คุณพ่อของนักร้องสาว น้ำตาล เดอะสตาร์ หรือ บุตรศรัณย์ ทองชิว เปิดใจหลังจากที่ลูกสาวได้จากไปอย่างสงบตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา ณ โรงพยาบาลศิริราช โดยคุณพ่อและทางครอบครัวกำลังอยู่ในขั้นตอนการตัดสินใจว่าจะมอบชิ้นเนื้อบางส่วนให้เพื่อช้ในกรณีศึกษาทางการแพทย์หรือไม่

          “เมื่อคืนประมาณเที่ยงคืนคุณหมอเรียกแม่น้องไปพบ ขอคำปรึกษาอาการน้องน้ำตาล เนื่องจากน้ำตาลหัวใจหยุดเต้น การเต้นของหัวใจและอวัยวะร่างกายอยู่ได้ด้วยยา แต่อยู่ๆมันหยุดเต้น หมอบอกว่าสาเหตุมาจากสมอง สมองน้องเสียหายหมด ก็ลองยื้อไปเผื่อมีปาฏิหารย์ หมอก็ทรมานเราก็ทรมาน ก็ต้องมีสิ่งไปกระตุ้น ไปกระซิบนั่นนี่ และน้ำผึ้งเขาก็เอาเพลงของหลาน น้ำตาลมีหลานรักอยู่คนนึง บ้านเรามีหลานคนเดียว สามขวบกว่า น้ำตาลเคยสอนเขาร้องเพลงฝรั่งไว้เพลงนึง แล้วน้ำผึ้งก็เอามาเปิดข้างหูน้ำตาล ผมเชื่อว่าน้ำตาลได้ยิน แต่เนื่องด้วยร่างกายไม่ไหว พอร่างกายไม่ไหวจิตต่างๆก็อยู่ไม่ได้

          ตั้งแต่เกิดเหตุ น้ำตาลยังไม่ฟื้นเลย ผมหวังว่าอะไรก็ได้นิดนึง นิ้วกระดิก อะไรก็ได้ ผมพยายามทำใจอยู่ แต่เวลาที่เราอะไรที่มันผูกพันเราเราก็จะรู้สึก ถ้าใครรู้จักน้ำตาลก็จะเหมือนผม น้ำตาลก็เหมือนเด็กผู้หญิงทั่วไป มีความชอบศิลปะสูง เขียนรูปก็ชอบ ถ่ายรูปก็ชอบ ร้องเพลงนี่คือที่หนึ่ง การแสดงก็ทำได้

 

 

          เขาทำเพลงไว้เพลงนึง เป็นเพลงนี่น้ำตาลทำด้วยตัวเอง ไม่เคยปรึกษาผม พร็อพ อาร์ต การถ่าย เราทำงานตรงนี้แต่เขาไม่เคยมาปรึกษา แต่ผมเชื่อว่าเขาทำได้ บางอย่างเก่งกว่าเราอีก แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้ชื่นชม เขาทำเพื่อคนที่ชอบนวนี้ มันจะเป็นเพลงวินเทจหน่อย ฟังสบาย น้ำตาลเป็นคนติสมาก ถ้าไม่คือไม่ แต่ถ้าหน้ากล้อง หน้าสื่อ เขาจะเป็นอีกคนเลย เขาจะทำให้ดีที่สุด เขาเป็นคนชอบเที่ยวมาก น้ำตาลไม่ใช่ผู้หญิงใช้ของแพง เสื้อผ้าเขานี่แสนจะถูก เขาซื้อเสื้อผ้าชั่งกิโล เขาบ้าหนังสือ ชอบมาก ซื้อหนังสือ ซื้อดินสอ ทอยสตอรี่นี่ชอบมาก สะสม และหวงมาก

          วันที่น้ำตาลป่วยคือวันจันทร์ช่วงเช้าผมไม่เจอเขา เราพักคนละที่ แต่ก่อนหน้านั้นเจอกัน ไปกินข้าวกัน เราก็โชว์งานของเราให้ดู เขาก็บอกสวยนะพ่อ พ่อน่าจะแฮสแท็กนั่นนี่ เราคุยกันปกติ ไม่มีสัญญาณบอกเลยว่าน้องป่วย วันรุ่งขึ้นผมก็เขียนรูปปกติ ถ้าไม่มีถ่ายหนังก็จะเขียนรูป แม่น้ำตาลโทรมาบอกว่าน้ำตาลไม่หายใจ เลือดออกเต็มปาก เราก็รีบไป เจอน้ำตาลอยู่บนรถพยาบาล แม่เขาก็เลือดเต็มตัว แล้วตั้งแต่วันนั้นก็ไม่ได้เห็นน้ำตาลลุกขึ้นมาอีกเลย

 

 

          เราไม่รู้เลือดมาจากไหน แต่เลือดมันโชว์อยู่ตามหลอดลม ในปอด ตามอะไรก็จะพันพันอยู่ในนี้ มันวิเคราะห์ยาก  หมอเขาเลยอยากได้ชิ้นเนื้อชิ้นเล็กๆหลายๆส่วนไปศึกษาแต่ไม่ได้อยากได้ร่างนะ เผื่อวันข้างหน้ามีใครเป็นแบบนี้จะได้รักษาได้ถูก ผมไม่รู้จะเรียกโรคอะไร ก็เรียกโรคน้ำตาล คนก็ถามว่าน้ำตาลเป็นอะไร ผมก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร ดีที่สื่อลง คนก็พอจะเข้าใจ จริงๆทุกคนอาจจะมีอยู่ แต่ของน้ำตาลมันไปอยู่ในที่ลึกๆซึ่งยากต่อการปิดแผล

          ส่วนจะให้น้องไปใช้ในการเป็นกรณีศึกษาทางการแพทย์ไหม ที่แรกว่าจะให้แต่ทางแม่น้องก็กังวล ผมตอบไม่ได้ ต้องให้แม่เขาตัดสินใจ แต่ถ้าถามผมใจผมให้ เพื่อต่อไปคนอื่นที่เป็นแบบนี้ คุณแม่เป็นใหญ่เพราะเขาเลี้ยงเขามา เราเป็นตัวประกอบ แต่ไม่ใช่ตัวประกอบไม่มีค่านะ แต่ลูกผู้หญิงเขาจะติดแม่ เราก็ทำงานอยู่ในบ้านนั่นแหละ แต่สามสาวเขาติดแม่ และเดี๋ยวเราจะไปบำเพ็ญกุศลที่มหาชัย วัดป้อมวิเชียรโชติการาม อยู่หลังศาลากลาง เราสะดวกวัดนี้ ตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่”