เมือเวลา 15.30น. วันที่ 13 ต.ค.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ร้านคอฟฟี่ เด้อ หล่า ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 348/8 เดอะแกลเลอรี่ ถ.ประชาสำราญ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายเกริกศักดิ์ วรภูมิ อายุ 44 ปี ศิลปินอิสระ ได้ใช้สถานที่ภายในร้านกาแฟ จัดนิทรรศการภาพพระบรมฉายาทิศลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยเป็นภาพที่วาดจากดินสอนำมาเข้ากรอบติดอยู่ที่ฝาผนังจนเต็มร้าน ซึ่งลูกค้าของร้านกาแฟหรือผู้ที่ทราบว่าภายในร้านมีการจัดนิทรรศการ ต่างพากันเข้ามาชมด้วยความอาลัย และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อันหาที่สุดมิได้ของพระองค์ท่าน

นายเกริกศักดิ์ กล่าวว่า ผลงานชุดนี้มีชื่อว่า “ฉันวาดรัชกาลที่ 9” ซึ่งได้จัดเป็นครั้งที่ 3  โดยครั้งแรกจัดขึ้นในปี 2560 คือ ในวาระวันครบรอบวันสวรรคตของรัชกาลที่ 9 และในปี 2561 ก็จัดเป็นครั้งที่ 2 และในปี 2562 จัดเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งนการจัดนิทรรศการครั้งที่ 3 นี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค.- 30 พ.ย.นี้ โดยตั้งใจจะวาดพระราชกรณียกิจในในหลวงรัชกาลที่ 9 ให้ได้ 99 ภาพ ประชาชนสามารถเดินทางมาชมได้ที่ร้านที่ร้านคอฟฟี่ เด้อ หล่า สาขา เดอะแกลเลอรี่ ถ.ประชาสำราญ ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ

" ผมมีความตั้งใจว่าจะทำไปเรื่อยๆ เพราะในเวลาที่วาดภาพรูป พระองค์ท่าน ทำให้เราได้กลับไปย้อนมองดูตัวเอง ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ พอได้วาดภาพท่านแล้ว ก็ทำให้เรามีความสุข ได้รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน เป็นแนวทางในการดำรงชีวิต  และตั้งใจจะจัดนิทรรศการภาพวาดพระราชกรณียกิจในในหลวงรัชกาลที่ 9 อย่างนี้ต่อไปในทุกๆปีและไปเรื่อยๆ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดไม่ได้ที่พระมหากษัตริย์พระองค์หนึ่งได้ทรงทำเพื่อพสกนิกรชาวไทย ทั้งนี้ในปีนี้ได้เพิ่มการมีส่วนร่วมให้กับประชาชนที่เดินทางมาชมนิทรรศการ สามารถนำดินสอ ปากกา หรือสี มาวาดเส้นหรือระบายสี หรือจะใส่ข้อความแสดงความจงรักภักดีบนภาพขนาด 80 × 1.20 เมตร ที่ได้ร่างเอาไว้ เมื่อจบนิทรรศการภาพชิ้นนี้จะมอบให้กับทางแกลลอลี่เก็บไว้เป็นที่ระลึก หรือหากมีผู้ได้สนใจมาขอซื้อ ก็จะนำรายได้จากการขายไปทำความดีที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม"

นายเกริกศักดิ์  กล่าวต่ออีกว่า สำหรับผู้ที่สนใจต้องการชมภาพหรือซื้อในพระองค์ท่าน   สามารถติดต่อกับทางแกลอรี่ ได้ทุกๆวัน ซึ่งรายได้ทั้งหมด เมื่อหลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว ก็จะมอบให้กับโรงเรียนการศึกษาคนตาบอดขอนแก่น แล้วก็โรงเรียนศรีสังวาลย์ โดยในการจำหน่ายภาพวาดนั้นได้ทำมาต่อเนื่อเป็นปีที่ 3   โดยในครั้งแรกมอบให้มูลนิธิชัยพัฒนาและโรงเรียนคนตาบอด ส่วนครั้งที่ 2 มอบให้โรงเรียนคนตาบอดและโรงเรียนศรีสังวาลย์ ซึ่งในครั้งที่ 3 ก็จะมอบให้โรงเรียนคนตาบอด และโรงเรียนศรีสังวาลเช่นเดิม