3ต.ค.62-นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการโครงการพัฒนาครูปแบบครบวงจร หรือ คูปองพัฒนาครู ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่พูดถึงมาตลอดและมีเสียงสะท้อนของครูส่วนหนึ่งที่อยากจะให้มีการปรับปรุงกระบวนการอบรมพัฒนาครูใหม่ ซึ่งตนเข้าใจดีว่าเราจะต้องมีการอบรมพัฒนาครู แต่การอบรมและพัฒนาครูที่เหมาะสมและมีผลสัมฤทธิ์ให้เกิดขึ้นกับนักเรียนจะเป็นรูปแบบไหน ซึ่งตนไม่ได้หมายความว่าการปรับการอบรมพัฒนาครูจะต้องยกเลิกโครงการครูปองพัฒนาครู แต่ตนมีความต้องการจะรื้อระบบการอบรมพัฒนาครูใหม่ โดยไม่ใช่การให้ครูนำเงินที่ได้จากโครงการแล้วมาเลือกช็อปปิ้งหลักสูตรของหน่วยจัดอบรม และเมื่อมีการอบรมเกิดขึ้นแล้วครูได้รับประโยชน์และมีการพัฒนาจริงๆหรือไม่ เช่น หน่วยจัดอบรมผุดหลักสูตรการเรียนรู้ด้วยระบบกูเกิล แต่เมื่อเข้าอบรมจริงๆแล้วมีการสอนและใช้งานกูเกิ้ลจริงหรือไม่  เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงระบบอบรมพัฒนาครูนั้นจะสอดคล้องกับนโยบายของตนที่มุ่งยกระดับคุณภาพโรงเรียนให้ได้ภายใน 1 ปีด้วยระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งในอนาคตทุกโรงเรียนจะมีอินเตอร์ไฮสปีดใช้งานทั่วประเทศ และเมื่อเป็นเช่นนั้นต่อไปการอบรมและพัฒนาครูก็ไม่จำเป็นต้องให้ครูทิ้งห้องเรียนมาอบรม แต่สามารถคลิกข้อมูลการอบรมได้แค่ปลายนิ้วสัมผัสด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของโรงเรียน

“ทั้งนี้ในส่วนของโครงการคูปองพัฒนาครู ที่มีประมาณ 2,000 กว่าหลักสูตร ผมขอดูรายละเอียดหลักสูตรการอบรมก่อน โดยผมจะมาวิเคราะห์ดูว่าแต่ละหลักสูตรตอบโจทย์นโยบายรัฐบาลและมีความเข้มข้นในการจัดหลักสูตรอบรมมากน้อยแค่ไหน รวมถึงหลักสูตรที่มีตรงกับความต้องการของครูหรือไม่ ซึ่งผมจะควบคุมหลักสูตรต่างๆ เอง เพราะผมคงไม่ปล่อยให้มีการจัดอบรมให้ครูนำเงินไปช็อปปิ้งคอร์สแล้วไม่ได้ประโยชน์อะไรเกิดขึ้นเลย  เพราะการอบรมและพัฒนาครูจะต้องไปเชื่อมโยงกับการเลื่อนและมีวิทยะฐานะ  เพราะผมกำลังหาแนวทางที่จะลดการทำวิทยะฐานะให้มีการประเมินตรงกับการเรียนการสอนจริงของครูในห้องเรียน ดังนั้นผมจะรื้อการอบรมพัฒนาครูใหม่ เพื่อให้ตรงกับแนวทางการพัฒนาครูที่รัฐบาลกำหนด”รมว.ศธ.กล่าว