ดริว บรีส์ ควอเตอร์แบ็กของ นิวออร์ลีนส์ เซนต์ส ขว้างได้ระยะ 70,000 หลา ในเกมที่ 248 ที่เขาลงเล่น เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์เอ็นเอฟแอล

 

ดริว บรีส์ ทำสถิติขว้าง 70,000 หลา เร็วสุดในลีก ในเกมที่เขาขว้างหนึ่งทัชดาวน์พา นิวออร์ลีนส์ เซนต์ส ผ่านเข้าสู่รอบเพลย์ออฟ แน่นอนแล้ว หลังเปิดรังชนะ แอตแลนต้า ฟอลคอนส์ 23-13 ในศึกอเมริกันฟุตบอลเอ็นเอฟแอล สัปดาห์ที่ 16 เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา

ลอสแองเจลิส แรมส์, แคนซัสซิตี้ ชีฟส์ และ แคโรไลน่า แพนเธอร์ส ต่างก็คว้าตั๋วเข้าเพลย์ออฟได้ในสัปดาห์รองสุดท้ายของฤดูกาลปกตินี้เช่นกัน  ขณะที่ นิวอิงแลนด์ แพทริอ็อตส์, พิทท์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส, ฟิลาเดลเฟีย อีเกิ้ลส์ และ แจ๊คสันวิลล์ จากัวร์ส เข้ารอบไปก่อนหน้านี้แล้ว

สัปดาห์สุดท้ายของฤดูกาลปกติในวันอาทิตย์หน้าจะเหลือเพียง 3 ตำแหน่งไวลด์คาร์ดที่จะต้องแย่งกันเพื่อเข้าไปเล่นต่อในรอบเพลย์ออฟซึ่งจะเปิดฉากในเดือนมกราคมที่จะถึงนี้

เกมนี้ ดริว บรีส์ ที่ในเดือนหน้าจะอายุครบ 39 ปี ขว้างไป 28 ครั้ง เพื่อนรับได้ 21 ครั้ง ได้ไป 239 หลาพา นิวออร์ลีนส์ เซนต์ส ฉลุยสู่รอบเพลย์ออฟ  ส่วนตนเองนั้นกลายเป็นควอเตอร์แบ็กที่ทำระยะได้เกิน 70,000 หลาได้เร็วที่สุดในเอ็นเอฟแอล

บรีส์ เป็นควอเตอร์แบ็กคนที่สามในประวัติศาสตร์ต่อจาก เพย์ตัน แมนนิ่ง และ เบร็ทท์ ฟาร์ฟ ที่ขว้างได้ระยะถึง 70,000 หลา โดย บรีส์ ทำได้ในเกมที่ 248 ที่ลงเล่น ส่วน แมนนิ่งนั้นเล่นไป 258 เกมถึงทำได้ ขณะที่ ฟาร์ฟ เล่นไป 293 เกมจึงจะขว้างได้ 70,000 หลา

ยอดควอเตอร์แบ็กของ นิวออร์ลีนส์ เซนต์ส จบเกมนี้ทำไป 70,200 หลา  ในฤดูกาลหน้า บรีส์ มีโอกาสที่จะทำลายสถิติตลอดกาลที่ เพย์ตัน แมนนิ่ง ทำไว้ 71,940 หลา

ชัยชนะเกมนี้ทำให้ เซนต์ส มีสถิติ 11-4 ผ่านเข้ารอบเพลย์เพลย์ออฟเป็นครั้งแรกหลังพลาดไป 3 ฤดูกาล ทว่ายังนำกลุ่ม เอ็นเอฟซี เซ้าธ์ ร่วมกับ แคโรไลน่า แพนเธอร์ส (11-4) ที่เฝ้ารังเฉือนชนะ แทมป้าเบย์ บัคคาเนียร์ส 22-19

นิวออร์ลีนส์ มีโอกาสจะคว้าแชมป์ดิวิชั่นหากในสัปดาห์หน้าพวกเขาชนะ แทมป้าเบย์ หรือ แคโรไลน่า บุกไปแพ้ แอตแลนต้า ฟอลคอนส์  โดยในฤดูกาลนี้ เซนต์ส ชนะ แพนเธอร์ส  ทั้งเหย้าและเยือน จึงได้เปรียบในกรณีที่สถิติเท่ากัน

แอตแลนต้า (9-6) มีโอกาสคว้าตั๋วเข้าเพลย์ออฟของสายเอ็นเอฟซีหากเกมนี่พวกเขาชนะ แคโรไลน่า   ซึ่งการพ่ายแพ้เปิดโอกาสให้ ซีแอตเติ้ล ซีฮอว์คส์ (9-6) ที่บุกไปชนะ ดัลลัส คาวบอยส์ 21-12 ยังมีลุ้นเข้ารอบ สัปดาห์หน้า ซีฮอว์คส์ จะเจอกับ อริโซน่า คู่ปรับร่วมกลุ่มเอ็นเอฟซี เวสท์

ซีแอตเติ้ล ซีฮอว์คส์ เป็นทีมแรกต่อจาก ฟิลาเดลเฟีย อีเกิ้ลส์ ชุดปี 1966 ที่ชนะการแข่งขันทั้งๆที่เสียระยะจากการทำโทษมากกว่าระยะเกมบุกของพวกเขาเสียอีก

ท็อดด์ เกอร์ลีย์ ตัววิ่งของ แอลเอ แรมส์ เป็นผู้เล่นคนแรกนับจาก เฮอร์เชล วอล์คเกอร์ ของ ดัลลัส เมื่อปี 1986 ที่ถือบอลวิ่งเกิน 100 หลา และรับบอลจากการขว้างอีกกว่า 150 หลา เกมนี้เขาทำไป 2 ทัชดาวน์ช่วยให้ แรมส์ คว้าแชมป์เอ็นเอฟซี เวสท์ หลังบุกไปชนะ เทนเนสซี ไททันส์ 27-23

 

ท็อดด์ เกอร์ลีย์ ตัววิ่งของ แอลเอ แรมส์ ถือบอลวิ่ง 21 ครั้ง ได้ไป 115 หลา และรับบอลจากการขว้างอีก 10 ครั้งได้ไป 158 หลา รวมถึงการทำทัชดาวน์จากระยะ 3 และ  80 หลาตามลำดับ

จาเร็ด ก็อฟฟ์ ควอเตอร์แบ็กของ แรมส์ ขว้างไป 38 ครั้ง เพื่อนรับได้ 22 ครั้ง ได้ไป 301 หลา เป็นการขว้าง 4 ทัชดาวน์ ซึ่งรวมถึงทัชดาวน์ที่ทำให้ทีมชนะระยะ 14 หลาให้ คูเปอร์ คุปป์ รับในช่วง 11 นาที 51 วินาทีสุดท้ายของเกม

แอลเอ แรมส์ ที่มีสถิติ 11-4 คว้าแชมป์ดิวิชั่นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2003 และเข้าเพลย์ออฟครั้งหลังสุดเมื่อปี 2004 ทั้งสองครั้งนั้นเกิดขึ้นตอนที่ทีมตั้งอยู่ที่ เซนต์สหลุยส์ แต่ถ้านับเฉพาะตอนที่ทีมยังเป็น แอลเอ แรมส์ นั้น พวกเขาชนะดิวิชั่นครั้งหลังสุดเมื่อปี 1985

ทางด้าน อเล็กซ์ สมิธ ควอเตอร์แบ็กของ แคนซัสซิตี้ ชีฟส์ ขว้าง 39 ครั้ง เพื่อนรับได้ 25 ครั้ง 304 หลา เป็นการขว้าง 1 ทัชดาวน์พาทีมเฝ้ารังอัด ไมอามี ดอลฟินส์ 29-13 คว้าแชมป์ดิวิชั่น เอเอฟซี เวสท์ ไปครอง

สรุปผลเอ็นเอฟแอล สัปดาห์ที่ 16 (ทีมหลังเป็นเจ้าบ้าน)
    

•     คลีฟแลนด์ บราวน์ส แพ้ ชิคาโก้ แบร์ส                 3-20
•     ดีทรอยท์ ไลอ้อนส์ แพ้ ซินซินเนติ เบงกอลส์            17-26
•     แอลเอ แรมส์ ชนะ เทนเนสซี ไททันส์                27-23
•     ไมอามี ดอลฟินส์ แพ้ แคนซัสซิตี้ ชีฟส์                13-29
•     บัฟฟาโล บิลล์ส แพ้ นิวอิงแลนด์ แพทริอ็อตส์            16-37
•     แอตแลนต้า ฟอลคอนส์ แพ้ นิวออร์ลีนส์ เซนต์ส            13-23
•     แอลเอ ชาร์จเจอร์ส     ชนะ นิวยอร์ก เจ็ตส์            14-7
•     เดนเวอร์ บรองโก้ส์ แพ้ วอชิงตัน เรดสกินส์            11-27
•     แทมป้าเบย์ บัคคาเนียร์ส แพ้ แคโรไลน่า แพนเธอร์ส        19-22
•     ซีแอตเติ้ล ซีฮอว์คส์ ชนะ ดัลลัส คาวบอยส์             21-12
•     แจ๊คสันวิลล์ จากัวร์ส แพ้ ซานฟรานซิสโก ฟอร์ตี้ไนเนอร์ส         33-44
•     นิวยอร์ก ไจแอ้นท์ส แพ้ อริโซน่า คาร์ดินัลส์            0-23
•     อินเดียนาโปลิส โคลท์ส แพ้ บัลติมอร์ เรฟเว่นส์             16-23
•     มินเนโซต้า ไวกิ้งส์ ชนะ กรีนเบย์ แพ๊คเกอร์ส            0-16