรรมนูญเลย เว้นกรณีเดียว คือ กรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

ดังนั้นเพื่อให้ได้มาตรฐานที่เท่าเทียมกัน ในเมื่อ กกต. ไม่ส่งเรื่องของ ส.ส. คนอื่นๆ ไปศาลรัฐธรรมนูญเสียที ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ก็ขอช่วยงาน กกต. อาสาเข้ามาเสนอคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎร

ประเด็นที่สอง มาตรฐานในการสั่งรับคำร้องและสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. เป็นการชั่วคราว
คณะกรรมการการเลือกตั้งยื่นคำร้องกรณีนายธนาธร ต่อศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม และศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องในวันที่ 23 พฤษภาคม พร้อมกับสั่งให้นายธนาธรยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ชั่วคราว โดยตามข่าวศาลรัฐธรรมนูญแจ้งว่า ศาลรัฐธรรมนูญให้เหตุผลว่า “ปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่านายธนาธร ฯ มีกรณีตามที่ถูกร้อง ประกอบกับการปฏิบัติหน้าที่ของนายธนาธร ฯ อาจก่อให้เกิดปัญหาข้อกฎหมายและการคัดค้านโต้แย้งเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงานสำคัญของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้”

หากใช้บรรทัดฐานเดียวกันกับกรณีนายธนาธร ศาลรัฐธรรมนูญก็น่าจะมีคำสั่งรับคำร้องภายใน 7 วัน และสั่งให้ ส.ส. 30 คนนี้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ชั่วคราวเช่นเดียวกัน

ก็ในเมื่อกรณีนายธนาธรได้โอนหุ้นไปแล้วตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2562 แต่มีคนตั้งข้อสงสัยว่ายังไม่ได้โอน จึงมีกระบวนการร้องกันเรื่อยมาจนมาถึงศาลรัฐธรรมนูญ แล้วศาลรัฐธรรมนูญก็มีคำสั่งรับคำร้องได้ กรณี 30 ส.ส. ศาลรัฐธรรมนูญก็คงไม่ใช้มาตรฐานที่แตกต่างกัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 30 ส.ส. จะเข้ามามีส่วนร่วมในการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีด้วย หาก ส.ส. 30 คนนี้ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ ย่อมส่งผลโดยตรงต่อการเลือกนายกรัฐมนตรีและการจัดตั้งรัฐบาล
เราเรียกร้องให้มีการใช้กฎหมายในมาตรฐานเดียวกัน ข้อเท็จจริงเหมือนกัน ก็ต้องปฏิบัติเหมือนกัน ข้อเท็จจริงต่างกัน ก็ต้องปฏิบัติต่างกัน

ถ้าธนาธรโดน คนอื่นๆ ที่มีข้อเท็จจริงแบบเดียวกันก็ต้องโดน ถ้าคนอื่นๆ ที่มีข้อเท็จจริงแบบเดียวกันไม่โดน ธนาธรก็ต้องไม่โดน.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"