บันทึกแม่1.3พันคน ร่วมใจให้นมลูก หลังพบสถิติคุณแม่ยุคใหม่ยังให้ลูกกินนมตัวเองแค่30% 


เพิ่มเพื่อน    

8ก.ย.62-แม่กว่า 1,300 คน ร่วมกิจกรรมให้นมลูกนาน 3 นาที บันทึกสถิติ Thailand Records สะท้อนคุณค่าและความสำคัญของนมแม่ที่มีประโยชน์และสารอาหารมากกว่า 200 ชนิด โดยเฉพาะการให้นมลูกตั้งแต่แรกเกิด - 6 เดือน เพื่อร่างกายที่แข็งแรงและเสริมสายใยระหว่างแม่กับลูก  กิจกรรมนี้จัดขึ้นโดย  บริษัท มุ่งพัฒนา อินเตอร์แนชชั่นแนล จำกัด(มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็กแบรนด์  พีเจ้น  ร่วมกับภาควิชาการพยาบาลสูติศาสตร์ นรีเวชวิทยา คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดงาน “Thailand Breastfeeding Day By Pigeon อุ่นรักจากอกแม่ ร่วมสร้างสถิติแห่งความภาคภูมิใจ” ครั้งที่ 5 โดยมีคู่แม่ลูกกว่า 1,300 คนเข้าร่วมกิจกรรม กับการให้นมลูกจากอกแม่นาน 3 นาที เพื่อบันทึกใน Thailand Records อีกทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้คุณแม่ยุคใหม่ตระหนักถึงคุณค่าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ นอกจากนี่ยังมีการเสวนาในหัวข้อ “นมแม่ท่ามกลางสื่อโซเชียล : เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้อย่างสุขใจและปลอดภัย” โดย ผศ.นพ.วรวุฒิ เชยประเสริฐ กุมารแพทย์ เจ้าของเพจ เลี้ยงลูกตามใจหมอ ณ อาคารเฉลิมพระบารมี 50 ปี แพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

    นางสาวสุวรรณา โชคดีอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มุ่งพัฒนา อินเตอร์แนชชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็กแบรนด์ พีเจ้น กล่าวว่า เรามีความมุ่งมั่นที่จะรณรงค์และสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากจะช่วยส่งเสริมให้สังคมไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญของการให้นมแม่แล้ว ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้คุณแม่ยุคใหม่หันมาใส่ใจกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มากขึ้น รวมถึงเป็นทางเลือกแรกในการวางแผนเลี้ยงลูกของทุกครอบครัว เพราะนมแม่ไม่เพียงแต่เป็นโภชนาการที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย ที่แม่ทุกคนอยากส่งต่อคุณค่านี้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ การให้นมยังเป็นการเชื่อมสายใยรัก ที่แม่ได้ถ่ายทอดความอบอุ่น ความผูกพันจากแม่สู่ลูก อันเป็นพื้นฐานของการเลี้ยงดูลูกน้อยให้เติบโต มีสุขภาพแข็งแรงและมีความสุข
    “ในปีนี้มีคู่แม่ลูกจากทั่วประเทศเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสร้างสถิติใหม่มากถึง 1,300 คน จำนวนคู่แม่ลูกที่เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ทั้งในกรุงเทพฯ และผ่านระบบออนไลน์ทางเฟซบุ๊กของพีเจ้น จะถูกบันทึกเป็นสถิติใหม่ ซึ่งไม่ใช่เป็นเพียงแค่การทำสถิติในด้านจำนวนเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงออกถึงการมีส่วนร่วมและจุดยืนความมุ่งมั่นในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ร่วมกัน แม้ว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จะไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับสังคมไทย และตั้งใจจะรณรงค์อย่างต่อเนื่อง” สุวรรณา กล่าว
     ผศ.นพ.วรวุฒิ เชยประเสริฐ กุมารแพทย์ กล่าวว่า อยากให้คุณแม่เข้าใจธรรมชาติของนมแม่ โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์แรกเกิด และยังเป็นการช่วยกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนให้คุณแม่เพิ่มมากขึ้นด้วย แต่ยังไม่ควรที่จะปั๊มนมในช่วงนี้ เพราะอาจจะมีผลกระทบกับเต้านม และเมื่อลูกหิวในช่วง1-2 สัปดาห์ ก็ให้เข้าเต้า และเข้าเต้าอยากถูกวิธี และการสต๊อกนม ต้องมีเป้าหมาย เพื่อให้ลูกอิ่ม และเติบโต ในกรณีที่คุณแม่ไปทำงาน ไปต่างจังหวัด หรือทำงาน การปั๊มนมสต๊อกไว้วันต่อวันจะดีที่สุด แต่หากใครมีเวลาก็ควรจะให้จากเต้าจะดีกว่า และในยุคสมัยนี้คุณแม่ที่ดูสื่อโซเชียลมีเดีย อาจจะทำให้เกิดการเปรียบเทียบกับตัวเอง กับการสต๊อกนม หรือการให้ความรู้ต่างๆ ซึ่งบางเรื่องไม่ถูกวิธี อย่างเรื่องอาหารการกิน ซึ่งสิ่งสำคัญคือหากกังวลควรให้หมอวินิจฉัย และแม่ต้องทานอาหารที่มีประโยชน์ 
    ผศ.วาสนา จิติมา รองหัวหน้าภาควิชาการพยาบาลสูติศาสตร์นรีเวชวิทยา คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวเสริมว่า นมแม่เป็นอาหารที่ดีและเหมาะสมที่สุดสำหรับทารก ประกอบด้วยสารอาหารมากกว่า 200 ชนิดที่มีคุณค่าเสริมสร้าง ร่างกายให้เติบโต ช่วยพัฒนาสมอง จอประสาทตา ช่วยให้เด็กสามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้เร็ว และมีภูมิคุ้มกันโรคที่ไม่สามารถหาได้จากอาหารอื่น ดังนั้นการส่งเสริมให้ลูกดื่มนมแม่เพียงอย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิตเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่สุด และสามารถให้ดื่มได้ตลอดไปจนถึง 2-3 ขวบ แต่ต้องควบคู่ไปกับอาหารหลักสำหรับวัยนี้ เพราะนมแม่ก็จะกลายเป็นอาหารเสริมที่ดี อีกทั้งโครงการนี้ยังมีความสอดคล้องกับเป้าหมาย ของภาครัฐในการสนับสนุนให้อัตราการกินนมแม่อย่างเดียวของทารกอายุต่ำกว่า 6 เดือน เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 50% ภายในปี 2568 ซึ่งในปัจจุบันอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อยู่ที่ 30% และจากการสอบถามคุณแม่เกือบ 100% อยากให้ลูกกินนมตัวเอง

    สุดารัตน์ ทรัพย์ใจเที่ยง หนึ่งในแม่ที่เข้าร่วมกิจกรรมเล่าว่า ตนมีลูกผู้หญิงหนึ่งคนอายุ 9 เดือน ซึ่งในตอนที่เขาเกิด มีอาการตัวเหลือง และตนก็ไม่มีน้ำนมแต่คุณหมอแนะนำว่าลูกได้ทานนมแม่จะดีที่สุด จึงพยายามทำตามคำแนะนำ จนในที่สุดมีน้ำนมดีใจมาก และเราก็ให้เขาทานนมแม่มาตลอด แม้จะต้องทำงานด้วย ซึ่งร่างกายก็แข็งแรง และเวลาร้องไห้ เพียงแค่ให้เข้าเต้าก็จะหยุดร้อง เพราะลูกจะไม่ชอบดื่มนมที่ปั๊ม  ในฐานะแม่ก็รู้สึกภูมิใจที่ได้เลี้ยงลูกจากนมตนเองมาได้  
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"