ลูกสาวเสี่ยเจริญเตรียมนำ AWC เข้าตลาดหุ้นระดมเงินขยายธุรกิจโรงแรม


เพิ่มเพื่อน    

 

12 มิ.ย. 2562 นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC) เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นไฟลิ่งเพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนครั้งแรก (IPO) ในเมื่อเช้าวันนี้ ซึ่งจะเสนอขายหุ้น IPO ไม่เกิน 6,957 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 22.47% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่ออกและจำหน่ายแล้วของบริษัท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1 บาท/หุ้น และอาจมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกินไม่เกิน 1,043 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 15% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายในครั้งนี้ เพื่อรองรับหากมีผู้จองซื้อหุ้นมากกว่าหุ้นที่เสนอขาย หรือใช้เป็นหุ้น Green Shoes

สำหรับวัตถุประสงค์ของการเสนอขาย IPO ในครั้งนี้ของบริษัทเพื่อใช้เป็นเงินลงทุนในการเข้าซื้อกิจการที่เป็นเจ้าของทรัพย์สินกลุ่ม 3 และใช้ในการลงทุน พัฒนา และ/หรือ ปรับปรุงทรัพย์สินของบริษัท และ/หรือ บริษัทย่อย โดยที่บริษัทมีแผนลงทุนธุรกิจโรงแรมเพิ่มอีก 12 โรงแรม ซึ่งอยู่ระหว่างการเตรียมการลงทุน พร้อมกับชำระคืนเงินกู้ยืมให้กับธนาคาร และ/หรือตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกโดยบริษัทและ/หรือ บริษัทย่อย และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ

ส่วนแอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น หรือ AWC จะมุ่งเน้นด้วยกันสองกลุ่มหลัก ได้แก่ 1. กลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ และ 2. กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ โดยข้อมูล ณ วันที่ 31 มี.ค. 2562 ในกลุ่มธุรกิจโรงแรมและบริการ บริษัทเป็นเจ้าของโรงแรมทั้งสิ้น 15 แห่ง ดำเนินงานแล้ว 10 แห่ง อยู่ระหว่างการพัฒนา 5 แห่ง โดยกระจายตัวอยู่ในกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทย

ทั้งนี้ ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ในปี 2561 ที่ผ่านมามีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมายังประเทศไทยกว่า 38 ล้านคน โดยในอดีตจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี นอกจากนี้ยังเป็นจุดหมายปลายทางของการทำกิจกรรมสันทนาการ การพักผ่อน และการใช้ชีวิต ทำให้อุตสาหกรรม การท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตสูงอีกด้วย

นางวัลลภา กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ แบ่งเป็น 2 กลุ่มย่อย ได้แก่ 1. กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อประกอบกิจการการค้า รวมทั้งสิ้น 10 แห่ง ดำเนินงานแล้ว 8 แห่ง และอยู่ระหว่างการพัฒนา 2 แห่ง รวมทั้งมีโครงการในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อกิจการค้าปลีกอีก 2 แห่ง และ 2. กลุ่มธุรกิจอาคารสำนักงาน จำนวน 4 แห่ง โดยที่ดินส่วนใหญ่ AWC เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ (Freehold)

อย่างไรก็ดี ในปี 2561 บริษัทมีรายได้จากธุรกิจหลักรวม 10,998.64 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจาก 2 กลุ่มธุรกิจ แบ่งเป็นรายได้จากกลุ่มธุรกิจโรงแรมและบริการ 60% และรายได้จากกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ป 40%


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"