บันทึกหน้า4


เพิ่มเพื่อน    

      วันนี้ 8 กรกฎาคม ครบกำหนดที่ศาลรัฐธรรมนูญขยายเวลา 30 วัน ให้ "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ยื่นคำชี้แจงกรณีถือครองหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ประกอบธุรกิจสื่อ อันเป็นลักษณะต้องห้ามมิให้สมัครเป็น ส.ส. และอาจเป็นเหตุให้ต้องสิ้นสุดสมาชิกภาพ ส.ส.ลง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) เมื่อเกมซื้อเวลาหมดลง ต้องจับตา "ธนาธร" จะเปิดเกมใหม่หรือไม่ ...๐

      แต่คำให้สัมภาษณ์ก่อนนี้ยังล่องลอยอยู่ "ถ้า ส.ส.คนอื่นไม่ถูกตัดสินว่าผิด เพราะแค่จดทะเบียน ไม่ได้ทำสื่อจริง ของผมก็ไม่ผิด บริษัทที่ผมถือหุ้นสื่ออยู่หยุดทำสื่อ ไม่มีพนักงาน เลิกจ้าง เตรียมปิดบริษัทตั้งแต่ 25 พ.ย.61 แล้ว แต่ถ้าทุกคนรอดหมด ผมผิดคนเดียว ก็จะทำให้ประชาชนตาสว่าง เห็นองคาพยพในสังคมว่า องค์กรไหนหนุนการสืบทอดอำนาจของ คสช." นี่คือคำพูดของคนที่รู้ตัวเองดีว่าผิด เพราะคนที่ทำทุกอย่างถูกต้อง จะไม่สร้างเงื่อนไขใหม่ขึ้นมา เจ้าตัวก็รู้ว่ากรณีของ ส.ส.คนอื่นแค่จะทะเบียนประกอบธุรกิจสื่อ แต่ไม่ได้ทำธุรกิจจริง แต่ตัวเองทำจริง นั่นคือประเด็นหลัก ส่วนจะเลิกตอนไหน ขาดทุนเท่าไหร่ ทำไมต้องโอนหุ้นให้แม่แบบทุลักทุเล คือส่วนประกอบ แต่ก็มีส่วนชี้เป็นชี้ตายเช่นกัน ...๐

      การเมืองมันก็เป็นแบบนี้ อ่านคำสัมภาษณ์ของ ช่อ-พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ในแทบลอยด์ไทยโพสต์ ท่อนหนึ่งเธอบอกว่า ช่อตกใจเรื่องหนึ่งนะ ช่อเคยไปคุยกับอดีตนายกฯ ที่ได้รับการยกย่องมากท่านหนึ่ง และยังมีชีวิตอยู่ ท่านยังบอกเลยว่า คุณไม่ต้องไปคิดมากนะ เรื่องแบบนี้จะไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่คุณโดน ผมยังเคยถูกหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์มาแล้วเลย"

      อดีตนายกฯ ท่านที่ว่าไม่ใช่ใครอื่น คือ อานันท์ ปันยารชุน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ในปี 2519 แต่กลับถูกสั่งพักราชการในปี 2520 เนื่องจากถูกกล่าวหาโดยรัฐบาลขวาจัดของธานินทร์ กรัยวิเชียร ว่ามีแนวคิดฝักใฝ่ลัทธิคอมมิวนิสต์ แต่ที่แปลกประหลาดคือวันนี้คุณอานันท์กลับถูกผู้สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ รวมไปถึงฝ่ายระบอบทักษิณกระแนะกระแหนอยู่เรื่อยว่า เป็นพวกเดียวเผด็จการ คสช. เรื่องนี้สะท้อนการมองสังคมอย่างไร้มิติ และเป็นต้นตอของความขัดแย้งในปัจจุบัน ที่มักมองแค่เรื่องคิดเหมือนกันคือพวก คิดต่างไม่ใช่พวก ...๐

      ชัดเจน "กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ" ยืนยัน "หม่อมเต่า-ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล" ทำงานได้หมดไม่ว่าตำแหน่งไหน แต่รอมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ  ลงมาว่าจะดำรงตำแหน่งใด เมื่อมีประกาศลงมาแล้ว ก็ทำงานในตำแหน่งนั้น ไม่มีเรื่องการต่อรองตำแหน่งเสนอให้ทำอะไร หรือแม้ไม่ให้อะไรเลย ก็ทำหน้าที่ต่อไปได้ไม่มีปัญหา...น่าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลพรรคเดียวที่ไม่สร้างปัญหา ทั้งที่ถูกลดเกรด ตั้งแต่ รมว.การคลัง มาเป็น รมว.แรงงาน สุดท้ายไปจบที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ...๐

      การเมืองเรื่องมวลชนหลังจากนี้น่าจะหมดยุค นปช.ไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่ามีความพยายามรักษาสถานะ หรือจะเรียกว่าสืบทอดอำนาจคงไม่ผิดนัก "จตุพร พรหมพันธุ์" จึงพยายามแสดงบทบาทประธาน นปช. เพื่อไม่ให้มวลชนเสื้อแดงลืมว่า ยังมีองค์กรที่เรียกว่า นปช.อยู่   เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมามีพิธีวางศิลาฤกษ์ที่บริเวณจุดก่อสร้างที่ทำการสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม “พีซทีวี” (ใหม่) แห่งใหม่ ซอยรามอินทรา 40 ภาพที่ฉายออกมานอกจากประกาศศักดาว่า นปช.ยังอยู่แล้ว "จตุพร" ยังมีเงินมากพอที่จะสร้างสำนักงานสถานีโททัศน์ ซึ่งต้องใช้เงินก้อนไม่น้อยเลยทีเดียว ...๐

      ในฐานะคนทำสื่อบอกได้ว่าเป็นเรื่องแปลก เพราะสื่อทีวียุคนี้ ไม่ใช่ที่ขุดทอง แต่เป็นที่ถมเงิน "จตุพร" กลับมุ่งมั่นที่จะทำสื่อ ฉะนั้นจุดประสงค์จึงไม่ใช่การทำกำไรแน่นอน แต่เพื่อ "การเมือง" และเมื่อบรรลุผลทางการเมืองแล้ว จะนำไปสู่จุดประสงค์อะไร ก็คงต้องดูกันยาวๆ แต่สุดท้ายแล้ว "จตุพร" จะตกอยู่ในสภาวะขาดทุนทั้งทางการเงินและการเมืองเสียมากกว่า เนื่องจากมวลชนเสื้อแดงแปลงร่างเป็นน้องฟ้าของพ่อธนาธรไปเสียเกือบหมดสิ้นแล้ว ดูได้จากผลการเลือกตั้ง ที่พรรคเพื่อชาติได้ ส.ส.แค่ 5 คนเท่านั้น ...๐ 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"