
เขามีบุคลิกอุดมไปด้วยสีสันการเมืองที่คาดเดายากคล้ายโดนัลด์ ทรัมป์ แต่เขาก็สามารถเล่นละครเป็นวีรบุรุษได้เก่งกว่าหลายเท่า
แม้แต่สีผมและลีลาการพูดจาก็มีความละม้ายกันอย่างเหลือเชื่อ
เขาชื่อ บอริส ยอห์นสัน ผู้เพิ่งได้รับคะแนนโหวตจากสมาชิกพรรคอนุรักษนิยม (Conservative Party) 66% เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ นั่นหมายถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทนนางเทเรซา เมย์ โดยชนะคู่แข่งคือรัฐมนตรีต่างประเทศ เจเรมี ฮันต์ อย่างชัดเจนในการแข่งขันภายในพรรคที่เข้มข้นไม่น้อย
จากจำนวนสมาชิกพรรคที่ขึ้นทะเบียนประมาณ 160,000 คน บอริสได้ 92,153 ขณะที่ฮันต์ได้ 46,656 เท่านั้น
บอริสเคยเป็นนายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน (2008-2016) และรัฐมนตรีต่างประเทศ (2016-2018)
ทรัมป์เขียนข้อความขึ้นทวิตเตอร์ทันทีที่ข่าวออกมาเมื่อเย็นนี้ว่า "He will be great." อันหมายความว่าเขาเห็นว่านายกฯ คนใหม่ของอังกฤษคนนี้จะเป็นผู้ทำงานได้ดี
ภารกิจแรกของเขาทันทีที่ได้รับเลือกเป็นหัวหน้ารัฐบาล คือการเรียกประชุมฉุกเฉินเพื่อวางมาตรการว่าจะทำอย่างไรกับกรณีอิหร่านยึดเรือขนน้ำมันของอังกฤษ
ยอห์นสันประกาศเป็นนโยบายชัดเจนว่า ในฐานะผู้นำสหราชอาณาจักร เขาจะดำเนินนโยบาย Brexit นั่นคือการให้ประเทศออกจากสหภาพยุโรปภายในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ไม่ว่าจะได้เงื่อนไขที่ดีหรือไม่ดีอย่างไรก็ตาม
Do or die! คือคำขวัญของเขาในกรณี Brexit
นั่นหมายความว่ายังไงๆ ก็จะต้องให้อังกฤษออกจากสหภาพยุโรป ไม่ว่าจะมีอุปสรรคมากมายอย่างที่นายกฯ เมย์ได้เผชิญมาจนต้องลาออก เพราะไม่สามารถทำให้แม้แต่สมาชิกพรรคของเธอเองไว้วางใจเธอได้
บอริส ยอห์นสันก็ต้องเผชิญกับแรงกระเพื่อมภายในพรรคไม่น้อย เริ่มมีสัญญาณก่อนที่เขาจะได้รับตำแหน่งใหม่อย่างเป็นทางการด้วยซ้ำไปว่า ส.ส.พรรครัฐบาลประมาณ 7 คนอาจจะประกาศตนเป็น "กบฏ" ไม่ยอมยกมือให้ข้อเสนอของเขา
หากเป็นเช่นนั้นจริง ยอห์นสันก็อาจจะต้องเป็นนายกฯ ของรัฐบาลเสียงข้างน้อย ซึ่งย่อมหมายถึงความไร้เสถียรภาพทางการเมืองของอังกฤษอีกระยะหนึ่ง
เขายอมรับว่าอังกฤษกำลังเผชิญกับการที่ต้องผสมผสานสองเป้าหมายที่สำคัญ คือ
1.ความปรารถนาที่จะเป็นมิตรและมีความสัมพันธ์ด้านการค้าเสรีและการสนับสนุนต่อกันและกันกับสหภาพยุโรปทางด้านความมั่นคง กับ
2.ความปรารถนาอย่างแรงกล้าพอๆ กันกับของสหราชอาณาจักรในอันที่จะให้ประเทศปกครองตนเองอย่างประชาธิปไตย
นักวิเคราะห์อังกฤษบอกว่ายังไม่อาจสรุปได้ว่า บอริส ยอห์นสัน ที่กำลังจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของประเทศนั้นจะเป็น "บอริสตัวตลกหรือบอริสผู้ฝันใฝ่จะเป็นรัฐบุรุษในยามวิกฤติของประเทศ"
บอริสปีนี้อายุ 55 เคยเป็นนักหนังสือพิมพ์ก่อนกระโดดเข้าการเมือง
เคยเป็นบรรณาธิการนิตยสาร Spectator และคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์ The Telegraph
แม้จะเป็นสมาชิกพรรคอนุรักษนิยม แต่แนวความคิดหลายเรื่องก็เอียงไปทางเสรีนิยมมากกว่าเพื่อนร่วมพรรคคนอื่นๆ ไม่น้อย
คนที่ไม่ชอบหน้าก็บอกว่าเขาเป็นคนไม่อยู่กับร่องกับรอย เป็นนักฉวยโอกาส เป็นชนชั้นมีอันจะกินที่ไม่มีหลักปฏิบัติตนด้านจริยธรรมอะไรมากมาย เป็นนักโกหก และคนอังกฤษจำนวนหนึ่งชอบเขาเพราะความเป็น "คนดิบๆ" อย่างที่ว่ามา
ตอนเด็กเขาเรียนมัธยมที่ Eton และต่อระดับมหาวิทยาลัยที่ Oxford และได้รับเลือกเป็นประธานนักศึกษาที่นั่น มีประกายแห่งความเป็นผู้นำตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ
บอริส ยอห์นสันเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นกับคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะที่อังกฤษ หากเจอกันวันนี้คุณอภิสิทธิ์อาจแซวบอริสได้ว่า "ผมได้เป็นนายกรัฐมนตรีก่อนคุณนะคร้าบ...."
(ภาพนี้ถ่ายที่สถานทูตอังกฤษที่กรุงเทพฯ ปีที่แล้วตอนที่ บอริส ยอห์นสัน แวะมาไทยช่วงสั้นๆ)
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |