สอท.หวั่นเศรษฐกิจยิ่งทรุดบาทแข็ง-หนี้ครัวเรือนพุ่ง


เพิ่มเพื่อน    

16 ก.ย.2562 นายเกรียงไกร เธียรนุกูล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)เปิดเผยว่า  ขณะนี้ส.อ.ท.มีความกังวลหลายปัจจัยที่มีแนวโน้มจะส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจไทยทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยเฉพาะภาวะค่าเงินบาทที่เคลื่อนไหวสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงแข็งค่าเฉลี่ย 3.40-3.50 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯซึ่งยังคงมีทิศทางแข็งค่ามากสุดในภูมิภาค และยังคงต้องติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) 17 -18 ก.ย.หากมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงก็จะกดดันให้เงินบาทของไทยยังคงแข็งค่าได้อีก

“เงินบาทของไทยแข็งค่าขึ้นจากต้นปีเฉลี่ย 6%  โดยเมื่อ 12 ก.ย.บาทแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 6 ปีอยู่ที่ 30.39 บาทต่อเหรียญสหรัฐแม้ต่อมาจะอ่อนค่าลงเล็กน้อยแต่บาทไทยก็ยังคงแข็งค่ากว่าภูมิภาคทั้งเวียดนาม เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ไต้หวัน ฯลฯ ซึ่งยังคงคาดหวังว่าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จะดูแลใกล้ชิดเพื่อไม่ให้บาทไทยแข็งค่าเกินไปเพราะจะบั่นทอนขีดความสามารถการส่งออกให้ลดต่ำลงซึ่งขณะนี้ภาคส่งออกส่วนหนึ่งก็ต้องเผชิญสงครามการค้าอยู่แล้ว”นายเกรียงไกร กล่าว

อย่างไรก็ตามในส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยนั้นเชื่อว่ามีแนวโน้มที่ต้องปรับลดลงตามเช่นกันเพราะหากสูงเกินก็จะทำให้เงินทุนไหลเข้ามาทำกำไรจากส่วนต่างของดอกเบี้ยไทยที่สูงซึ่งจะกดดันบาทให้แข็งค่า ซึ่งที่ผ่านมาไม่เพียงกระทบส่งออกแต่ยังคงกระทบต่อการท่องเที่ยวด้วย ซึ่งคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.)ได้ปรับคาดการณ์การเติบโตการส่งออกปี 2562 ไว้ที่ติดลบ 1% ถึงโต 1% และเศรษฐกิจโต 2.9-3.3% ซึ่งหากดูหลายปัจจัยแล้วก็ยอมรับว่ามีแนวโน้มอาจลดต่ำกว่านี้ได้อีก

ทั้งนี้เพื่อขับเคลื่อนการส่งออกส.อ.ท.สนับสนุนให้รัฐขยายตลาดด้วยการเร่งลงนามข้อตกลงเขตการค้าเสรี(FTA)กับประเทศต่างๆเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะ FTA ไทย-อียู ซึ่งมีขนาดที่ใหญ่มากโดยที่ผ่านมาการดำเนินงานต้องล่าช้ามาพอสมควรแล้ว รวมถึงการเจรจาเพื่อสรุปแนวทางคความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค(อาร์เซ็ป) ซึ่งทั้งหมดจะทำให้การส่งออกของไทยมีโอกาสในการทำตลาดใหม่เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตามอีกปัจจัยหนึ่งที่แม้ระยะสั้นอาจจะยังไม่เห็นผลกระทบชัดเจนนักแต่ระยะยาวมีความน่าเป็นห่วงคือ กรณีที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยตัวเลขหนี้ภาคครัวเรือนที่อยู่ที่ระดับ 13 ล้านล้านบาท โดยหนี้ครัวเรือนไทยสูงเป็นอันดับ 2 ของเอเชีย รองจากเกาหลีใต้ และอันดับ 11 ของโลก จาก 74 ประเทศ เพราะระยะยาวอาจกระทบต่อกำลังซื้อในประเทศให้ลดต่ำลงต่อเนื่องได้เนื่องจากรายได้ที่มีอยู่ต้องถูกนำไปชำระหนี้เป็นส่วนใหญ่ที่สุดจะทำให้เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบ ดังนั้นจึงเห็น ธปท.ต้องมีมาตรการเข้ามาดูแลและป้องกัน โดยเฉพาะบัตรเครดิตที่ควรจะมีเกณฑ์การดูแลไม่ให้เกิดการใช้จ่ายง่ายเกินไป


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"