สนธิรัตน์เคลียร์ปมLNG 1.5 ล้านตัน ยืนนโยบายเปิดเสรีให้กฟผ.เป็นผู้นำเข้าเช่นเดิม


เพิ่มเพื่อน    

 "สนธิรัตน์" แจงสร.กฟผ. กรณีปมประมูลนำเข้าแอลเอ็นจี 1.5 ล้านตัน เหตุมีข้อบกพร่องกระทบต้นทุนค่าไฟ สถานการณ์การใช้ก๊าซฯเปลี่ยน ยันพร้อมเคลียร์ปิโตรนาสฯและปตท.กรณีค่าเช่าคลัง ไม่กระทบ กฟผ. พร้อมยืนนโยบายเปิดเสรีและให้กฟผ.เป็นผู้นำเข้าเช่นเดิม สร.กฟผ.พอใจส่ง"กุลิศ"นั่งประธานบอร์ด

6 ก.ย. 62-  นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการหารือร่วมกับตัวแทนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(สร.กฟผ.) วานนี้(6ก.ย.) ว่า  ได้ชี้แจงกับสร.กฟผ.ถึงมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.)ที่ให้ยกเลิกแผนการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี) 1.5 ล้านตัน/ปีของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)และให้นำเข้ารูปแบบราคาจร(Spot)เพื่อทดสอบระบบจำนวน 2 ลำเรือ(ลำละ90,000 ตัน) เนื่องจากการดำเนินงานที่ผ่านมามีจุดบกพร่องที่ปล่อยไว้จะส่งผลกระทบค่าไฟฟ้า ประกอบกับสถานการณ์การใช้ก๊าซธรรมชาติในประเทศเปลี่ยนไปจึงจำเป็นต้องมาพิจารณาปริมาณการนำเข้าที่เหมาะสมใหม่ อย่างไรก็ตามได้ยืนยันว่ากรณีดังกล่าวจะไม่มีความเสียหายใดๆ ทั้งสิ้นเกิดกับกฟผ.และจะไม่เกิดการฟ้องร้องเพราะกระทรวงพลังงานจะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาต่างๆทั้งหมดโดยเร็ว และมอบหมายให้นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงานดูแลเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้กฟผ.ได้คัดเลือกปิโตรนาส แอลเอ็นจี เป็นผู้ชนะประมูลนำเข้าแอลเอ็นจี 1.5 ล้านตัน/ปีกำหนดจะต้องลงนามในสัญญาภายในเดือนก.ย.นี้ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการลงนามแต่อย่างใด ดังนั้นล่าสุดตนได้หารือเบื้องต้นกับรัฐมนตรีพลังงานของมาเลเซียในเวทีประชุมรัฐมนตรีพลังงานอาเซียนครั้งที่ 37 (AMEM)แล้วยืนยันว่าจะไม่กระทบใดๆทั้งสิ้น เช่นเดียวกรณีค่าเช่าคลังแอลเอ็นจีกับบริษัทในกลุ่มบมจ.ปตท.ที่กฟผ.ได้เซ็นสัญญาไปแล้วที่กระทรวงพลังงานจะมีการเจรจาเพื่อยกเลิกเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาค่าเช่าตามมา

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ได้ยืนยันต่อสร.กฟผ.ว่านโยบายการเปิดเสรีก๊าซฯเพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางภูมิภาค(ฮับ)ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงเพียงแต่จะต้องดูรายละเอียดต่างๆให้เหมาะสม เพื่อทำให้เกิดการนำเข้าต่อไปเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของโลกและนำไปสู่ต้นทุนค่าไฟกับประชาชนที่ถูกลง และกฟผ.จะเป็นหนึ่งในผู้นำเข้าแอลเอ็นจีต่อไป ซึ่งจะมีการหารือถึงปริมาณที่เหมาะสมเพื่อที่จะดำเนินการให้เกิดขึ้นโดยเร็วอีกครั้ง

นายศิริชัย ไม้งาม ประธานสร.กฟผ. กล่าวว่า  สิ่งที่สร.กฟผ.กังวลมากสุดคือความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ของตัวกฟผ.ในฐานะรัฐวิสาหกิจระดับประเทศที่ได้ประมูลและได้ปิโตรนามาส แอลเอ็นจี เป็นผู้ชนะประมูลซึ่งเป็นบริษัทมาเลซียซึ่งมีชื่อเสียง ขณะเดียวกันที่ผ่านมาได้มีการเซ็นสัญญาเช่าคลังแอลเอ็นจีกับบริษัทในเครือบมจ.ปตท.ไปแล้วโดยจะเช่าเดือนละ 190 ล้านบาทเป็นระยะเวลา 33 ปีคิดเป็นมูลค่า 7.5 หมื่นล้านบาทจึงเกรงว่าหากไปยกเลิกสัญญาจะได้รับผลกระทบโดยทั้ง 2 ประเด็นดังกล่าวทางรมว.พลังงานได้รับปากที่จะแก้ไขให้ทั้งหมดแล้ว

" ยืนยันว่าการนำเข้าแอลเอ็นจีครั้งนี้ของกฟผ. 1.5 ล้านตัน/ปีเพื่อเป็นการผลิตไฟฟ้าของกฟผ.เองไม่ได้นำมาขายแต่อย่างใดโดยมีสัญญา 8 ปี ซึ่งรัฐมนตรีพลังงานได้ชี้แจงว่ามีข้อบกพร่องในอดีต 3-4 ปีที่ผ่านมาจึงต้องกลับมาแก้ไขและทบทวนใหม่และพร้อมจะให้กฟผ.มีการนำเข้าต่อไปซึ่งได้รับปากว่าจะเร่งเคลียร์เรื่องนี้ทั้งหมดภายใน 2-3 เดือนนี้และยืนยันว่าจะให้โควตากฟผ.นำเข้าแอลเอ็นจี 15%ของการใช้กฟผ.ที่มีทั้งหมด 8 ล้านตัน/ปี ซึ่งจากการเข้ามาพบครั้งนี้ก็พอใจกับกระทรวงพลังงาน "นายศิริชัย

สำหรับข้อกังวลต่อกรณีที่กีระทรวงพลังงานจะแต่งตั้งบุคคลาภายนอกมานั่งเป็นคณะกรรมการบริหารกฟผ.(บอร์ด)ซึ่งก่อนหน้านี้มีการลาออกไป 2 คนได้แก่ นายดิสทัต โหตระกิตย์ ประธานบอร์ดกฟผ.และนายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ บอร์ดกฟผ. นั้นทางรมว.พลังงานได้แจ้งว่าในส่วนของประธานบอร์ดจะให้นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงานเข้ามารับตำแหน่งเป็นประธานบอร์ดกฟผ.เพื่อให้มารับภารกิจในการพัฒนาองค์กรกฟผ.ให้เป็นไปตามเป้าหมาย ส่วนกรรมการอีก 1 คนอยู่ระหว่างการสรรหาซึ่งจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไฟฟ้า ซึ่งสร.กฟผ.ก็มีความยินดี


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"