
อือมม์ม์ม์...เห็นว่าระดับอดีตองครักษ์พิทักษ์กฎ คู่บุญ-คู่บารมี ของ นายใหญ่ อย่าง เฮียเพ้ง-พงษ์ศักดิ์ จู่ๆ ก็ตัดสินใจประกาศ ล้างมือในอ่างทองคำ ซะเฉยเลย ทั้งๆ ที่อายุแค่ 69 ปีเท่านั้นเอง ยังห่างจากนักการเมืองอย่างนายกฯ มหาธีร์ ของมาเลเซีย ที่สามารถหวนกลับมาทวงคืนอำนาจ ขณะอายุ-อานามปาเข้าไป 90 กว่าๆ ไม่รู้กี่ต่อกี่สิบปี แต่ดันกลับคิดว่าตัวเอง แก่แล้ว เลย เบื่อแล้ว-ไม่เอาแล้ว หรืออยากจะพักผ่อนเต็มที...
---------------------------------------------------
ซึ่งอันนี้...ถ้ามองกันในแง่ ความเป็นมนุษย์ คงต้องขอร่วมอนุโมทนา ร่วมแสดงความปลาบปลื้ม ยินดี เอาไว้ ณ ที่นี้ เพราะไม่ว่าอายุเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ก็เถอะ ถ้าลองยังวนไป-วนมา อยู่ในเรื่องการเมือง อยู่ในแวดวงยุทธจักรแล้วล่ะก็ มีแต่ต้องยอมเจ็บ ยอมปวด ยอมรวดร้าวทรมานกันไปโดยตลอดนั่นแหละ ไม่เว้นเด็ก เว้นผู้ใหญ่ เว้นคนแก่ คนชรา ถ้าหากยังกุมกระบี่ ถือกระบี่ เอาไว้ในมือ โอกาสที่จะเลือดตก ยางออก กระอักโลหิตออกมาเป็นลิ่มๆ เบิ่งตาจนหางตาฉีกขาด ย่อมเป็นไปได้เสมอๆ มีแต่ต้องซ่อนกระบี่เอาไว้ที่ใจ หรือไม่มีใจก็ย่อมไม่มีกระบี่ อะไรทำนองนั้น ถึงพอจะได้พัก ได้ผ่อน ได้สบายๆ เหมือนอย่างมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดากะเค้าซะที...
--------------------------------------------------------
อย่างไรก็ตาม...การที่ เฮียเพ้ง-พงษ์ศักดิ์ ตัดสินใจ พ้นพงหนาม ไปอีกซะคน คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้นั่นแหละว่า น่าจะส่งผลให้พรรคตะวัน-จันทรา ของ ตงฟางปุ้กป้าย หรือพรรคเผาไทยภายใต้ยี่ห้อ นายใหญ่ นั้น คงต้องลดทอนศักยภาพลงไปมั่งไม่มากก็น้อย ส่วนตัว นายใหญ่ เอง จะตัดสินใจล้างมือในโถ อเมริกัน สแตนดาร์ด ไปด้วยหรือไม่ อย่างไร และเมื่อไหร่ อันนั้น...คงเป็นเรื่องที่ยากแท้หยั่งถึง แต่เมื่อมาถึง ณ ขณะนี้ คงต้องยอมรับเอาจริงๆ นั่นแหละว่า...โดยรูปมวย ทางมวยของ นายใหญ่ นั้น ออกจะเป็นอะไรที่ลดความ อันตราย ลงไปเกือบครึ่งต่อครึ่ง คือเป็นทางมวยที่ฝ่ายตรงข้าม จับติด มาโดยตลอด ยิ่งคิดเดินเข้าสู่ ร่องแข้ง คู่ต่อสู้ แบบชนิด ไม่เจ็บนอนไม่หลับ ต่อไปเรื่อยๆ สู้หันไปล้างมือ หรือล้างก้น น่าจะเข้าท่ากว่าเป็นไหนๆ...
--------------------------------------------------------
ประกอบกับองครักษ์พิทักษ์กฎซ้าย หรือบรรดาฮู่ฮวบและจงก้วง ทั้งหลาย...ถ้าหากไม่แก่แล้ว แก่แรด ไม่น้อยไปกว่า เฮียเพ้ง ก็ดันไม่มีเวที ไม่มีสนามให้เล่น ซะอีกต่างหาก คืออยู่ในสภาวะ หัวหาย กันไปทั้งแถบ ทั้งยวง โดยเฉพาะเมื่อในสภาฯ ไม่มี เฉลิม ซะอย่าง ในทะเลก็คงไม่ต้องกลัว ฉลาม อีกต่อไป ไม่ว่า เรือแป๊ะ จะเป็นเรือไม้ หรือเรือเหล็ก ถ้าหากต้องล่มกลางทะเลขึ้นมาเมื่อไหร่ อย่างน้อย...ก็คงไม่ต้องกลัวฉลามโผล่ขึ้นมางาบ หรือโผล่ขึ้นมาตอดโน่น ตอดนี่อีกต่อไปแล้ว เหลือแต่อาจต้องคอยเขี่ยๆ แมงกะพรุนไฟ หรือปลาปักเป้า ที่อาจคอยกัดจู๋ หรือคอยตอดพวงองุ่นกันทีละใบ-สองใบ เท่านั้นเอง...
--------------------------------------------------------
คือบรรดาพวก มือกระบี่รุ่นใหม่ นั้น...คงต้องยอมรับเอาจริงๆ นั่นแหละว่า ไม่ถึงกับลึกล้ำ พิสดาร น่ากลัว น่าอันตราย มากมายซักเท่าไหร่ แม้เพลงกระบี่จะมีสีสันฉูดฉาด เฉิดฉัน พรรณราย ยังไงก็ตาม แต่ในแง่ของ ลมปราณ แล้ว ยังอยู่ในระดับขั้นที่หนึ่ง หรือไม่เกินไปกว่าขั้นที่สาม เมื่อเจอกับการปะทะแบบจะจะ จังๆ ขึ้นมาเมื่อไหร่ หรือเมื่อเจอกับพลังลมปราณขั้นที่เก้า ประเภท มหาเวทย์ดูดดาว ขึ้นมาแล้ว เผลอๆ...อาจไม่ถึงสิบกระบวนท่า ก็เจ๊งแล้ว!!! ต่างไปจากพวก มือกระบี่รุ่นเก่า ที่ล้วนแล้วแต่ออกไปทาง สั้นหนึ่งนิ้ว-อันตรายหนึ่งนิ้ว มีทั้งพลังภายนอก ภายใน แถมบรรลุวิชาตัวเบาระดับ เหยียบหิมะไร้รอย ซะอีกต่างหาก ฯลฯลฯ...
------------------------------------------------------
และจะด้วยพระบารมีของพระสยามเทวาธิราช หรือไม่ อย่างไร ก็แล้วแต่จะคิด...ที่ช่วยดลบันดาลให้บรรดามือกระบี่เหล่านี้ ออกไปทาง แก่แล้ว-แก่เลย คือค่อยๆ หมดฤทธิ์ หมดเดช หรือค่อยๆ เร้นกาย ค่อยๆ ถอนตัวไปจากยุทธจักรกันไปเป็นรายๆ ด้วยเหตุนี้...แม้ว่า รัฐบาลบิ๊กตู่ จะต้องตกอยู่ในสถานะ รัฐบาลปริ่มน้ำ ตั้งแต่เริ่มแรก แต่เมื่อต้องเจอกับ มือกระบี่รุ่นใหม่ ประเภทหันไปใช้ แฟชั่น เป็นอาวุธ หันไปแต่งองค์ทรงเครื่อง ชนิดแทบจะ สวมชฎา เข้าไปในสภาฯ กันเลยถึงขั้นนั้น อันนี้ก็เลยต้องเรียกว่า...ออกจะเป็นอะไรที่ ชิวๆ (ชิลๆ) อยู่พอสมควร...
--------------------------------------------------------
แต่ก็นั่นแหละ...แม้ว่า มือกระบี่รุ่นใหม่ จะไม่ถึงกับน่ากลัว น่าอันตราย มากมายซักเท่าไหร่ แต่ด้วย ตัวของรัฐบาลเอง กลับเป็นอะไรที่ออกจะน่าขนลุก ขนพอง มิใช่น้อย เพราะแม้จะไม่ได้มีกระบี่อยู่ในมือ แต่อาจพก มีดสั้น เอาไว้ในแขนเสื้อ ในขากางเกงคนละเล่ม-สองเล่ม เอาเลยก็ไม่แน่ เผลอๆ...อาจซ่อนดีงูพิษหมื่นปี หรือตะขาบร้อยพิษ เอาไว้ในถ้วยเหล้า ถ้วยกาแฟเอาไว้ในซอกเล็บ ชนิดเผลอเมื่อไหร่...อาจหงายท้องตึง หลับกลางอากาศ สิ้นชีพิตักษัยกันในชนิด ไม้จิ้มฟันแทงเหงือก-ดันเสือกตาย ได้ทุกเมื่อ และอันนี้นี่แหละ...ที่จะเป็นตัวกำหนดอายุ ว่าจะ 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี ได้ยิ่งกว่าการกำหนดเส้นตายโดยฝ่ายค้านล้วนๆ...
------------------------------------------------------
ดังนั้น...เอาเป็นว่า ไม่ว่าหน้าตาของรัฐบาลที่กำลังจะคลอดออกมาในอีกไม่นาน-ไม่ช้า จะเป็นไปในรูปไหน หล่อ-ไม่หล่อ ยี้-ไม่ยี้ หรือไม่ เพียงใด ก็แล้วแต่ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ...อย่าให้ต้องหันมา เสียบ กันเอง ชนิดหลังเหวอะกันไปเป็นแถบๆ ไม่งั้นโอกาสที่จะ เดินหน้าประเทศไทย มันอาจต้องยักตื้น-ติดกึก ยักลึก-ติดกัก ไม่คิดจะไปไหนซักกะที ทั้งๆ ที่จังหวะและโอกาส ออกจะเอื้ออำนวยให้มิใช่น้อย หรือทั้งๆ ที่ พระสยามเทวาธิราช ออกแรงประคับประคองซะจนเหนื่อยแล้ว เหนื่อยอีก...
------------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้...จาก William Blake... The strongest poison ever know came from Caesar’s laurel crown.- ยาพิษที่ร้ายแรงที่สุด มาจากมงกุฎประดับช่อดอกไม้ของซีซาร์เอง...
---------------------------------------------------
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |