เอกวาดอร์เคอร์ฟิว รัฐบาลย้ายฐานหนีม็อบต้านรัดเข็มขัด


เพิ่มเพื่อน    

ประธานาธิบดีเลนิน โมเรโน ของเอกวาดอร์ประกาศเคอร์ฟิวรอบอาคารที่ทำการของรัฐบาลในเมืองหลวง ภายหลังการประท้วงต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาล 6 วันทำให้คณะรัฐมนตรีต้องย้ายฐานบัญชาการออกจากเมืองหลวง ล่าสุดม็อบบุกเข้าไปภายในอาคารรัฐสภาได้สำเร็จเมื่อวันอังคาร

ผู้ประท้วงปะทะกับตำรวจปราบจลาจลที่กรุงกีโต เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา / AFP

    รายงานเอเอฟพีและรอยเตอร์เมื่อวันพุธที่ 9 ตุลาคมกล่าวว่า ผู้ประท้วงซึ่งส่วนมากเป็นชายชาวพื้นเมืองที่ใช้ไม้และแส้เป็นอาวุธ บุกฝ่าแนวป้องกันของเจ้าหน้าที่เข้าไปภายในห้องประชุมของสมัชชาแห่งชาติในกรุงกีโตได้สำเร็จเมื่อวันอังคาร พวกเขายึดโพเดียมและโบกธงชูกำปั้นร้องตะโกน "พวกเราคือประชาชน" ก่อนที่จะโดนเจ้าหน้าที่ขับไล่

    ผู้ประท้วงเคยพยายามบุกอาคารรัฐสภามาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันจันทร์ ขณะที่ประธานาธิบดีโมเรโน ซึ่งประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้ย้ายที่ทำการของรัฐบาลไปยังเมืองชายฝั่ง กัวยากิล ที่สถานการณ์สงบกว่า

    การประท้วงเริ่มต้นตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม เมื่อรัฐบาลประกาศตัดเงินอุดหนุนเชื้อเพลิง ทำให้ราคาน้ำมันแพงขึ้น 120% โดยเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการรัดเข็มขัดตามข้อตกลงกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เมื่อเดือนมีนาคม เพื่อให้เอกวาดอร์กู้เงิน 4,200 ล้านดอลลาร์ หากไม่ตัดเงินอุดหนุนในส่วนนี้ ในแต่ละปีรัฐบาลเอกวาดอร์ต้องใช้งบประมาณอุดหนุนราคาน้ำมัน 1,300 ล้านดอลลาร์

    วันพุธนี้ ชนพื้นเมืองจากทั่วประเทศที่องค์กร CONAIE ระบุว่ามีราว 20,000 คน มีกำหนดเดินทางถึงกรุงกีโต การระดมชนพื้นเมืองเข้าสู่เมืองหลวงเป็นกลยุทธ์ที่เคยโค่นรัฐบาลก่อนหน้านี้ ผู้ประท้วงหลายพันคนเดินทางมาถึงล่วงหน้าแล้วและตั้งแคมป์กันตามสวนสาธารณะหรือในอาคารที่ยึดไว้ได้

    พื้นที่อื่นๆ ของเมืองหลวงและนอกกรุง ผู้ประท้วงคลุมหน้าใช้ไม้และก้อนหินเป็นอาวุธต่อสู้กับตำรวจซึ่งตอบโต้ด้วยแก๊สน้ำตา เจ้าหน้าที่กล่าวว่า การปะทะทำให้พลเรือนบาดเจ็บ 19 คน ตำรวจบาดเจ็บ 43 นาย และมีผู้ประท้วงถูกจับกุมเกือบ 680 คน

    ความไม่สงบยังกระทบต่อการผลิตน้ำมันของเอกวาดอร์ ซึ่งได้ประกาศถอนตัวจากโอเปกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงพลังงานกล่าวว่าผลผลิตน้ำมันลดลง 31% หลังจากผู้ประท้วงยึดโรงน้ำมัน 3  แห่ง บริษัทเปโตรมาโซนาสประเมินว่าสูญเสียกำลังผลิตไปราว 188,000 บาร์เรล/วัน

    ในวันอังคาร โมเรโนลงนามคำสั่งประกาศเคอร์ฟิว ห้ามเข้าใกล้อาคารที่ทำการของรัฐบาลและสถานที่สำคัญทางยุทธศาสตร์ในเมืองหลวง ระหว่างเวลา 20.00 น.ถึง 05.00 น. เพื่อควบคุมความสงบ  เขายังพยายามสกัดความเคลื่อนไหวของม็อบชนพื้นเมืองในวันพุธด้วยการเสนอเจรจากับ "พี่น้องชนพื้นเมือง" และให้คำมั่นด้วยว่า รายได้ที่มาจากการตัดเงินอุดหนุนพลังงานจะถูกนำไปชดเชยแก่กลุ่มคนที่ยากจนที่สุด รวมถึงการให้วงเงินสินเชื่อแก่เกษตรกรและสหกรณ์ด้านการขนส่ง

     โมเรโนยืนกรานด้วยว่าเขาจะไม่ลาออก "ผมไม่เห็นเหตุผลที่ผมต้องลาออกในเมื่อผมตัดสินใจถูกต้อง" เขากล่าวกับสถานีเตเลียมาโซนาสเมื่อคืนวันอังคาร

    มารีอา เปาลา โรโม รัฐมนตรีมหาดไทย เผยว่า องค์การสหประชาชาติและคริสตจักรโรมันคาทอลิกเสนอจะเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยวิกฤติครั้งนี้ ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า โมเรโนได้รับการสนับสนุนอย่างหนักแน่นจาก 7 ประเทศลาตินอเมริกา ได้แก่ อาร์เจนตินา, บราซิล, โคลอมเบีย, เอลซัลวาดอร์, กัวเตมาลา, เปรู และปารากวัย

    โมเรโนกล่าวโทษอดีตประธานาธิบดีฝ่ายซ้าย ราฟาเอล คอร์เรอา และประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร  ของเวเนซุเอลา ว่าอยู่เบื้องหลังความพยายามก่อรัฐประหารโค่นล้มเขา.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"