5 ก.ย.62 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม​ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายสัตวแพทย์​ธีทัชฐ์ เกียรติลดารมย์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ​ (พปชร.)​ ยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ผ่านนายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม. พปชร. หลังพบว่ามีการซื้อ-ขายตำแหน่งอธิบดีกรมใหญ่ โดยรัฐมนตรีได้รับเงิน 600 ล้านบาท ว่าจากกรณีที่นายสัตวแพทย์คนหนึ่งมากล่าวอ้างเรื่องการซื้อขายตำแหน่งในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม​ (ทส.)​ นั้น ขอเรียนว่า ถ้าระบุว่ามีการซื้อขายตำแหน่งแสดงว่ามีการโยกย้าย แต่ในการแต่งตั้ง ปลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวง กับข้าราชการระดับสูง 4 กรมนั้นเป็นการแต่งตั้งแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการ ในวันที่ 30 ก.ย. จึงถือเป็นภารกิจเร่งด่วนเพื่อความต่อเนื่องในการทำงานของกระทรวงทส.​

นายวราวุธ กล่าวว่าตนเพิ่งเข้ามาทำงานในกระทรวงนี้เพียง 2 เดือน และหัวใจสำคัญในการทำงานคือการให้โอกาสกับข้าราชการทุกคน ตนได้ให้โอกาสอธิบดีทุกคนในการทำงาน แต่ก็น่าตลกที่กรมที่เป็นข่าวออกมานี้ตนไม่ได้โยกย้าย การที่ออกมาแถลงข่าวว่ามีการใช้เงิน 600 ล้านบาท แล้วบอกว่าตนได้รับเงินไปแล้ว 300 ล้านบาท อีก 300 ล้านบาทจะได้รับในเดือ​น​ ก.พ. 63 ซึ่งแปลกใจและเพิ่งเคยได้ยิน ขอยืนยันว่าเป็นข่าวที่ไม่มีความเป็นจริงเลยแม้แต่นิดเดียว

"ขอให้นายสัตวแพทย์ ไปหาข้อมูลให้ดี ตรวจสอบจากแหล่งข้อมูลให้ดีว่าได้ข้อมูลมาจากไหน เพราะแหล่งข้อมูลนั้นกำลังจะทำให้เป็นผู้โชคดีที่ถูกดำเนินคดี เพราะในชีวิตผมไม่เคยฟ้องร้องใคร จะขึ้นศาลก็กับนายสัตวแพทย์คนนี้เป็นคนแรก และผมก็จะชนะคดีด้วย เพราะเรื่องที่นายสัตวแพทย์เอาออกมาพูดนั้นเป็นเรื่องเหลวไหล โกหก ไม่มีมูลความจริงเลยแม้แต่นิดเดียว"นายวราวุธ​ กล่าว

นายวราวุธกล่าวว่า​ คนที่เป็นถึงนายสัตวแพทย์แสดงว่า เป็นคนที่มีสติปัญญา มีมันสมองที่จะคิด แต่การจะมาบอกว่าข้าราชการมีเงิน 600 ล้านบาทเพื่อมาวิ่งเต้นนั้น ก็ควรจะมีสามัญสำนึกมากกว่านี้ ควรใช้สติปัญญาให้เกิดประโยชน์มากกว่านี้ เพราะถ้าข้าราชการมีเงินมากขนาดนั้นคงไม่มาเป็นข้าราชการนอนตีพุงอยู่ที่บ้านหรือท่องเที่ยวทั่วโลกแล้ว​ยืนยันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตนได้เก็บข้อมูลไว้ทั้งหมดและเรื่องเข้าสู่กระบวนการให้ทีมทนายความของตนยื่นฟ้องร้องต่อศาลในเร็ววันนี้​

ส่วนคลิปเสียงที่นายสัตวแพทย์นำมาเผยแพร่ให้สื่อนั้น เป็นเสียงผู้ชายสองคนคุยกัน ก็อาจจะเป็น ผู้อำนวยการโรงเรียนคุยกับนักการภารโรง หรือผู้อำนวยการสวนสาธารณะคุยกับคนกวาดถนนอยู่ก็ได้ ก่อนนำมาเปิดเผยควรใช้สามัญสำนึกมากกว่านี้เพียงแค่คำพูดไม่กี่คำ การจะนำหลักฐานมากล่าวหาซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่หนักหนาสากันขนาดนี้ก็ควรใช้สมองตึกตรองให้ถี่ถ้วนมากกว่านี้ อย่าไปเชื่อเพียงคำพูดของคนบางกลุ่มที่ใช้เป็นเครื่องมือ ในการนำเรื่องต่างๆที่ไม่เป็นความจริง มายื่นให้กับรองนายกรัฐมนตรี โดยผ่านส.ส.

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะดำเนินการฟ้องร้องนายสิระ ด้วยหรือไม่ในฐานะที่เป็นส.ส.ที่พามา นายวราวุธ กล่าวว่า ต้องขอไปดูก่อนว่านายสิระ เป็นผู้จัดการพานายสัตวแพทย์คนนี้มา หรือตกกระไดพลอยโจนว่ามาแล้วไม่รู้จะยืนกับใคร พอเจอก็ฝาก ส.ส. ช่วยเป็นธุระให้ ซึ่งถ้าเป็นประเด็นตกกระไดพลอยโจนก็คงไม่มีอะไรแต่ถ้าเป็นการจัดให้มีการแถลงข่าวโดย ส.ส. มีส่วนรู้เห็นด้วยก็คงต้องดำเนินการตามกฏหมาย โดยส่วนตัวแล้วต้องขอขอบคุณที่ทำให้ได้เป็นข่าวทุกวัน อยู่เฉยๆเรื่องก็มาหา ได้เป็นข่าวหน้าหนังสือพิมพ์ ขอยืนยันว่าการมากล่าวหาเช่นนี้ทำให้ ตน กระทรวงทส. , ครม.ชุดนี้ และเฉพาะอย่างยิ่งมาทำให้ตระกูลศิลปอาชาเสียหาย ตนไม่ยอมแน่ ไม่เอาไว้แน่ ใครจะทำอะไรก็ถาม แต่อย่ามาหาเรื่องกับตนดีกว่า

เมื่อถามว่า จะนำเรื่องดังกล่าวพูดคุยกับพล.อ.ประวิตร หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ตนคงเรียนให้รองนายกฯทราบเป็นข้อมูลก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเชื่อว่าผู้ใหญ่ในบ้านเมืองท่านทราบดีเพราะผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก คงไม่นำมาเป็นประเด็น

เมื่อถามว่าส่วนตัวมีปัญหากับนายสัตวแพทย์หรือ ส.ส.สิระ หรือไม่ นายวราวุธกล่าวว่า กับนายสิระ ก็เดินผ่านกันบ้างในสภาแต่กับนายสัตวแพทย์คนนี้เกิดมายังไม่เคยเจอหน้ากันเลย แต่ถ้าอยากจะมีเรื่องตนก็ไม่ขัดข้อง อย่างไรก็ตาม ทุกกรมในกระทรวงทส. มีประเด็นสำคัญที่ต้องเร่งทำงานกันอยู่มาก ส่วนประเด็นที่เกิดขึ้นนี้ตนถือว่าเป็นเรื่องไร้สาระ อยากให้เจ้าหน้าที่และข้าราชการทุกคนเร่งทำงานให้กับพี่น้องคนไทยมากกว่า ส่วนถ้าเกี่ยวโยงแล้วอธิบดีกรมใดจะดำเนินการตามกฏหมายก็อยู่ในดุลพินิจของอธิบดี แต่สำหรับตนจะดำเนินการตามกฏหมายอย่างแน่นอน