“แบงก์ชาติ” แจงลดดอกเบี้ยแก้บาทแข็งไม่ได้


เพิ่มเพื่อน    

 

17 ก.ค. 2562 นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นนั้น เป็นผลจากเงินดอลลาร์สหรัฐมีทิศทางอ่อนค่าลง ส่งผลให้มีเงินทุนไหลเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น ทำให้มีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด จนเป็นผลทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น โดยเงินทุนที่ไหลเข้ามานั้น ส่วนใหญ่ไหลเข้ามาลงทุนในหลักทรัพย์แบบกระจุกตัวในบางช่วงทำให้ค่าเงินบาทมีความผันผวน

ทั้งนี้ ธปท. มีความกังวลและเข้าดูแลสถานการณ์เงินบาทอย่างใกล้ชิด แต่ก็เป็นห่วงหากกรณีที่ประเทศไทยจะถูกจับตาว่าเป็นประเทศที่มีการแทรกแซงค่าเงิน

"อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงของไทยอยู่ในระดับต่ำ เมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาค การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจึงอาจไม่ส่งผลมากนักกับการแก้ปัญหาค่าเงินบาทแข็ง" นายวิรไท กล่าว

ปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยนโยบายของประเทศไทยอยู่ที่ระดับ 1.75% ซึ่งการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ล่าสุด ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้เท่าเดิม เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจชะลอตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยมีการปรับคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของปีนี้เหลือ 3.3% ขณะที่การส่งออก คาดว่าจะขยายตัวได้ที่ระดับ 0%

โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา ธปท. ได้ปรับปรุงมาตรการป้องปรามการเก็งกำไรค่าเงินบาท และเพิ่มความเข้มงวดในการรายงานข้อมูลการลงทุนในตราสารของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งยังต้องรอประเมินผลว่ามาตรการที่ออกมาแก้ปัญหาค่าเงินบาทแข็งค่าได้หรือไม่

อย่างไรก็ตาม ธปท. ยืนยันว่าความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงินไทยโดยรวมไม่ได้ลดลง และมีบางจุดที่มีความเปราะบางเพิ่มขึ้น ทั้งหนี้ครัวเรือนสูง การเก็งกำไรอสังหาริมทรัพย์ นักลงทุนมีพฤติกรรมลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และการออกกฎหมายความคุมสหกรณ์ออมทรัพย์ล่าช้า


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"